ยอดฉีดเกิน40ล้าน หมอชนบทจี้‘รบ.’ ดันวาระแห่งชาติ


เพิ่มเพื่อน    

 ไทยฉีดวัคซีนทะลุ 40 ล้านโดส นายกฯ ลั่นมีให้ฉีดดีกว่าไม่มี วัคซีนจะทยอยมาเรื่อยๆ “องอาจ” จี้นายกฯ คุมฉีดวัคซีนให้เด็กทันเปิดเรียน พ.ย.นี้ หวั่น “ถูกเท-โดนแกง” ซ้ำซาก "หมอชนบท" จี้รัฐบาลประกาศวาระชาติคืนชีวิต นร.-นศ.ด้วยวัคซีนไฟเซอร์ล็อตตุลา. ดักทางผู้ใหญ่วีไอพีอย่าแย่งวัคซีนของหนูๆ

    เมื่อวันที่ 12 ก.ย. ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. รายงานตัวเลขการฉีดวัคซีนในประเทศไทยรวม 40,060,467 โดส สะสมแบ่งเป็นฉีดวัคซีนเข็มแรก 27,194,487 ราย เพิ่มขึ้น 239,941 ราย เข็มที่สองจำนวน 12,251,011 ราย เพิ่มขึ้น 187,368 ราย และเข็มที่สามสะสมจำนวน 614,969 ราย เพิ่มขึ้น 1,296 ราย
    ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวกับผู้รอฉีดวัคซีนในระหว่างลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่บริเวณจุดบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ชั้น 2 อาคารโรงพยาบาลรามาธิบดีจักรีนฤบดินทร์ ว่า แข็งแรงดีอยู่นะ ส่วนเรื่องวัคซีนเรากำลังรีบอยู่ มีวัคซีนให้ฉีดดีกว่าไม่มี เดี๋ยววัคซีนก็จะทยอยมาเรื่อยๆ ปีหน้าก็จะฉีดได้จนครบ ซึ่งคนที่ฉีดวัคซีนแล้วก็ขอให้ระมัดระวังตัวเองกันด้วย
    การลงพื้นที่ของนายกฯ ครั้งนี้นับเป็นภารกิจแรกในช่วงวันหยุดราชการหลังมีการผ่อนคลายมาตรการ
    นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคและประธาน ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการฉีดวัคซีนให้เด็กว่า นับเป็นเรื่องที่ดีที่จะมีการเร่งฉีดวัคซีนให้เด็กนักเรียนอายุ 12 ปีขึ้นไป ด้วยความยินยอมจากผู้ปกครองให้ทันก่อนเปิดเทอมภาคเรียนที่ 2/2564 การจะให้เด็กกลับไปเรียนหนังสือได้ตามปกติก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยสำคัญ คือการได้ฉีดวัคซีนอย่างทั่วหน้าก่อนเปิดภาคเรียนที่ 2 หรือไม่ อีกทั้งพ่อแม่ผู้ปกครองเด็กก็รู้สึกไม่แน่ใจว่าลูกจะได้ฉีดทันก่อนเปิดเรียน กลัว “ถูกเท” หรือ “ถูกแกง” ซ้ำซาก เพราะข่าวสารของทางราชการเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนให้เด็กตลอดเวลาที่ผ่านมายังสับสนอลหม่าน จึงอยากเรียกร้องไปยังนายกรัฐมนตรีผู้รับผิดชอบสูงสุดของ ศบค.ช่วยบริหารจัดการเรื่องการฉีดวัคซีนให้เด็กให้ชัดเจน ว่าเด็กอายุเท่าไหร่ถึงอายุเท่าไหร่ จะได้ฉีดวัคซีนอะไร จะได้ฉีดเมื่อไหร่ เพื่อให้พ่อแม่ผู้ปกครองเกิดความมั่นใจว่าลูกจะได้ฉีดวัคซีนทันก่อนเปิดเรียนเดือนพฤศจิกายน และจะได้ไม่ต้องทนเรียนออนไลน์ไปตามยถากรรมเหมือนที่ทำอยู่ในปัจจุบัน
    ชมรมแพทย์ชนบทโพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ถึงเวลาแล้วที่รัฐบาลและสังคมไทยจะร่วมกันคืนชีวิตให้นักเรียนนักศึกษา เด็กนักเรียนนักศึกษาอายุ 12-18 ปีในประเทศไทยมี 4.8 ล้านคน สำหรับเด็กกลุ่มนี้ วัคซีนที่เหมาะสมที่ได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลกคือวัคซีนไฟเซอร์ สธ.ได้ประกาศออกมาว่าในเดือนตุลาคมจะมีไฟเซอร์นำเข้ามาได้ 8 ล้านโดส และอีก 2 ล้านโดสที่จะมาสิ้นเดือนกันยายน ทำให้ไทยมีวัคซีนไฟเซอร์อย่างเดียวราว 10 ล้านโดส หากเด็กกลุ่มนี้ทุกคนได้รับไฟเซอร์คนละ 2 เข็ม ห่างกัน 3 สัปดาห์ ก็ต้องใช้วัคซีน 9.6 ล้านโดส ซึ่งแทบจะพอดิบพอดี ดังนั้นในเดือนตุลาคมขอบรรดาผู้ใหญ่อย่ามาแย่งไฟเซอร์ของหนูๆ นะ เพราะหนูๆ จะได้เปิดเทอมกับเขาสักที
    สำหรับครูในโรงเรียน แม่ครัว ภารโรง และแม่ค้าในโรงเรียนทุกคน ก็ต้องได้รับสิทธิ์ในการฉีดวัคซีน 2 เข็มด้วย โดยใช้สูตรซิโนแวค ตามด้วยแอสตร้าฯ ซึ่งจะจบใน 3 สัปดาห์เช่นกัน ส่วนเด็กประถมนั้นต้องรอถกกันอย่างหนักอีกรอบ เพราะวัคซีนหลายยี่ห้อกำลังศึกษาวิจัยความปลอดภัยในเด็กต่ำกว่า 12 ปี แต่ผลการศึกษายังไม่เสร็จ ซึ่งแปลว่าการเปิดเทอมสำหรับนักเรียนประถมยังจะต้องเลื่อนออกไป แม้ สธ.จะได้ประกาศไปแล้วว่าเด็ก 12-18 ปี คือหนึ่งในกลุ่มเป้าหมายของไฟเซอร์ในเดือนตุลาคม แต่บรรดาบุคคลที่ได้ฉีดซิโนแวคสองเข็มหลายล้านคนต่างก็คาดหวังที่จะได้รับไฟเซอร์เข็มสามเหมือนกัน ในนี้มีบรรดาวีไอพีน้อยด้วยที่ได้สิทธิ์ฉีดซิโนแวคสองเข็มไปก่อนใครจำนวนมากด้วย จึงถึงเวลาที่รัฐบาล กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) จะประกาศวาระแห่งชาติดังๆ ชัดๆ ร่วมกันว่า “จะคืนชีวิตให้นักเรียนนักศึกษาด้วยไฟเซอร์ล็อตตุลาคม”
    ศ.นพ.นิธิ มหานนท์ เลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า "4 millions doses of Sinopharm are on the way to Thailand ด้วยความร่วมมือในการจัดสรรของรัฐบาลสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนจีน ขอขอบคุณสถานทูตจีนในประเทศไทยและสถานทูตไทยในจีนที่ช่วยประสาน ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ได้ให้การสนับสนุนวัคซีนตัวเลือกซิโนฟาร์ม (COVILO Sinopharm) พระราชทานในสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ให้แก่จังหวัดที่ พอ.สว.เป็นพื้นที่เสี่ยงสูงสีแดงเข้มและสีแดงของการติดเชื้อ Covid-19 และจังหวัดเชียงรายได้รับวัคซีนตัวเลือกซิโนฟาร์มพระราชทาน จำนวน 5,000 โดส สำหรับให้บริการในกลุ่มเป้าหมาย ผู้นำศาสนา นักบวชในศาสนาต่างๆ ผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาส ผู้อาศัยในชุมชนแออัด หรือบุคคลเร่ร่อนไร้ที่พึ่งในประเทศไทย จำนวน 2,500 คน
    ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊กว่า การกระตุ้นเข็ม 3 เราบุกเบิกและให้ข้อมูลการฉีดวัคซีนไขว้ที่มีการกระตุ้นภูมิต้านทานได้ดี ในทำนองเดียวกันการกระตุ้นเข็มสามด้วยวัคซีนต่างชนิดก็มีผลในการกระตุ้นที่ดีมาก อย่างไรก็ตาม การได้วัคซีนครบ 2 ครั้งตามกำหนดก็สามารถลดความรุนแรงของโรคลงได้ ลดอัตราการเสียชีวิต ลดการนอนในหอผู้ป่วยวิกฤต และเกือบทุกชนิด ในอนาคตคงต้องมีการกระตุ้นครั้งที่ 3 พรุ่งนี้จะแสดงผลการฉีดวัคซีน แล้วติดเชื้อ ภูมิต้านทานขึ้นสูงมากๆ เมื่อเปรียบเทียบกับการติดเชื้อโดยไม่ได้ฉีดวัคซีน.
   


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"