พ่อฟ้าโผล่โหน สลายทะลุแก๊ส คฝ.อาการหนัก


เพิ่มเพื่อน    

 ตำรวจรวบฮาร์ดคอทะลุแก๊สรวดเดียว 52 คน ขณะที่อาการ คฝ.เหยื่อไปป์บอมบ์สนามรบดินแดงสาหัสเลือดออกในสมอง แพทย์ระดมผ่าตัดกว่า 8 ชม. ด้านพ่อฟ้าโหวกเหวกในโซเชียล ร้องสภาสอบรัฐลุอำนาจทำร้าย ปชช.

    เมื่อวันอาทิตย์ ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. กล่าวว่า วันนี้กลุ่มทะลุแก๊ส และกลุ่มต่อต้านเผด็จการมีการชักชวนให้ก่อเหตุความวุ่นวายสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่สามเหลี่ยมดินแดง นัดหมายเวลา 17.00-20.30 น. ทั้งนี้ สำหรับการก่อความไม่สงบเรียบร้อยวันที่ 11 ก.ย. ที่สามแยกดินแดงและบริเวณใกล้เคียง ยังคงมีการละเมิดกฎหมายหลายบทบัญญัติ ทำลายทรัพย์สินของราชการและเอกชน มีการจุดเพลิงเผาทรัพย์ ขว้างปาระเบิดแสวงเครื่องใส่สถานที่ราชการ ทั้งกรมดุริยางค์ทหารฯ รพ.ทหารผ่านศึก มีการจุดเพลิงเผาสิ่งต่างๆ โดยเฉพาะทรัพย์สินของการทางพิเศษฯ
    พล.ต.ต.ปิยะระบุว่า กระทั่งเวลา 21.15 น. เจ้าหน้าที่จึงเข้าบังคับใช้กฎหมาย สามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุ 52 คน ในจำนวนนั้นเป็นเด็กเยาวชน 9 คน นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี  พ.ร.ก.ฉุกเฉิน, พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ, ร่วมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปก่อความไม่สงบเรียบร้อยในบ้านเมืองโดยใช้อาวุธ เจ้าหน้าที่สั่งให้ยุติการดำเนินการแล้วไม่ยุติ, ต่อสู้ขัดขวางทำร้ายเจ้าพนักงาน
    “ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่จะได้พิสูจน์ทราบตัวบุคคลที่กระทำความผิดที่เหลือ ผู้มีส่วนให้การช่วยเหลือ สนับสนุนส่งเสริมมาดำเนินคดี ในกรณีการจับกุม 52 คน มีต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา 2 คน จะถูกดำเนินคดี พ.ร.บ.คนเข้าเมือง หลังจากการดำเนินคดีแล้วเสร็จจะถูกส่งตัวออกนอกราชอาณาจักร ขึ้นบัญชีเป็นบุคคลต้องห้าม สรุปผลการดำเนินคดีกับผู้ชุมนุมและผู้ก่อเหตุช่วงเดือน ก.ค.64 ถึงปัจจุบัน ขณะนี้ติดตามจับกุมตัวได้แล้ว 509 คน” พล.ต.ต.ปิยะระบุ
    พล.ต.ต.ปิยะกล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่มีการแชร์ภาพ คฝ.เข้าจับกุมผู้พักที่แฟลตดินแดงที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการชุมนุมและถีบเด็กตกลงมาใส่หลังคาจนทะลุนั้น  เป็นข่าวปลอม บช.น.จะได้ประสานกับ บช.สอท.ดำเนินคดีกับผู้ที่นำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพ์ การปฏิบัติการที่แฟลตดินแดงเจ้าหน้าที่เข้าไปเฉพาะชั้นล่าง ต้องขอขอบคุณประชาชนที่แฟลตดินแดงที่ให้ความร่วมมือและให้ข่าวสารกับเจ้าหน้าที่ การบังคับใช้กฎหมายเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้เป็นจำนวนมาก มีการปิดประตูบ้านเรือน ปิดอาคารไม่ให้ผู้ก่อเหตุเข้าไปใช้พื้นที่หลบซ่อนตัวและก่อเหตุ และผลักดันผู้ก่อเหตุให้ออกมา เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวได้จำนวนมาก  ประชาชนที่แฟลตดินแดงเห็นใจตำรวจอยากให้เหตุการณ์นี้จบลง
    พล.ต.ต.ปิยะระบุว่า ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 5 นาย สาหัส 1 นาย ถูกระเบิดขว้างเข้าที่ใบหน้าซีกขวา อยู่ในห้องไอซียูของ รพ.ตำรวจ แพทย์ทำการรักษาพบว่ากระดูกใบหน้าได้รับอันตรายและที่ดวงตาข้างขวาได้รับอันตราย
    “พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้เน้นให้เจ้าหน้าที่ใช้อุปกรณ์ป้องกันยุทธวิธีตามมาตรการและกฎหมายที่เรามีอยู่ เพื่อให้ตำรวจและประชาชนได้รับความปลอดภัย ถึงแม้เจ้าหน้าที่จะมีอุปกรณ์ป้องกัน แต่ไม่ใช่คำตอบสุดท้าย  ถ้าถูกอาวุธหนักๆ หรืออย่างอาวุธปืนเหมือนที่ผ่านมา อุปกรณ์ที่มีอยู่ป้องกันได้แค่ระดับหนึ่ง ป้องกันฝูงชนในระดับปกติ ผู้ชุมนุมยกระดับความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆเจ้าหน้าที่ได้มีการปรับมาตรการในการรักษาความสงบเรียบร้อย แต่ให้เกิด ความปลอดภัยทุกฝ่าย ทั้งตัวเจ้าหน้าที่ ประชาชน แม้กระทั่งตัวผู้ถูกจับกุม"   พล.ต.ต.ปิยะระบุ
    พ.ต.อ.หญิงศิริกุล กฤตพิทยบูรณ์ รองโฆษก ตร. กล่าวว่า อาการล่าสุดของ ส.ต.ต.ธนาวุฒิ จิรคเชนทร์ อายุ 28 ปี  สังกัด ผบ.หมู่.บก.อคฝ. เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลตำรวจ โดยแพทย์ทำการวินิจฉัยโรคว่ามีเลือดออกในสมอง กระดูกเบ้าตาด้านขวาแตก มีแผลฉีกขาดบริเวณใบหน้าและตาขวา ขนาดประมาณ 15x15 เซนติเมตร ได้เข้ารับการผ่าตัดอย่างเร่งด่วน โดยระดมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหลายสาขาร่วมดำเนินการผ่าตัด ใช้เวลา 8 ชั่วโมง ผู้ป่วยยังไม่สามารถหายใจเองได้ และหลังผ่าตัดต้องได้รับการรักษาดูแลอย่างใกล้ชิดที่หอผู้ป่วยวิกฤต
    วันเดียวกัน นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเรียกร้องให้รัฐสภาตรวจสอบการกระทำของเจ้าหน้าที่ในการสลายการชุมนุมที่ดินแดงเมื่อวันที่ 11 ก.ย.64 โดยมีข้อความดังนี้ ผมขอเรียกร้องให้รัฐสภา ในฐานะองค์กรสูงสุดที่ทำหน้าที่ผู้แทนประชาชน สอบสวนการกระทำเกินขอบเขตของเจ้าหน้าที่รัฐ และการละเมิดเสรีภาพสื่อมวลชน ที่เกิดขึ้นระหว่างการปราบปรามการชุมนุมที่ดินแดงเมื่อวันที่  11 กันยายนที่ผ่านมาโดยเร็วที่สุด อย่าปล่อยให้รัฐลุแก่อำนาจ กระทำกับประชาชนผู้เป็นเจ้าของประเทศแบบนี้อีก
    ด้านเพจเฟซบุ๊กของคณะก้าวหน้า ได้เผยแพร่ข้อความประณามการใช้ความรุนแรงปราบปรามประชาชนและเรียกร้องให้ยุติทันที รวมทั้งเปิดพื้นที่ให้ประชาชนใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงออกทางการเมืองได้ตามกฎหมาย
    ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในวันจันทร์ที่ 13 ก.ย. เวลา 10.00 น. พนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง ได้นัดหมายส่งตัวผู้ต้องหาพร้อมทั้งสำนวนทั้งหมด 32 คน ให้พนักงานอัยการดำเนินคดีแกนนำไทยไม่ทน คณะสามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย ประมาณ 32 คน ที่สำนักงานอัยการพิเศษ คดีศาลแขวง 3 ในคดีจัดชุมนุมหน้าทำเนียบรัฐบาล ไล่ พล.อ.ประยุทธ์ ระหว่างวันที่ 24, 26 มิถุนายน, 3, 11 กรกฎาคม ในข้อหาละเมิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ตามมาตรา 9 กีดขวางการจราจร ร่วมกันใช้เครื่องขยายเสียง และขัด พ.ร.บ.ความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยฯ รวมคนละ 4 ข้อหา
    นำโดยนายวีระ สมความคิด, นายเมธา มาสขาว, นางสาวธิษะณา ชุณหะวัณ, นายจำนงค์ หนูพันธ์, นายธนาวุฒิ วิชัยดิษฐ, นายไทกร พลสุวรรณ์, นายยศวริศ ชูกล่อม, นายนันทพงษ์ ปานมาศ, ส.อ.ณรงค์ชัย อินทรกวี, นายณัทพัช  อัคฮาด, นายธนเดช ศรีสงคราม (ม่อน อาชีวะ),  นายจอมพล รุ่งเรืองชูเลิศ, นายเศวต ทินกูล ฯลฯ (พร้อมด้วยทนายความสิทธิมนุษยชนอาวุโส นายสมชาย หอมลออ, นายศิริพงษ์ สกุลเลิศทรัพย์, นายปรีดา นาคผิว) ซึ่งนัดพร้อมกันที่สำนักงานอัยการพิเศษ คดีศาลแขวง 3.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"