‘ลิซ่า’กระตุ้นยอดขายลูกชิ้นยืนกิน


เพิ่มเพื่อน    

กระแส “ลิซ่า Blackpink” ฟีเวอร์ส่งผลแม่ค้าขายลูกชิ้นยืนกินบุรีรัมย์เป็นปลื้มมียอดขายดีขึ้นทันที หลังซบเซาจากสถานการณ์โควิด-19 โดยทางเจ้าตัวให้สัมภาษณ์รายการดังอยากกลับบ้านมากิน "ลูกชิ้นยืนกิน" พร้อมกันนี้ต่างขอบคุณที่ไม่ลืมบ้านเกิด ซึ่งลูกชิ้นยืนกินเป็นเอกลักษณ์การกินแห่งเดียวในไทยและในโลก
    วันนี้ (12 ก.ย.64) หลังจากลิซ่า BLACKPINK หรือ ลลิษา มโนบาล ได้ปล่อยซิงเกิลเดี่ยวออกมาจนยอดวิวพุ่งทะลุไม่หยุด ล่าสุดเธอได้ออกมาพูดคุยในรายการ WOODY SHOW ออกอากาศทางช่อง 7HD และเป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่เธอได้ออกมาให้สัมภาษณ์ โดยเธอเผยว่า เป็นเวลาเกือบ 2 ปีแล้วที่เธอไม่ได้กลับประเทศไทยเลย สิ่งแรกที่เธอคิดถึงเลยคือ คุณพ่อคุณแม่ คิดถึงอาหารที่พวกเขาทำให้กิน และบอกว่าอยากกลับไปบ้านเกิดที่จังหวัดบุรีรัมย์
    สิ่งแรกที่จะทำคือกลับไปไหว้คุณตา และอีกหนึ่งสิ่งที่ลิซ่าอยากทำก็คือ ไปกินลูกชิ้นยืนกินที่สถานีรถไฟบุรีรัมย์ เธอเผยว่า “ที่เกาหลีไม่มีเลย มันเด็ดตรงที่น้ำจิ้มบุรีรัมย์เจ้านั้นมันเด็ดมากๆ หาไม่ได้” ซึ่งสำหรับลิซ่า จะต้องเป็นเจ้าที่มีน้ำพริกเผาเท่านั้น
    จากการให้สัมภาษณ์ดังกล่าว ทางผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บริเวณชานชาลา หลังสถานีรถไฟบุรีรัมย์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นสถานที่เปิดให้พ่อค้าแม่ค้าขาย “ลูกชิ้นยืนกิน” ที่มีอยู่กว่า 10 ร้าน ในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ ที่มีเอกลักษณ์การกินที่ไม่เหมือนใคร และมีเพียงจังหวัดเดียวในประเทศไทย หรือแห่งเดียวในโลก โดยลูกชิ้นทอดซึ่งเน้นเป็นลูกชิ้นหมูนั้น มีความนุ่มอร่อย ที่สำคัญ น้ำจิ้มเป็นสูตรเฉพาะทำจากน้ำมะขามเปียก พร้อมมีกลิ่นหอมของพริกทอด ทำให้รสชาติเป็นที่ถูกปากของลูกค้า
    โดยพ่อค้าแม่ค้าขายลูกชิ้นยืนกินต่างบอกว่า ก่อนหน้านี้ได้รับผลกระทบขายไม่ดี ตั้งแต่ช่วงการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ระลอกใหม่ ทำให้ลูกค้าลดลง และนักท่องเที่ยวไม่มาซื้อยืนกินลูกชิ้นหน้ารถเข็น ส่งผลให้พ่อค้าขายลูกชิ้นแต่ละร้านมียอดขายลดลงมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์
    แต่พอมีข่าว ลิซ่า BLACKPINK หรือ ลลิษา มโนบาล บอกว่า อยากกลับไทย ไปบ้านเกิดที่จังหวัดบุรีรัมย์ กินลูกชิ้นบุรีรัมย์ เริ่มมีประชาชนและนักท่องเที่ยวออกมาซื้อและยืนกินที่รถเข็นแล้ว หรือสั่งผ่านแกร็บ ส่งผลให้พ่อค้าขายลูกชิ้นแต่ละร้านมียอดขายเพิ่มขึ้นมาบ้าง
    ต่างยังฝากขอบคุณลิซ่า รู้สึกเป็นปลื้ม ดีใจ ที่ไม่ลืมบ้านเกิด และทำให้คนทั่วโลกได้รู้ว่าลูกชื้นยืนกินยังมีอยู่ และเป็นเอกลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของคนบุรีรัมย์ อีกทั้ง MV ของน้องลิซ่าก็เป็นรูปปราสาทพนมรุ้ง ซึ่งถือเป็นโบราณสถานอันศักดิ์สิทธิ์และสวยงาม เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดบุรีรัมย์และประเทศไทย
    นางสาวรุ่งอรุณ ชนะทะเล อายุ 44 ปี แม่ค้า เจ้าของต้นตำรับลูกชิ้นยืนกิน “ป้านก” รุ่นที่ 2 ที่ขายมานานกว่า 40 ปี บอกว่า ก่อนหน้านี้ ช่วงการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ระลอกใหม่ ทำให้ยอดขายลดลงมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ แต่เชื่อว่าหลังจากลิซ่า BLACKPINK บอกอยากกลับไทยมากินลูกชิ้นบุรีรัมย์ ก็น่าจะทำให้ลูกชิ้นยืนกินบุรีรัมย์ขายดีขึ้น ซึ่งก็เริ่มมีประชาชนและนักท่องเที่ยวออกมาซื้อลูกชิ้น หรือสั่งผ่านแกร็บ ส่งผลให้พ่อค้าขายลูกชิ้นแต่ละร้านมียอดขายเพิ่มขึ้นมาบ้าง
    “อยากจะขอบคุณน้องลิซ่า รู้สึกปลื้ม ดีใจ ที่ยังไม่ลืมถิ่นฐานบ้านเกิดของเราที่ จ.บุรีรัมย์ และชอบที่น้องพูดว่าอยากมายืนกินลูกชิ้นยืนกินบุรีรัมย์ ตรงหอนาฬิกา” นางสาวรุ่งอรุณกล่าว
    สำหรับ “ลูกชิ้นยืนกินบุรีรัมย์” จะเปิดขายทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00-18.00 น. ที่บริเวณชานชาลา หลังสถานีรถไฟบุรีรัมย์ ในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ จะขายไม้ละ 3 บาท 7 ไม้ 20 บาท.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"