อสมท ผนึกพาร์ทเนอร์ เปิดตัวโมเดลธุรกิจใหม่ไวร์เลสบรอดแบรนด์ทีวี ครั้งแรกในไทย บนคลื่นความถี่ 2.6 GHz  เผยเป็นตัวช่วยกระจายความเสี่ยง ไม่พึ่งพาเม็ดเงินโฆษณามากเกินไป

นายเขมทัตต์ พลเดช กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังจากบริษัทได้ทำการปรับปรุงเทคโนโลยีของโครงข่าย  BWA   และได้รับเลขรหัสโครงข่าย (MNC) สำหรับเทคโนโลยี  BWA  และได้รับอนุญาตเกี่ยวกับเครื่องวิทยุคมนาคมต่างๆ ที่จำเป็นและเกี่ยวข้องโดยครบถ้วน  จากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง  กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)  ขณะนี้บริษัทพร้อมแล้วที่จะนำคลื่นความถี่ย่าน  2.6 GHz  มาทำการทดลองเชิงตลาดในรูปแบบไวร์เลสบรอดแบรนด์ทีวี  โดยมีบริษัทเพลย์เวิร์ค เป็นผู้ดูแลในเรื่องดังกล่าว

สำหรับการทดลองตลาดในเบื้องต้น มีพาร์ทเนอร์อย่าง บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด และบริษัท ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด เป็นผู้นำพาสัญญาณใน 30 จุด หรือติดตั้งเสาโครงข่ายที่ส่วนมากจะเป็นเขตกรุงเทพฯ และหัวเมืองบางแห่ง ทำให้ยังไม่ต้องใช้งบประมาณการลงทุน หลังจากนั้นจะมาดูว่าค่าใช้จ่ายเป็นอย่างไร โดยการลงทุนน่าจะอยู่ในปี 2562 หรือปี 2563 ขณะเดียวกันในส่วนของทรูและเอไอเอชอาจมีส่วนแบ่ง หรือเป็นค่าเช่าโครงข่ายในอนาคต

ทั้งนี้ คลื่น 2.6 GHz  เป็นความแรงสุดท้ายที่ส่วนมากส่งเป็นสตรีมมิ่ง  ขณะนี้ อสมท. มีฟุตเทจอยู่มากกว่า 7 หมื่นชั่วโมง ซึ่งจะทำการแปลงไฟล์เป็นดิจิทัลเพื่อนำมาใช้งาน สำหรับคอนเทนต์บนคลื่นนี้จะไปได้เร็ว เข้าถึงเร็ว ซึ่งจะคนละส่วนกับคลื่นโทรศัพท์มือถืออื่นๆ ที่ส่วนใหญ่เน้นการดูข้อมูลมากกว่า
ส่วนกลุ่มเป้าหมายจะเป็นผู้อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ ที่มีพฤติกรรมต้องการรับสตรีมมิ่งที่ชัดและเร็ว  โดยเนื้อหาของการเข้าถึงและค่าใช้จ่ายค่าบริการ จะให้เพลย์เวิร์คแจ้งอีกครั้ง  โดยจุดเด่นของคลื่นนี้เป็นสตรีมมิ่งเร็วสุด ลึกสุด  ซึ่งนับว่ามีความเหมาะกับการสตรีมมิ่งดูเนื้อหาเกี่ยวกับบันเทิงโดยเฉพาะ สำหรับคอนเทนต์ส่วนหนึ่งจะมาจากบริษัท และอีกส่วนจะเป็นเพลย์เวิร์คจัดหามาในฐานะการตลาด  ทั้งยังเห็นว่าน่าจะทำให้คอนเทนต์โพรไวเดอร์สนในเข้ามารันบนแพลตฟอร์มนี้ในอนาคต

“แพลตฟอร์มใหม่ที่กำลังจะสร้างขึ้นนี้ ถือเป็นเทคโนโลยีใหม่มากในเมืองไทย จึงต้องมีการประชาสัมพันธ์ไปยังกลุ่มเป้าหมาย  หลังจาก 6 เดือนผ่านไปแล้วสิ่งที่ต้องเห็น คือการตอบรับคอนเทนต์ ย่านความถี่ พื้นที่ และแนวทางการทำตลาด หรือแม้กระทั่งเรื่องของอุปกรณ์ว่าต้องมีตัวรับไหม ทุกสิ่งจะเชื่อมโยงมายังแผนงานการทำธุรกิจต่อจากนั้น  คาดว่ารายได้ปีแรกจากการทำคอมเมอร์เชียลจะอยู่ที่ประมาณ 300 ล้านบาท เป็นอีกหนึ่งการกระจายความเสี่ยงของ อสมท เนื่องจากสถานนีแทบทุกช่องไปพึ่งเม็ดเงินโฆษณาด้วยจำนวนช่องที่มากขึ้น จึงต้องมีวิธีการหาเงิน และกระจายความเสี่ยง คือทำให้หลากหลาย บางรายทำความงามหรือไปจัดอีเว้นท์” นายเขมทัตต์ กล่าว