สวนสัตว์แอตแลนตาในรัฐจอร์เจียทางภาคใต้ของสหรัฐกำลังรักษาลิงกอริลลา 13 ตัวของสวนสัตว์ที่ตรวจพบว่าติดไวรัสโควิด-19 คาดว่าติดจากผู้ดูแลที่ติดเชื้อแต่ไม่แสดงอาการ

แฟ้มภาพ อีแวน กอริลลาที่ราบลุ่มตะวันตกในสวนสัตว์แอตแลนตา (Getty Images)

    รายงานเอเอฟพีเมื่อวันอาทิตย์ที่ 12 กันยายน กล่าวว่า พนักงานดูแลสัตว์สังเกตเห็นว่า กอริลลาที่ราบลุ่มตะวันตกหลายตัวไอและมีอาการอื่นๆ และผลตรวจเบื้องต้นบ่งชี้ว่าพวกมันมีเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 ที่ก่อโรคโควิด-19 คำแถลงเมื่อวันศุกร์กล่าวว่า สวนสัตว์กำลังรอการทดสอบยืนยันจากห้องปฏิบัติการทางสัตวแพทย์แห่งชาติในเมืองเอมส์ รัฐไอโอวา

    สวนสัตว์แห่งนี้มีกอริลลาทั้งสิ้น 20 ตัว ทุกตัวถูกตรวจหาเชื้อแล้ว โดยพบว่ามี 13 ตัวติดไวรัส รวมถึงออสซี่ อายุ 60 ปี ที่เป็นกอริลลาเลี้ยงเพศผู้อายุมากที่สุด กอริลลาที่มีความเสี่ยงกับการเกิดภาวะแทรกซ้อนกำลังได้รับสารภูมิต้านทานแบบโมโนโคลนอล

    แซม ริเวรา ผู้อำนวยการอาวุโสด้านอนามัยสัตว์ของสวนสัตว์แอตแลนตา กล่าวว่า ทีมงานกำลังเฝ้าสังเกตอาการกอริลลาอย่างใกล้ชิด และหวังว่าพวกมันจะหายดี

    "เรากังวลมากที่เกิดการติดเชื้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาจากระเบียบปฏิบัติด้านความปลอดภัยของเราเมื่อทำงานกับลิงใหญ่และสัตว์ชนิดพันธุ์ที่มีความไวต่อการรับเชื้อ ซึ่งตลอดช่วงที่มีการระบาดนั้นมีความเข้มงวดมาก" เจ้าหน้าที่ผู้นี้กล่าว

    สวนสัตว์แอตแลนตาเชื่อว่ากอริลลาเหล่านี้ติดเชื้อจากผู้ดูแลที่ติดเชื้อแต่ไม่มีอาการ ทั้งๆ ที่ลูกจ้างรายนี้ฉีดวัคซีนครบแล้วและสวมชุดป้องกันส่วนบุคคลระหว่างการปฏิบัติงานด้วย

    คำแถลงกล่าวว่า ถึงแม้จะเป็นที่รู้กันว่ามนุษย์สามารถแพร่ไวรัสสู่สัตว์เช่นกอริลลาได้ แต่กรณีเหล่านี้เกิดในสวนสัตว์อื่นๆ และตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลบ่งชี้ว่าสัตว์ในสวนสัตว์แพร่ไวรัสสู่มนุษย์ได้ แต่ไม่ว่าอย่างไร ผู้ที่มาใช้เที่ยวสวนสัตว์แห่งนี้ไม่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ เนื่องจากอยู่ในระยะห่างจากกรงของลิงใหญ่เหล่านี้

    สวนสัตว์แอตแลนตาได้รับอนุญาตให้ใช้วัคซีนโซเอทิส ที่พัฒนาเพื่อใช้กับสัตว์ และจะฉีดให้กอริลลาหลังจากพวกมันหายจากโรคแล้ว สัตว์ชนิดอื่นๆ เช่น ลิงอุรังอุตัง, เสือสุมาตรา, สิงโตแอฟริกาและเสือลายเมฆ จะได้ฉีดวัคซีนเช่นกัน

    นอกจากกรณีสัตว์ในสวนสัตว์ติดเชื้อแล้ว ก็ยังเป็นที่รับรู้กันว่าสัตว์เลี้ยงในบ้านเช่นสุนัขและแมวก็ติดเชื้อไวรัสได้.