กทท.โชว์ตัวเลขขนส่งตู้สินค้าโต 4.717%


เพิ่มเพื่อน    

กทท.เผยผลดำเนินงาน 5 ท่าเรือหลัก ในรอบ 6 เดือน ขนตู้สินค้า โต 4.717% เมื่อเทียบกับปีก่อน หลังได้รับอนิสงค์จากปัจจัยเชิงบวกต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั่วโลกนั้น ส่งผลต่อเศรษฐกิจไทยที่เริ่มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง

เรือตรีทรงธรรม จันทประสิทธิ์ รองผอ.การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) สายวิศวกรรม รักษาการแทนผู้อำนวยการ กทท. เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานให้บริการเรือ สินค้า และตู้สินค้า ผ่านท่าเรือกรุงเทพ (ทกท.) ท่าเรือแหลมฉบัง (ทลฉ.) ท่าเรือพาณิชย์เชียงแสน (ทชส.) ท่าเรือเชียงของ (ทชข.) และท่าเรือระนอง (ทรน.) ในช่วงระยะ 6 เดือนประจำปีงบประมาณ 2561 (ต.ค. 2560 – มี.ค. 2561) ทั้งนี้ หากเปรียบเทียบเฉพาะท่าเรือสำคัญ 2 ท่า คือ ทกท. และ ทลฉ.พบว่า มีอัตราเติบโตเพิ่มสูงขึ้นทั้งด้านปริมาณตู้สินค้าและสินค้าผ่านท่าที่ 4.717% และ 4.634% ตามลำดับ

อย่างไรก็ตามหากมีการเปรียบเทียบรายท่ากับปีก่อนจะเห็นว่าทกท. เรือเทียบท่า 1,550 เที่ยว เพิ่มขึ้น 5.370% สินค้าผ่านท่า 10.934 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 6.474% ตู้สินค้าผ่านท่า 0.750 ล้าน ที.อี.ยู. เพิ่มขึ้น 1.426%,ทลฉ. เรือเทียบท่า 6,598 เที่ยว ลดลง 1.990% สินค้าผ่านท่า 40.733 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 4.151% ตู้สินค้าผ่านท่า 3.972 ล้าน ที.อี.ยู. เพิ่มขึ้น 5.363%ทชส. เรือเทียบท่า 2,166 เที่ยว เพิ่มขึ้น 6.752% สินค้าผ่านท่า 150,850 ตัน เพิ่มขึ้น 71.368%, ทชข. เรือเทียบท่า 247 เที่ยว ลดลง 31.198% สินค้าผ่านท่า 38,546 ตัน ลดลง 3.214% และทรน. เรือเทียบท่า 156 เที่ยว เพิ่มขึ้น 22.835% สินค้าผ่านท่า 40,712 ตัน เพิ่มขึ้น 55.728%

สำหรับในช่วงต้นปี 2561 ที่ผ่านมา ทั่วโลกประสบกับความผันผวนและความไม่แน่นอนทางด้านการเมือง โดยเฉพาะสองประเทศอย่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ อีกทั้งความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน แต่ในรอบเดือนที่ผ่านมา สถานการณ์ต่างๆ เริ่มคลี่คลาย ปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ลดลง ส่งผลให้เศรษฐกิจโลก คาดว่าจะฟื้นตัวดีขึ้นเป็นลำดับและต่อเนื่อง ซึ่งจะเห็นได้จากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางของประเทศต่างๆ รวมถึงราคาสินค้า ราคาน้ำมัน ราคาทองคำ ทั่วโลกที่ปรับตัวสูงขึ้น ถือเป็นสัญญาณที่ส่งผลต่อการค้าขายระหว่างประเทศ

เรือตรี ทรงธรรม กล่าวว่าองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ได้คาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้เท่ากับ 3.8% ลดลงจากที่คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 3.9% เนื่องจากยังคงมีความเสี่ยงจากความขัดแย้งทางการค้าและราคาน้ำมันที่พุ่งตัวสูงขึ้น จากปัจจัยเชิงบวกต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั่วโลกนั้น ส่งผล เชิงบวกต่อเศรษฐกิจไทยที่เริ่มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ทำให้ค่าเงินบาทเริ่มอ่อนค่าลง รวมทั้งคาดว่าจะได้รับ แรงส่งจากภาคส่งออกสินค้าและบริการ รวมถึงการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของการใช้จ่ายภายในประเทศ โดยเฉพาะภาคการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐที่ถือเป็นแรงสนับสนุนหลักให้เศรษฐกิจไทยมีโอกาสเติบโต ได้สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้เดิมที่ระดับ 4%


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"