พระเสาร์จร(7)เดินถอยหลังในราศีมังกรตั้งแต่ 26 พฤษภาคม 2564

พระเสาร์จร(7) วกกลับและเริ่มเดินหน้าในราศีมังกรตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน 2564เป็นต้นไป

พระพฤหัสบดีจร(5) เดินในราศีมังกรระหว่าง 27 กันยายน-9 พฤศจิกายน 2564

ในที่สุดลางเกี่ยวกับรัฐบาล-ฝ่ายตรงข้ามหรือฝ่ายค้านที่ผู้เขียนเคยทำนายไว้ข้ามปีตั้งแต่ 18 ธันวาคม 2563 ในแม่หมอสมัครเล่นตอนที่ 355 ชื่อตอนเกณฑ์สำคัญชะตาเมืองปี 2564 ตอนที่สอง ว่าด้วยเรื่องสำคัญของรัฐบาลก็เกิดครบตามที่คาดหมายแนวโน้มไปแล้ว

เพื่อเตือนความจำขอย้อนกลับไปที่คำทำนายดังกล่าวคือ “5.1แม้รัฐบาลจะมั่นคงเพียงใด แต่จะเริ่มก่อกวนกัน-เขย่าเพื่อเปลี่ยนแปลงหรือปรับคณะรัฐมนตรีครั้งใหญ่ หรือไม่ก็อาจจะทบทวนนโยบายสำคัญหรือวิธีทำงานอย่างมากเริ่มประมาณ25-26พฤษภาคม 2564เป็นต้นไปซึ่งคาดหมายว่าสถานการณ์นี้คงทำเอาผู้นำรัฐบาลอึดอัด ผะอืดผะอมกลืนไม่เข้าคายไม่ออกยาวนานไปถึงประมาณสิ้นเดือนกันยายน 2564 เลยทีเดียว…”

โดย ผลที่เกิดขึ้นคือเริ่มตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมามีการปรับมาตรการรับมือโควิด19 สายพันธุ์เดลต้า-ซึ่งเป็นหนึ่งในอาการหินลาภ-ลาภที่ไม่อยากได้(ทักษาจรเมืองตกภูมิเสาร์)อุตหลุดทั้งพื้นที่-วิธีควบคุม-สูตรวัคซีนไขว้+ฝ่ายตรงข้ามหรือฝ่ายค้านขึ้นสู่กระแสสูงทั้งม็อบทะลุฟ้า+ทะลุแก๊ส+คาร์ม็อบ+อภิปรายไม่ไว้วางใจ+ก่อกวนกันเองในพรรคพลังประชารัฐช่วงอภิปรายและลงมติไม่ไว้ไว้ใจ
                
สุดท้ายพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็หนีลางในเกณฑ์ชะตาเมืองไม่พ้นคือเมื่อวันที่ 8 กันยายน 2564 ที่ผ่านมาได้รับสนองพระบรมราชโองการฯลฯปลดรัฐมนตรีช่วยว่าการสองคนคือร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมช.กระทรวงแรงงาน 

นี่คือนิยามปรับคณะรัฐมนตรีที่รอการเขย่าอยู่ทั้งตำแหน่งที่ว่างและตำแหน่งอื่น

ทั้งหลายทั้งปวงนี้ทางโหราศาสตร์ดวงเมืองเป็นลางหรือแนวโน้มจากพระเสาร์จร(7)ตัวแทนรัฐบาล-การบริหารประเทศเดินถอยหลัง-ถอยร่นกรูดๆ- ฝ่ายตรงข้ามจึงรุกก่อกวน-เจาะยางได้

ตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน 2564 เป็นต้นไปเมื่อพระเสาร์จรจะวกกลับจากเดินถอยหลังเป็นเดินหน้าแล้วอะไรจะเกิดกับรัฐบาล-การบริการบ้านเมือง-ฝ่ายค้านหรือฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลซึ่งผู้เขียนขอสรุปการคาดหมายเกณฑ์โหรที่ผู้เขียนเคยให้สัมภาษณ์และเขียนในที่ต่างๆไว้ก่อนหน้านี้ซ้ำและขยายเพิ่มดังนี้
           
1.ย้ำคำทำนายเดิมคือนายกรัฐมนตรีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ถ้าเถลือกไถลไปถึง 27 กันยายน 2564 ชะตาจะฟื้นเข้มแข็งอีกรอบ(เกณฑ์พฤหัสบดีจร5ทับลัคนาที่คาดว่าสถิตราศีมังกร+ ถึงพระจันทร์ดวงเดิม๒-มีโชคพอได้ชื่นใจ) ต้องลำบากใจในการเลือกระหว่างของสองอย่างหรือคนสองฝ่าย(พฤหัสบดีจร5ถึงพฤหัสบดีดวงเดิม๕)
               
ครั้น30กันยายน 2564 ชีวิตเริ่มเดิมหน้าอีกรอบ(พระเสาร์จร7ดาวประจำชีพเดินหน้า) แต่เดินหน้าอย่างไรก็เป็นไปท่ามกลางการแบกภาระหนักหน่วงและถูกไล่เป็นระยะๆ (พระเสาร์จร7ทับลัคนา)เพียงแต่จะไล่สำเร็จหรือไม่เท่านั้น 
                
ชีวิตเดินหน้าอย่างไรต้องระวังมีเรื่องราว-ปากคำกับพี่น้องหรือคนที่รักกันเหมือนพี่น้องที่อาจมีผิดหวังหรือพลัดพรากสูญเสียในระยะยาว
                
และระยะยาวต้องระวังงานหนัก-กรรมเก่าแรงเกี่ยวกับกระดูกหรือเส้นประสาทหรือลำใส้หรือผิวหนังหรือภูมิแพ้รวมทั้งหัวใจหรือหลัง(พระเสาร์จรถึงพระเสาร์ดวงเดิม๗และพระอาทิตย์ดวงเดิม๑)
              
2.ฝั่งรัฐบาลตั้งแต่30กันยายน 2564เป็นต้นไป หลังจากปรับการทำงานมานานแล้วจะเป็นวาระของการเดินหน้าอีกรอบ ซึ่งจะสอดคล้องกับระยะเวลาที่จะเปิดประเทศ
                
โดยช่วงของการปรับรัฐบาลและการทำงานครั้งใหญ่ระดับสั่นสะเทือนคล้ายๆแผ่นดินไหวย่อมๆคือระหว่าง 27 กันยายน-9 พฤศจิกายน 2564 (พระพฤหัสบดีจร5กุมพระเสาร์จร7ในราศีมังกร-อีกทั้งเมืองอาจจะมีแผ่นดินไหวจริงให้พอได้ตื่นเต้นจากที่ไหวอยู่บ่อยๆ-เบาๆอยู่แล้ว)
                
จะเดินหน้าอย่างไรรัฐบาลต้องระวังไฟทั้งนอก-ใน และศัตรูใหญ่รบกันเดือดร้อนถึงรัฐบาล(พระเสาร์จร7เดินอยู่ในภพที่สิบดวงเมือง…ให้เกรงไฟ ศัตรูใหญ่จะทำณรงค์)
                 
จะเดินหน้าอย่างไรรัฐบาลต้องแบกภาระหนักดูแลประชาชนที่เจ็บไข้ได้ป่วย-มีปัญหาอุปสรรค-หนี้สิน (พระเสาร์จร7เล็งพระจันทร์ดวงเดิม๒) และแบกภาระหนักรับผิดชอบด้านเศรษฐกิจทำมาหาได้ของประเทศ(พระเสาร์จร7ถึงพระศุกร์ดวงเดิม๖)
                
ด้านดีรัฐบาลหรือหน่วยของรัฐอาจจะได้ขุดขุมทองเป็นระยะๆอีกรอบไปอีกเป็นระยะยาว เช่นรอบที่แล้วบริษัทปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลี่ยมพบแก๊สหลุมใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยพบที่นอกชายฝั่งมาเลย์ฯ โดยขุมทองนี้เน้นไปที่ประเทศเชื้อสายแขก-จีน(พระเสาร์จร7ถึงพระราหูดวงเดิม๘)
                
ด้านดีรัฐบาลมีโชคเกี่ยวกับประเทศเพื่อนบ้าน หรือเรื่องแก้ปัญหาหนี้สิน หรืออุปสรรคหรือเรื่องเจ็บไข้ได้ป่วยอีกรอบ หรือการคมนาคม(พระเสาร์จร7ถึงพระพุธดวงเดิม๔)
                
3.ซีกฝ่ายค้าน หรือฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลที่เริ่มบุกหนักและมีพลังมาตั้งแต่ประมาณปลายพฤษภาคม 2564 จะเริ่มดวงชะตาตกอีกรอบ ทำอะไรก็ไม่ขึ้นเหมือนคนป่วย หรือมีปัญหาอุปสรรคเอง(พระเสาร์จร7เล็งพระจันทร์ดวงเดิม๒)
               
ทั้งหลายทั้งปวงนี้ด้านการเมือง-รัฐบาล-ฝ่ายค้านนี้จะเดินหน้าไปสู่ลางการเปลี่ยนแปลงใหญ่ผู้นำโดยสภาที่มาจากเลือกตั้งหรือสภาผู้แทนราษฎรเป็นตัวแปรสำคัญที่จะเริ่มตั้งแต่ปลายมีนาคม 2565 เป็นต้นไป นั่นหมายถึงระยะที่การเลือกตั้งจะเริ่มตั้งเค้า
               
โดยแนวโน้มด้านนี้จะอยู่ในคำทำนายดวงชะตาเมืองรัตนโกสินทร์ปี 2565 ซึ่งจะได้นำมาเผยแพร่ต่อไป

ฟองสนาน จามรจันทร์
10 กันยายน 2564