เครือข่ายภาคประชาชนร่วมประชุมสภาองค์กรชุมชนตำบลระดับชาติ นำ 9 ประเด็นปัญหาสู่การแก้ไข “โควิด-ที่ดิน-กลุ่มชาติพันธุ์-เสนอทบทวนยกเลิกเขตเศรษฐกิจพิเศษ-ผันน้ำยวม”


เพิ่มเพื่อน    

การประชุมในระดับชาติของสภาองค์กรชุมชนตำบลปี 2563  ผ่านระบบ Zoom มีผู้เข้าร่วม 592 คน

 

          เครือข่ายสภาองค์กรชุมชนตำบล / พี่น้องภาคีเครือข่ายประชาชนทั่วประเทศ 600 คน  ร่วมประชุมในระดับชาติของสภาองค์กรชุมชนตำบลปี 2564 ผ่านระบบออนไลน์  นำข้อเสนอเชิงนโยบาย 9 ประเด็น  เช่น  การจัดการโควิด ภัยพิบัติ ปัญหาที่ดิน  กลุ่มชาติพันธุ์   รัฐธรรมนูญประชาชน  ความมั่นคงทางอาหาร  เสนอทบทวนและยกเลิกเขตเศรษฐกิจพิเศษ EEC นิคมอุตสาหกรรมจะนะ  ผันน้ำยวม  ฯลฯ โดยจะนำข้อเสนอในที่ประชุมเสนอกระทรวง พม.และ ครม.พิจารณาตาม พ.ร.บ.สภาองค์กรชุมชน พ.ศ.2551  และเสนอตั้ง ‘กลไก 5 ฝ่าย’  มีรองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน  เพื่อติดตามการแก้ไขปัญหาของประชาชนให้เป็นจริง-สร้างสังคมที่เป็นธรรม 

          สภาองค์กรชุมชนตำบลจัดตั้งตาม พ.ร.บ.สภาองค์กรชุมชนตำบล พ.ศ.2551 เป็นกฎหมายที่สนับสนุนการมีส่วนร่วมของประชาชนและชุมชนในการพัฒนาชุมชนท้องถิ่นและประเทศ  และเป็นการส่งเสริมประชาธิปไตยทางตรง  เพราะตาม พ.ร.บ.ฉบับนี้  ผู้แทนของสภาองค์กรชุมชนตำบลสามารถนำปัญหาหรือแนวทางการพัฒนาในตำบลมาประชุม ปรึกษาหารือ  เสนอแนวทางพัฒนาหรือแก้ไขปัญหาต่อผู้ว่าราชการจังหวัด  องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องได้ 

          ปัจจุบันมีการจัดตั้งสภาองค์กรชุมชนตำบลทั่วประเทศ 7,795 แห่ง  ทุกปีจะมี ‘การประชุมในระดับชาติของสภาองค์กรชุมชนตำบล’ ปีละ 1 ครั้ง  เพื่อ “สรุปปัญหาที่ประชาชนในจังหวัดต่างๆ ประสบ  และข้อเสนอแนะแนวทางการแก้ไขเพื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาสั่งการ”  (พ.ร.บ.สภาองค์กรชุมชน พ.ศ.2551 มาตรา 32 (3))

 

ภาคประชาชน 600 คนร่วมประชุมระดับชาติ

          โดยในวันนี้ (10 กันยายน) มีการประชุมในระดับชาติของสภาองค์กรชุมชนตำบล  ประจำปี 2564  ตั้งแต่เวลา 9.00-16.00 น.  โดยประชุมออนไลน์ผ่านระบบ Zoom Meetings ตามมาตรการป้องกันโควิด  มีผู้แทนสภาองค์กรชุมชนตำบล  ผู้แทนภาคีเครือข่าย  ภาคประชาสังคม  ฯลฯ  ทั่วประเทศ  เข้าร่วมประชุมประมาณ 600 คน  พร้อมทั้งผู้แทนองค์กรต่างๆ ร่วมปาฐกถาและแสดงความคิดเห็น  โดยมีนางพัชรี  อาระยะกุล  ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ในฐานะผู้แทนรัฐมนตรี พม.รับมอบข้อเสนอจากผู้แทนสภาองค์กรชุมชน

 

วิรัตน์  พรมสอน

 

          นายวิรัตน์  พรมสอน  ประธานที่ประชุมในระดับชาติของสภาองค์กรชุมชนตำบล  (เกษตรกรจากจังหวัดเชียงราย)รายงานผลการดำเนินงานของสภาองค์กรชุมชนว่า  ปัจจุบันได้จัดตั้งสภาองค์กรชุมชนตำบลทั่วประเทศแล้ว รวม 7,795 แห่ง (ร้อยละ 99.62 ของจำนวนพื้นที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น)  มีสมาชิกสภาองค์กรชุมชนตำบล  ประกอบด้วยผู้แทนชุมชนและผู้ทรงคุณวุฒิ  จำนวน 254,944 คน  มีกลุ่มหรือองค์กรชุมชน หรือเครือข่ายองค์กรชุมชนที่จดแจ้ง จำนวน 156,280 องค์กร

          ทั้งนี้ในช่วงปี 2564  ได้มีการสอบทานคุณภาพของสภาองค์กรชุมชนตำบลผ่านระบบ google  form  จำนวน 7,061 แห่ง  แบ่งระดับความเข้มแข็งจาก A-C  ดังนี้  ระดับความเข้มแข็ง A จำนวน 1,816 แห่ง (คิดเป็น 25.72%) ระดับความเข้มแข็ง B จำนวน 1,951 แห่ง (คิดเป็น 27.63%) ระดับความเข้มแข็ง C จำนวน 1,006 แห่ง (คิดเป็น 14.25%) ระดับความเข้มแข็ง D จำนวน  2,288 แห่ง (คิดเป็น 32.40%)

          จากการรวบรวมผลงานของสภาองค์กรชุมชนตำบลทั่วประเทศพบว่า  สภาองค์กรชุมชนตำบลส่งเสริมให้สมาชิกพัฒนาชุมชนท้องถิ่น ในด้านต่างๆ รวม 12 ด้าน  เช่น  บำรุงรักษาและใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ รวม 3,016 แห่ง  คุ้มครองคุณภาพสิ่งแวดล้อม 2,872 แห่ง   เสนอปัญหาและแนวทางการแก้ไขให้ อปท.นำไปประกอบการจัดทำแผนพัฒนาท้องถิ่น  3,215 แห่ง   ส่งเสริมให้องค์กรชุมชน  สมาชิกสภา  และประชาชนทั่วไป  มีความเข้มแข็ง  2,913 แห่งฯลฯ

          นอกจากนี้สภาองค์กรชุมชนยังทำงานร่วมกับภาคีเครือข่ายต่างๆ  เช่น  สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ   สภาเกษตรกรแห่งชาติ   กองดัชนีเศรษฐกิจการค้า  กระทรวงพานิชย์  สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ใช้พื้นที่สภาองค์กรชุมชนตำบลเป็นพื้นที่ต้นแบบในการควบคุมก่อนปลดล็อกพืชกระท่อม) สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ  และสำนักงานการประสานสนับสนุนนโยบายสาธารณะเพื่อสุขภาวะรองรับสังคมสูงวัย

 

ตัวแทนสภาองค์กรชุมชนร่วมประชุมกับ ป.ป.ส. เพื่อใช้พื้นที่สภาฯ เป็นต้นแบบในการควบคุมพืชกระท่อม

 

รวบรวม 9 ประเด็นปัญหาจากทั่วประเทศสู่ข้อเสนอเชิงนโยบาย

         

          การเตรียมจัดประชุมในระดับชาติของสภาองค์กรชุมชนตำบลในปี 2564 นี้  มีการจัดเวทีทั่วภูมิภาค  เพื่อรวบรวมประเด็นปัญหาต่างๆ ที่ประชาชนประสบนำมาจัดทำเป็นข้อเสนอ  นอกจากนี้ยังมีการจัดสมัชชาเชิงประเด็นเพื่อนำมาสังเคราะห์รวบรวมประเด็นปัญหาและข้อเสนอเพื่อนำเข้าสู่การประชุมในระดับชาติฯ ในวันนี้ (10 กันยายน) ประกอบด้วย

          ประเด็นที่ การจัดการภัยพิบัติโดยชุมชนและการมีส่วนร่วมของชุมชนท้องถิ่นในการบริหารสถานการณ์การระบาดของโควิด มีข้อเสนอ  เช่น  รัฐบาลควรประกาศให้โรคระบาดโควิด – 19  เป็นโรคอุบัติใหม่ในมนุษย์ตาม พ..บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ..2550 และให้ทุกจังหวัดเร่งประกาศเขตภัยพิบัติตาม พ...ดังกล่าว   เพื่อให้ท้องถิ่นสามารถบริหารจัดการปัญหาได้ทุกมิติ  

 

 

          ประเด็นที่ 2 การบริหารจัดการเงินกู้ 500,000  ล้านบาท  มีข้อเสนอ  เช่น  รัฐบาลควรการกำหนดรูปแบบ/วิธีการใช้งบประมาณในลักษณะ กองทุนพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนฐานรากระดับตำบล  โดยจัดให้มีกลไกใหม่ในการบริหารกองทุนแบบมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน กำหนดระเบียบวิธีการใช้งบประมาณแบบพิเศษ  ให้ชุมชนสามารถเข้าถึงได้ ซึ่งต้องสอดคล้องกับสถานการณ์และความต้องการของประชาชนในพื้นที่  ฯลฯ

          ประเด็นที่ 3 การแก้ไขปัญหาที่ดิน-ที่ทำกิน-ที่อยู่อาศัย มีข้อเสนอ  เช่น  1.ข้อเสนอเร่งด่วน   ให้มีกระบวนการการปรับแก้เนื้อหาในกฎหมายลำดับรอง  ประกอบ พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ..2562, พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ..2562 ที่จำกัดสิทธิชุมชน  จำกัดสิทธิการทำกินตามวิถีวัฒนธรรม และสิทธิชุมชนในการถือครองที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัย โดยชะลอการประกาศออกไปจนกว่ากระบวนการปรับแก้จะแล้วเสร็จ 

          2.ข้อเสนอเพื่อการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน  ปรับแก้/ผลักดัน พ...ฉบับประชาชนเข้าชื่อ พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ..2562, พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ..2562  ยกเลิกคำสั่ง ระเบียบ กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ที่ใช้มิติความมั่นคงมาจัดการทรัพยากร  ผลักดัน สิทธิชุมชนในรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน 

 

 

 

          ประเด็นที่ 4 การสร้างความเป็นธรรม ความเท่าเทียมให้กับกลุ่มชาติพันธุ์ มีข้อเสนอ  เช่น  ให้มีการเยียวยากลุ่มชาติพันธุ์และชนเผ่าพื้นเมืองที่ได้รับผลกระทบจากการอพยพออกจากชุมชนในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานและจัดให้มีที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยอย่างเพียงพอกับความต้องการที่จำเป็น    ให้เร่งดำเนินการศึกษาและออกเอกสารสิทธิ์ในพื้นที่ดั้งเดิมของชุมชนกลุ่มชาติพันธุ์ชาวเล ให้เกิดความมั่นคงในการดำรงวิถีชีวิต  มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และมีศักดิ์ศรี   ให้มีการนิรโทษกรรมหรือยกเลิกคดีความที่ไม่เป็นธรรมทั้งปวง  ฯลฯ

          ประเด็นที่ 5 การทบทวนเขตเศรษฐกิจพิเศษ และการสร้างระบบเศรษฐกิจเกื้อกูลโดยใช้การจัดการทางธุรกิจเป็นแกนกลางระดับตำบล  มีข้อเสนอ  เช่น   (1) เขตเศรษฐกิจพิเศษ เสนอให้มีการแก้ไข พ...เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก  ..2561  โดยเร่งด่วนที่สุด  เสนอให้ยกเลิกผังเมือง EEC และให้กลับไปใช้ผังเมืองรวมจังหวัดแต่ละจังหวัดตัวเดิม จนกว่าจะมีการร่วมกันออกแบบผังเมือง EEC ร่วมกันผ่านเครื่องมือ SEA และการมีส่วนร่วมของประชาชนทุกภาคส่วน  คือ  ร่วมออกแบบ ร่วมกำหนด การพัฒนา และร่วมตัดสินใจ

  1. ข้อเสนอเชิงนโยบายระบบเศรษฐกิจเกื้อกูล เช่น  ตั้งคณะทำงานเพื่อทำการศึกษานโยบายและกฎหมายด้านเศรษฐกิจและทรัพยากรเพื่อสร้างการเรียนรู้และการเปลี่ยนแปลงนโยบายหรือกฎหมายแก่ประชาชน   จัดตั้งสถาบันเศรษฐกิจเกื้อกูลระดับภาคหรืออนุภาค เพื่อสร้างเครือข่ายทางเศรษฐกิจในการเชื่อมโยงทั้งด้านการผลิตและการตลาดระหว่างกัน  รวมทั้งการจัดทำแผนเศรษฐกิจทั้งในระดับภาค อนุภาค และจังหวัด
  2. ข้อเสนอเชิงนโยบายการจัดการทางธุรกิจเป็นแกนกลางระดับตำบล  เช่น รัฐ ต้องกำหนดมาตรการงดเว้น ยกเลิกการจัดเก็บภาษีให้กับองค์กรที่มีการดำเนินการตามแนวทาง Community Business Model Canvas : CBMC ข้อเสนอต่อชุมชน จัดตั้งโครงข่ายธุรกิจชุมชนจากธุรกิจระบบจุลภาคสู่มหภาคของของชุมชน  สร้าง Modern Trade ของชุมชนรัฐกำหนดมาตรการสนับสนุนการพัฒนาระบบเศรษฐกิจชุมชน  ฯลฯ

          ประเด็นที่ 6 กฎหมายลิดรอนสิทธิของประชาชน กรณีการขับเคลื่อนรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน และกรณี ร่าง พ...ว่าด้วยการดำเนินงานขององค์กรที่ไม่แสวงหารายได้และกำไรมาแบ่งปันกัน พ.. ......มีข้อเสนอ  เช่น  (1) กรณีการขับเคลื่อนรัฐธรรมนูญ (ฉบับประชาชนร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่เคารพสิทธิของประชาชนเพิ่มขึ้น เพื่อสร้างความเท่าเทียมและเป็นธรรม โดยใช้กลไก สสร. หรือสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากประชาชน  ออกแบบให้ที่มาของสมาชิกวุฒิสภา (สว.) และองค์กรอิสระมีที่มาที่ยึดโยงกับประชาชน และไม่ควรมีอำนาจหน้าที่ในการเลือกนายกรัฐมนตรี  รัฐธรรมนูญใหม่ต้องพูดถึงการกระจายอำนาจ  และสิทธิของประชาชนกลุ่มต่างๆให้มีความชัดเจนขึ้น

  1. กรณี ร่าง พ...ว่าด้วยการดำเนินงานขององค์กรที่ไม่แสวงหารายได้และกำไรมาแบ่งปันกัน พ.. ...... มีข้อเสนอ  เช่น  ให้มีการทบทวนการออกกฎหมายว่าด้วยการดำเนินงานขององค์กรที่ไม่แสวงหารายได้หรือกำไรมาแบ่งปันกัน ..........

          ประเด็นที่ 7 ความมั่นคงทางอาหาร มีข้อเสนอ  เช่น   คณะรัฐมนตรีต้องการทบทวนการเข้าร่วม Comprehensive and Progressive Agreement of Trans-Pacific Partnership (CPTPP) และหันมาวางพื้นฐานการพัฒนาระบบการผลิตของเศรษฐกิจฐานล่างให้มีความเข้มแข็ง และวางพื้นฐานให้ประเทศมีภูมิคุ้มกันต่อภัยคุกคาม  รวมถึงภัยอุบัติใหม่ ให้ประเทศมีภูมิคุ้มกันทางด้านความมั่นคงทางอาหารของพลเมืองอย่างเพียงพอ

          รัฐบาล  โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  เร่งรัดการจัดการที่ดินแนวใหม่เพื่อให้เป็นพื้นที่ที่มั่นคงต่อการผลิตอาหารตั้งแต่ในระดับชุมชน   โดยให้ชุมชนท้องถิ่นได้มีบทบาทสำคัญในการจัดการแก้ไขปัญหาของตนเอง   เร่งรัดให้มีการจัดสิทธิที่ดินโดยกลุ่ม/ชุมชน  แทนการจัดการแบบปัจเจก  ทำให้คนจนสามารถเข้าถึงได้  และเป็นการยึดโยงให้ที่ดินทำกินยังคงเป็นของชุมชน  ฯลฯ

 

 

          ประเด็นที่ 8 กรณีปัญหาเชิงพื้นที่  มีดังนี้ 1.กรณีโครงการผันน้ำยวม  ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่  ตาก  2.กรณีโครงการนิคมอุตสาหกรรมอำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา  3. กรณีโครงการสัมปทานเหมืองแร่หินเขาโต๊ะกรัง จังหวัดสตูล  และ 4.กรณีโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลนาบอน จังหวัดนครศรีธรรมราช  มีข้อเสนอให้ทบทวนหรือยกเลิกโครงการเหล่านี้  เนื่องจากมีผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม ฯลฯ

          ประเด็นที่ 9 ข้อเสนอการจัดตั้งกลไกเพื่อการขับเคลื่อนและติดตามนโยบายสาธารณะ  เสนอให้มีการจัดตั้งกลไก 5 ฝ่าย ที่ประกอบด้วย  ฝ่ายการเมือง (รัฐบาล) เจ้าหน้าที่รัฐระดับกระทรวงฯ   ผู้บริหารสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน  คณะทำงานระดับชาติสภาองค์กรชุมชนตำบล  และผู้แทนประเด็นปัญหา ในรูปของ คณะกรรมการติดตามและขับเคลื่อนข้อเสนอตามมติที่ประชุมระดับชาติสภาองค์กรชุมชนตำบล (ระดับรองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน)  และให้มีการกำหนดบาทบาทหน้าที่  เพื่อให้กลไกดังกล่าวมีการขับเคลื่อนและติดตามข้อเสนอต่างๆ ให้บรรลุผล หรือมีความก้าวหน้าตามข้อเท็จจริงต่อไป

          ทั้งนี้ข้อเสนอทั้งหมด 9 ประเด็นนี้  ที่ประชุมในระดับชาติของสภาองค์กรชุมชนตำบลจะนำเสนอไปยังรัฐมนตรีกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์  นายจุติ  ไกรฤกษ์  เพื่อนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีตาม พ.ร.บ.สภาองค์กรชุมชน พ.ศ.2551 มาตรา 32 (3) เพื่อ “สรุปปัญหาที่ประชาชนในจังหวัดต่างๆ ประสบ  และข้อเสนอแนะแนวทางการแก้ไขเพื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาสั่งการ” ต่อไป


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"