10 ก.ย.64 - รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล แจ้งว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ในวันนี้ (10 ก.ย.) ได้รับทราบรายงานความก้าวหน้าในการเจรจาจัดซื้อวัคซีนป้องกันโควิด-19 ต่อจากสหภาพยุโรป (อียู) โดยกระทรวงการต่างประเทศแจ้งว่าประเทศสเปนมีวัคซีนของบริษัท แอสตราเซเนกา จำนวน 449,500 โดส พร้อมขายต่อ ซึ่งวัคซีนดังกล่าวจะหมดอายุในวันที่ 31 ต.ค.2564 และทางการสเปนสามารถส่งมอบวัคซีนทั้งหมด ภายในสิ้นเดือน ก.ย.2564 ราคาวัคซีน 2.90 ยูโรต่อโดส รวมเป็นจำนวนเงิน 1,303,550 ยูโร หรือประมาณ 50,447,385 ล้านบาท ทั้งนี้ต้องจ่ายค่าวัคซีนภายใน 15 วัน นับจากวันที่ได้รับใบแจ้งหนี้จากผู้ขาย ซึ่งที่ประชุมมีมติเห็นชอบการจัดซื้อดังกล่าว และมอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ นำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาอนุมัติกรอบวงเงิน สำหรับการซื้อวัคซีนดังกล่าวต่อจากสเปน

นอกจากนี้ ที่ประชุมได้รับทราบรายงานของกระทรวงการต่างประเทศเรื่องแนวทางการดำเนินการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้แก่ชาวกัมพูชาในพื้นที่ชายแดน จ.สระแก้ว และตราด ซึ่งเป็นกรณีที่รัฐบาลกัมพูชาได้ประสานงานขออนุญาตจัดส่งวัคซีนยี่ห้อซิโนฟาร์มจากกัมพูชาเข้ามาในไทย พร้อมขอให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยนำวัคซีนดังกล่าวไปฉีดแก่ชาวกัมพูชาใน 2 จังหวัดนี้ที่มีจำนวนรวมกันประมาณ 14,000 คน ทั้งนี้ ที่ประชุมมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศประสานงานกับสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย และกระทรวงสาธารณสุขในการดำเนินการเรื่องนี้ต่อไป