พลังดูด "คสช.-พลังประชารัฐ" ติดเครื่อง รอบนี้ "2 ส." สมศักดิ์-สุริยะออกหน้า ดึง "ปรีชา-อดีต รมว.ทรัพยากรฯ" และเมียให้ทิ้ง พท. แต่ทั้งหมดยังแทงกั๊ก โผอดีต ส.ส.พาเหรดเข้าพรรคทหารยังว่อน เผยเบื้องหลังคุยทำพรรคกันที่วอร์รูม ก.พาณิชย์ "อุตตม-สนธิรัตน์" ไม่อยากลาออกจาก รมต.เพื่อลงสู้ศึกเต็มตัว ดัน "เสี่ยสุริยะ" นั่งเลขาฯ แทน "หัวเขียง-ปธ.ภาคอีสานเพื่อไทย" ยอมรับยังโดนเจาะ-ดูดอีกเพียบ สะพัดโดนแซะหนักหลายพื้นที่
ความเคลื่อนไหวของนักการเมืองและกลุ่มการเมืองในช่วงก่อนที่ คสช.เตรียมปลดล็อกพรรคการเมืองเริ่มชัดเจนขึ้น โดยเฉพาะการย้ายพรรคของอดีต ส.ส.กลุ่มต่างๆ ท่ามกลางข่าวการเดินหน้าจัดตั้งพรรคพลังประชารัฐที่สนับสนุน คสช.และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีให้เป็นนายกฯ อีกสมัย มีความคืบหน้าตามลำดับ
โดยเมื่อวันที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา ที่ภูเรือคีรีรีสอร์ท อ.ภูเรือ จ.เลย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตเลขาธิการพรรคไทยรักไทย พร้อมด้วยนายสมศักดิ์ เทพสุทิน, นายอนุชา นาคาศัย พร้อมด้วยนายภิรมย์ พลวิเศษ แกนนำพรรคพลังประชารัฐ ได้เดินทางไปยังจังหวัดเลยโดยมีนายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, นางเปล่งมณี เร่งสมบูรณ์สุข อดีต ส.ส.เลย ภรรยานายปรีชา และนายวันชัย บุษบา อดีต ส.ส.จังหวัดเลย พรรคเพื่อไทย ให้การต้อนรับ
เมื่อไปถึงคณะทั้งหมดได้ไปนมัสการหลวงพ่อขันตี วัดป่าม่วงไข่ อ.ภูเรือ จ.เลย เพื่อประพรมน้ำพระพุทธมนต์และเคาะศีรษะเพื่อความเป็นสิริมงคล จากนั้นเดินทางไปยังภูเรือคีรีรีสอร์ท ต.หนองบัว อ.ภูเรือ จ.เลย ซึ่งเป็นรีสอร์ตของนายปรีชาเพื่อร่วมรับประทานอาหารกลางวัน
นายสุริยะกล่าวว่า ที่เดินทางมาจังหวัดเลยในวันนี้เป็นการมาพบปะเพื่อนอดีต ส.ส.ที่เคยทำงานร่วมกัน สอบถามสารทุกข์สุกดิบ
นายปรีชากล่าวว่า การเดินทางมาของนายสุริยะ, นายสมศักดิ์ และนายอนุชา เป็นการมาเยี่ยมอดีต ส.ส.ด้วยความคิดถึงเพราะไม่ได้พบกันนาน จึงได้พาทั้งสามคนไปนมัสการหลวงพ่อขันตี ญาณวโร เกจิชื่อดังของ จ.เลย ซึ่งหลวงพ่อก็ได้พรมน้ำมนต์และเคาะศีรษะให้เพื่อเป็นสิริมงคล
ผู้สื่อข่าวถามว่าได้ตัดสินใจเข้าร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ พร้อมภรรยาและนายวันชัย บุษบา ใช่หรือไม่ นายปรีชาปฏิเสธว่ายังไม่มีอะไร เพียงแค่มาพบปะกันธรรมดาของผู้ที่เคยทำงานร่วมกัน ยังไม่ไปถึงขนาดนั้น พร้อมขอตัวเดินขึ้นรถยนต์ออกไป โดยนายสุริยะกับนายสมศักดิ์จะขึ้นเครื่องกลับกรุงเทพฯ ที่สนามบิน จ.เลย ส่วนนายอนุชา นาคาศัย และนายภิรมย์ พลวิเศษ จะเดินทางไปพบนายวิชัย สามิตร อดีต ส.ส.หนองบัวลำภู พรรคเพื่อไทย ที่ จ.อุดรธานี
ด้านนายภิรมย์ พลวิเศษ แกนนำพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า วันนี้นายปรีชา, นางเปล่งมณี และนายวันชัยให้เกียรติกับคณะของนายสุริยะเชิญมารับประทานอาหาร ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีในฐานะเคยทำงานร่วมกัน
ต่อข้อถามว่ามีกระแสพรรคพลังประชารัฐตัดเกรดอดีต ส.ส.ขนาดเอ บี และใช้เงินเข้ามาเกี่ยวข้องในการเชิญเข้าร่วมพรรค นายภิรมย์ปฏิเสธว่าพรรคพลังประชารัฐใช้แต่ความเป็นเพื่อนเป็นพี่เป็นน้อง และที่สำคัญความพึงพอใจและเชื่อมั่นในผู้นำพรรค และนโยบายพรรคที่จะสามารถแก้ไขปัญหาของประชาชน และนำพาประเทศชาติไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองได้ จึงมีอดีต ส.ส.แจ้งความประสงค์จะเข้ามาทำงานร่วมกัน โดยไม่มีการใช้เงินเข้ามาเกี่ยวข้องตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด
ทีมสมคิดเดินเครื่องเต็มสูบ
ผู้สื่อข่าวรายงานสำหรับรายชื่ออดีต ส.ส.และอดีต ส.ว.ภาคอีสานที่จะเข้าร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ ที่มีการทำบัญชีรายชื่อเอาไว้แล้ว ประกอบด้วย จ.เลย นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข อดีต รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, นางเปล่งมณี เร่งสมบูรณ์สุข และนายวันชัย บุษบา อดีต ส.ส.จังหวัดเลย พรรคเพื่อไทยร่วมพัฒนา, อดีต ส.ส.สุรินทร์ นายปัญญา ศรีปัญญา, อดีต ส.ส.ขอนแก่น นายวิเชียร อุดมศักดิ์ อดีต ส.ส.อำนาจเจริญ, นายชัยศรี กีฬา อดีต ส.ส.อำนาจเจริญ, พ.ต.ดร.สรชาติ สุวรรณพรม อดีต ส.ส.หนองบัวลำภู, นายสุชาติ ศรีสังข์ อดีต ส.ส.มหาสารคาม, นายอมรเทพ สมหมาย อดีต ส.ส.ศรีสะเกษ, นายกล่ำคาน ปาทาน อดีต ส.ส.ศรีสะเกษ, นายเกษม มาลัยศรี อดีต ส.ส.ร้อยเอ็ด, นายสมคิด บาลไธสง อดีต ส.ส.หนองคาย, นายอรรถสิทธิ์ (คันคาย) ทรัพย์สิทธิ์ อดีต ส.ส.นครพนม, นายวิทยา ภูมิเหล่าแจ้ง อดีต ส.ส.กาฬสินธุ์
นายยุทธพงษ์ แสงสี อดีต ส.ส.บึงกาฬ, นายบวรศักดิ์ คณาเสน อดีต ส.ว.อำนาจเจริญ, นายวีระศักดิ์ จีนาภักดิ์ อดีต ส.ว.อุบลราชธานี, นายวิสันต์ เดชเสน อดีต ส.ส.ยโสธร, นายพิทยา บุญเฉลียว อดีต ส.ส.ศรีสะเกษ ส่วน จ.นครราชสีมา นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์, นายวิรัช รัตนเศรษฐ, นางทัศนียา รัตนเศรษฐ และนายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ, นายอัสนี เชิดชัย และนางลินดา เชิดชัย บุตรชายและสะใภ้ "เจ๊เกียว" นางสุจินดา เชิดชัย นายกสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารแห่งประเทศไทย, ร.ต.หญิง ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี นายก อบจ.นครราชสีมา, นายประสงค์ สีลวัฒน์ อดีต ส.ส.ขอนแก่น, นายวิชัย ชัยจิตวณิชกุล อดีต ส.ส.อุดรธานี, นายวิชัย สามิตร อดีต ส.ส.หนองบัวลำภู, ร.ต.วัฒนา แก้วศิริ อดีต ส.ส.ชัยภูมิ, นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ อดีต ส.ส.ขอนแก่น, นายบัวสอน ประชามอญ อดีต ส.ส.เชียงราย นายปัญญา จีนาคำ อดีต ส.ส.แม่ฮ่องสอน
มีรายงานจากพรรคพลังประชารัฐว่า หลังนายชวน ชูจันทร์ ประธานวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตรตลาดน้ำคลองลัดมะยม และพวกรวม 15 คนไปยื่นตั้งพรรคพลังประชารัฐต่อสำนักงาน กกต.
มีรายงานว่า ขณะนี้นายชวนและคณะได้รับหนังสือตอบรับจาก กกต.ให้ใช้ชื่อพรรคพลังประชารัฐได้แล้ว ซึ่งตอนนี้พรรคสามารถหาสมาชิกพรรคเกิน 500 คนเรียบร้อยแล้ว แต่การเรียกประชุมสมาชิกผู้ก่อตั้งพรรคเพื่อประชุมใหญ่พรรคและเลือกกรรมการบริหารพรรค เบื้องต้นเดิมคาดว่าจะประชุมกันช่วงปลายเดือนมิถุนายนหรือกรกฎาคม แต่ตอนนี้ยังมีความไม่ลงตัวในระดับแกนนำพรรคพลังประชารัฐ จึงทำให้จะมีการเรียกประชุมใหญ่ครั้งแรกของพรรคในช่วงเดือนสิงหาคม-ตุลาคม ที่ก็อยู่ในช่วง 180 วันตามกฎหมายพรรคการเมือง โดยขณะนี้แกนนำพรรคได้สถานที่ตั้งที่ทำการพรรคเรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะอยู่แถวประชานุกูล รวมถึงมีการเขียนนโยบายพรรค โลโก้พรรคใกล้เสร็จหมดแล้ว แต่ยังไม่เป็นที่เปิดเผย
รายงานข่าวจากพรรคพลังประชารัฐเปิดเผยว่า ที่ผ่านมากลุ่มผู้จัดตั้งพรรคพลังประชารัฐได้นัดหารือกันตลอดในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ที่กระทรวงพาณิชย์ สนามบินน้ำ ซึ่งเบื้องต้นวางตัวนายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรมเป็นหัวหน้าพรรค และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์เป็นเลขาธิการพรรค
"อย่างไรก็ตามวงหารือได้รับแจ้งว่า เวลานี้ผู้ใหญ่ในระดับแกนนำที่ทำพรรคพลังประชารัฐ บางคนไม่พร้อมที่จะไปรับตำแหน่งการเมืองในพรรคอย่างเป็นทางการ โดยเฉพาะนายสนธิรัตน์ที่ไม่ต้องการลาออกจากตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ไปเป็นเลขาธิการพรรคในช่วงหาเสียง เลยทำให้ช่วงหลังมีการมองไปที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เพราะที่ผ่านมานายสมศักดิ์กับนายสมคิดก็สนิทและติดต่อกันตลอด ซึ่งมีข่าวว่านายสนธิรัตน์ก็เห็นด้วย ขณะเดียวกันเรื่องหัวหน้าพรรคก็อาจเป็นไปได้ที่จะไม่ใช่นายอุตตม ที่ก็มีข่าวว่าไม่อยากลาออกจากตำแหน่ง รมว.อุตสาหกรรมเช่นกัน เพราะตามกฎหมายพรรคการเมืองค่อนข้างเข้มงวดมาก การที่เป็นรัฐมนตรีแล้วไปหาเสียงไปทำงานกับพรรคอาจสุ่มเสี่ยงได้ ทำให้ทั้งนายอุตตมและนายสนธิรัตน์ก็ไม่อยากไปทำงานการเมืองเต็มตัวเช่นนั้น" รายงานข่าวจากพรรคพลังประชารัฐระบุ
'หัวเขียง' ยอมรับ พท.ระส่ำ
นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ อดีต ส.ส.มหาสารคาม และประธานภาคอีสานพรรคเพื่อไทย ยอมรับว่าการที่กลุ่มนายปรีชาออกจากพรรคเพื่อไทยไปกระทบพรรคแน่นอน ต้องหาตัวแทน ส่วนจะได้ดีหรือไม่ จะได้หรือตกขึ้นอยู่กับประชาชน ต่อไปคงต้องทำงานหนักมากขึ้น เพราะว่าส่งผลกระทบหลายเขต หลายพื้นที่ เพราะมันมีหลายกลุ่มที่เกาะเกี่ยวกัน เขาแบ่งสายเป็นบ้านริมน้ำ สายนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ สายนายสมศักดิ์ เทพสุทิน สายนายสนธิรัตน์ นายอุตตม นายทหาร แม่ทัพภาค
"กลุ่มนายปรีชาไม่ใช่กลุ่มสุดท้ายที่จะโดนดูดไป รู้อยู่เต็มอกว่ามีกลุ่มไหน พื้นที่ไหนที่อาจจะไปบ้าง แต่พูดไม่ได้ บอกได้แต่เพียงว่าเหนื่อยคำเดียวเท่านั้น เราต้องปั้นตัวแทน เปรียบเทียบที่รัสเซียจะส่งคนแข่งขันต้องซ้อมใหญ่ แต่เมืองไทยไม่ใช่ ไม่ต้องซ้อม แต่พร้อมจะสู้ เพราะเอาจากคนรอบสนามแล้วไปเปลี่ยนสีเสื้อ ซึ่งจะมีพื้นที่ไหนอีกนั้นก็มีเพื่อนๆ ถาม แต่ไม่พร้อมที่จะเปิดเผยเพราะมันจะแกว่ง แล้วแกว่งแรงด้วย คือในการที่นั่งอยู่ตรงนี้บอกได้ว่าเอากันไม่อยู่แล้ว ถึงขั้นวิกฤติ" ประธาน ส.ส.อีสานเพื่อไทยระบุ
เมื่อถามว่าคือจะมีโดนดูดไปเกินครึ่งของอดีต ส.ส.อีสาน นายประยุทธ์กล่าวว่ามันยังไม่ถึงครึ่ง แค่เกิน 40% มันก็เหนื่อยแล้ว
ถามย้ำว่าตอนนี้เท่าที่รู้คือมีประมาณ 40% นายประยุทธ์กล่าวว่าประมาณนั้น รายชื่อที่ออกมาก่อนหน้านี้ไม่ใช่ เป็นรายชื่อที่ตนไม่ให้ราคา เป็นยาหมดอายุไปแล้ว ก็เป็นได้ที่เขาจะหวังเอาคะแนนปาร์ตี้ลิสต์ แต่กรณีของนายปรีชาทำให้เห็นชัดว่าเริ่มเข้าสู่การดูดอดีต ส.ส.แถวหนึ่ง ซึ่งหลังจากนี้ก็จะเห็นเหตุการณ์ลักษณะนี้เรื่อยๆ ทราบความเคลื่อนไหวตลอดแต่พูดไม่ได้ จะเกิดขัดแย้งแล้วไม่ได้ประโยชน์ แต่กรณีนายปรีชาวันนี้เขาแถลงแน่นอนแล้ว ไม่อายฟ้าอายดินแล้ว ก็พูดได้ การดูดนั้นมีหมดทั้งเงิน ทั้งขู่ ทำนองว่าถ้าไม่มาก็ตัวใครตัวมัน มีหลายอย่างมาก
นายประยุทธ์กล่าวว่า สำหรับพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งครั้งหน้าก็ต้องเต็มที่ ต้องเหนื่อยหน่อย แต่ไม่รู้ใจชาวบ้าน ถ้าชาวบ้านยังเป็นใจกับเรา พวกนี้ก็ตกหมด ถ้าไม่เป็นใจเราก็ไม่ได้ แต่เกมของฝ่ายมีอำนาจไม่ธรรมดา เพราะเขาจะเลือกตั้งท้องถิ่นก่อน หากไม่ได้ก็นำคะแนนติดตัวมาลง ส.ส. แล้วก็ให้สัญญาว่าหากไม่ได้ก็จะส่งลง อบจ.ต่อไป มีสารพัดที่นำมาใช้ ซึ่งธรรมชาติของคนก็ต้องเอาตัวรอด แล้วคนที่มายืนยันสมาชิกพรรคแล้วไม่ได้มีความหมายอะไรเลย เพราะเมื่อยืนยันได้ก็ออกได้ บอกได้เลยว่ารอบนี้เยอะมาก
ด้านนายสมคิด เชื้อคง อดีต ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กรณีที่มีข่าวนายปรีชา และกลุ่มอดีต ส.ส.เลย พรรคเพื่อไทย เตรียมแยกตัวออกจากพรรคว่า เป็นความเคลื่อนไหวหนึ่ง ยืนยันว่าอีสานพรรคเพื่อไทยไม่แตก คงจะชัดเจนว่าเขาคงจะไป นายปรีชาเท่าที่รู้จักเป็นคนตรงไปตรงมา ถ้าจะออกไปจริงๆ เป็นสิทธิ์ของเขา ตรงไปตรงมาไม่อ้อมค้อม ไม่ต้องแอบหรือหลบๆ ซ่อนๆ ในทางการเมืองก็ถือว่าเป็นลูกผู้ชายดี ขอให้ท่านโชคดี แน่นอนว่าในพื้นที่นายปรีชาทำพื้นที่ไว้แข็งมาก จึงประเมินไม่ได้ว่าเราจะได้กลับคืนมาหรือไม่ ถ้าออกจริงๆ เชื่อว่าผู้บริหารของพรรคจะจัดคนลงแข่งขันอย่างแน่นอน การเมืองไหวไม่ไหวก็ต้องสู้ อยากให้ใครที่จะไปจากพรรคเพื่อไทยขอให้ชัดเจน มีนายปรีชาเป็นตัวอย่างแล้ว เชื่อว่าผู้ใหญ่ผู้บริหารพรรคก็ทำใจได้ ใครจะไปก็ห้ามกันไม่ได้เป็นสิทธิ์ของเขา แต่หากตัดสินใจเร็วก็ดี พรรคเองก็จะได้เตรียมตัวหาคนไว้ แต่ก็ขอให้คุณปรีชาเป็นคณะสุดท้ายที่จะไป อย่ามีไปอีก
นายวิชัย สามิตร อดีต ส.ส.หนองบัวลำภู และสมาชิกพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวถูกพรรคพลังประชารัฐทาบทามให้ร่วมงานการเมืองด้วยว่า ได้รับการประสานจากนายภิรมย์ พลวิเศษ แกนนำพลังประชารัฐสายนายสมศักดิ์ เทพสุทิน เพื่อให้เข้าร่วมพรรคพลังประชารัฐจริง แต่ไม่สามารถตัดสินใจคนเดียวได้ เรื่องแบบนี้ต้องสอบถามทีมงาน รวมถึงประชาชนในพื้นที่ด้วยว่าเห็นอย่างไร ตอนนี้ยังคงอยู่ที่เดิม แต่ก่อนจะถึงวันเลือกตั้งจะเป็นอย่างไรนั้นเป็นเรื่องของอนาคตที่ต้องตัดสินใจกันอีกที
เผยเบื้องหลัง 'ปรีชา' ทิ้ง พท.
แหล่งข่าวจากพรรคเพื่อไทยกล่าวถึงกระแสคัดค้านไม่ให้คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เป็นผู้ถือธงนำทัพสู้ศึกเลือกตั้งว่า ยังคงมีอยู่สูงและมีหลายกลุ่มในเพื่อไทยที่ไม่หนุนคุณหญิงสุดารัตน์ ไม่ว่าจะเป็นสายแกนนำพรรคที่ใกล้ชิดนายทักษิณ ชินวัตร หรืออดีต ส.ส.หลายภาคทั้งเหนือ อีสาน และภาคกลาง รวมถึงพวกอดีต ส.ส.สายเสื้อแดงที่ไม่ยอมรับในตัวคุณหญิงสุดารัตน์ เพราะมองว่าไม่เหมาะที่จะขึ้นมาเป็นผู้นำพรรค เนื่องจากไม่มีบารมีในพรรค คนไม่ยอมรับ อีกทั้งไม่มั่นใจว่าคุณหญิงสุดารัตน์จะนำพรรคเพื่อไทยไปในทิศทางซูเอี๋ยหรือสู้รบทางการเมืองอย่างจริงจัง ประกอบกับคุณหญิงสุดารัตน์ยังขอความชัดเจนขั้นสุดท้าย ที่จะไม่เพียงแค่มาถือธงนำทัพเท่านั้น แต่ยังต้องการันตีบัญชีรายชื่ออันดับหนึ่งใน 3 บัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยที่ต้องประกาศในช่วงเลือกตั้ง แต่แกนนำพรรคเพื่อไทยหลายคนไม่เห็นด้วย ทำให้เกิดแรงกระเพื่อมในพรรค ไม่ยอมรับในตัวคุณหญิงสุดารัตน์มีมากขึ้น จนมีข่าวว่ากลุ่มของคุณหญิงสุดารัตน์เริ่มหวั่นไหวไม่แน่ใจ จึงเริ่มเกิดกระแสข่าวคุณหญิงสุดารัตน์จะนำสมาชิก กทม.และภาคอื่นๆ ที่สนิทสนมออกไปทำการเมืองเองในนามของพรรคที่มีชื่อ 2 พยางค์ที่จดจัดตั้งไว้ก่อนหน้านี้แล้ว
รายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทยกล่าวถึงความเคลื่อนไหวในการดึงอดีต ส.ส.ของพรรคไปอยู่กับพรรคพลังประชารัฐว่า สาเหตุที่กลุ่มสนสามใบใน จ.เลย ที่มีนายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข เตรียมออกจากเพื่อไทย ก็เพราะช่วงหลังกลุ่มนายปรีชาเกิดความระหองระแหงกับคนในพรรคเพื่อไทย เพราะนายปรีชาต้องการเป็นคนมีอำนาจเบ็ดเสร็จในการควบคุมดูแลพื้นที่ภาคอีสานในหลายจังหวัดของเพื่อไทย แต่ถูกปฏิเสธจากผู้มีบารมีภายในพรรค เพราะมองว่านายปรีชายื่นเงื่อนไขมากเกินไป
มีรายงานจากพรรคเพื่อไทยด้วยว่า นอกจากกลุ่มนายปรีชาที่ย้ายออกจากเพื่อไทยแล้ว ตอนนี้ยังมีกระแสข่าวกลุ่มอื่นๆ ในพรรคเพื่อไทยที่ถูกทาบทามให้ออกจากเพื่อไทยไปอยู่กับพลังประชารัฐ โดยมีหลายกลุ่มดีลการเมืองดังกล่าวใกล้จะปิดดีลสำเร็จแล้ว เช่นกลุ่มรัตนเศรษฐ ที่มีนายวิรัช รัตนเศรษฐ อดีต รมช.เกษตรฯ และอดีต ส.ส.ที่เป็นทายาทคนในครอบครัวจาก จ.นครราชสีมา เช่นเดียวกับกลุ่มละโว้ที่มีนายอำนวย คลังผา อดีต ส.ส.ลพบุรีหลายสมัย พร้อมสมาชิกอดีต ส.ส.ในจังหวัดและจังหวัดใกล้เคียงอีก 5-6 คนให้ไปทำงานด้วย
แหล่งข่าวจากพรรคเพื่อไทยกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังมีกลุ่มเมืองเก่าของนายวิทยา บุรณศิริ อดีตรมว.สาธารณสุขและอดีต ส.ส.พระนครศรีอยุธยา ก็ถูกทาบทามด้วยเช่นกัน หลังก่อนหน้านี้มีข่าวว่า นายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร อดีต รมช.คมนาคม พรรคชาติไทยพัฒนา ที่เคยอยู่กับไทยรักไทยได้ตัดสินใจย้ายไปอยู่กับพลังประชารัฐแล้ว ขณะเดียวกันคนในพรรคพลังประชารัฐยังมีการเดินสายทาบทามอีกหลายจังหวัด เช่นที่อุบลราชธานีที่มีความหลากหลายทางพื้นที่จากหลายพรรค และหนองบัวลำภู อำนาจเจริญ ยโสธร ก็มีข่าวว่าคนของพลังประชารัฐเดินสายทาบทามอดีต ส.ส.ในพื้นที่ให้ย้ายพรรคเช่นกัน.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |