10 ก.ย.64 องค์การเภสัชกรรม(อภ.) แถลงการจัดหาชุดตรวจโควิด19 ATK ของ Lepu 8.5 ล้านชุด โดย นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม กล่าวว่า ตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 มาตรา 7 ที่ได้ระบุชัดเจนในข้อ 1(1) ว่าไม่ได้บังคับใช้การจัดซื้อจัดจ้างของรัฐวิสาหกิจที่เกี่ยวการพาณิชย์โดยตรง ดังนั้น พรบ.นี้จึงไม่ได้บังคับใช้กับอภ. แต่ได้มีการจัดทำข้อบังคับภายในองค์การว่าด้วยการพัสดุเพื่อการผลิตและจำหน่าย พ.ศ.2561 สอดคล้องกับมาตรา 8 แห่งพรบ.ด้วยหลักการคุ้มค่า โปร่งใส มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล สามารถตรวจสอบได้ ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายการจัดซื้อจัดจ้างและบริหารพัสดุภาครัฐ ข้อบังคับนี้ได้มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาในวันที่ 3 ก.ค.2561
“นอกจากนี้คณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและบริหารพัสดุภาครัฐ กรมบัญชีกลางได้มีหนังสือตอบกลับข้อหารือของอภ. ในวันที่ 8 ก.ย. ที่ผ่านมาว่า อภ.สามารถดำเนินการจัดซื้อ Antigen Test Kit หรือ ATK จำนวน 8.5 ล้านชุด ให้กับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) โดยรพ.ราชวิถีเป็นผู้จัดหา เพื่อให้หน่วยบริการในเครือข่ายและประชาชน เป็นไปโดยชอบตามกฎหมายและข้อบังคับของอภ. ที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายการจัดซื้อจัดจ้างและบริหารพัสดุภาครัฐ” นพ.วิฑูรย์ ระบุ
นพ.วิฑูรย์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของการกระจาย ATK เบื้องต้นเมื่อนำเข้ามาแล้วก็จะทยอยส่งให้กับกลุ่มเป้าหมาย ที่ทางสปสช.กำหนด คือ กลุ่มเสี่ยงสูงในพื้นที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด 76 จังหวัด และร้านขายยาที่เข้าร่วมโครงการกว่า 1,000 แห่งทั่วประเทศ โดยประชาชนจะได้รับฟรีจากการลงทะเบียน 1 คนต่อ 2 กล่อง โดยใน 1 กล่องจะบรรจุ ATK 1 ชุดและมีการติดสติ๊กเกอร์ห้ามจำหน่ายข้างกล่อง เพื่อปองกันการนำไปขายด้วย
ศิรินุช ชีวันพิศาลนุกูล รองผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม กล่าวในรายละเอียดของการจัดซื้อ ATK ของ Lepu ตามข้อบังคับของอภ.ว่า ในกรณีที่ไม่ได้จัดซื้อ ATK จากต่างประเทศโดยตรง เนื่องจากในประเทศไทยมีผู้ที่นำเข้า ATK จำนวนกว่า กว่า 40 ราย ซึ่งผู้นำเข้าและขาย ATK ดังกล่าวก็ได้มีการขึ้นทะเบียนผ่านทางอย.เรียบร้อย ทั้งนี้จากความต้องการใช้ ATK เร่งด่วนวของทาง สปสช. และไม่ต้องการแข่งขันกับผู้ประกอบการ หรือแสวงหาผลกำไร ทางอภ.จึงไม่ได้เลือกวิธีการซื้อโดยตรงจากต่างประเทศ
ศิรินุช กล่าวอีกว่า ในอีกกรณีที่บอกว่าทำไมไม่จัดซื้อ ATK ยี่ห้อที่ขึ้นบัญชีไว้กับทางอภ. ตามข้องบังคับของอภ. ระบุว่าในการคัดเลือกสามารถซื้อผลิตภัณฑ์ได้จากบัญชีที่ขึ้นทะเบียนไว้ แต่ ATK เป็นผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ในประเทศที่เพิ่งมีการนำมาใช้ในระยะนี้ และทางอย.ก็เพิ่งขึ้นทะเบียนบริษัทผู้ประกอบการที่นำเข้าอย่างถูกต้องไปเมื่อต้นเดือนก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งทางอภ.ยังไม่ได้ประเมินและทำการขึ้นบัญชีไว้ แต่สามารถใช้วิธีคัดเลือก ATK ได้ตามข้อบังคับที่ 13(2) เนื่องจากเป็นกรณีเร่งด่วนที่มีความต้องการใช้จากลูกค้า และในประเทศมีผู้จำหน่ายหลายรายจึงใช้วิธีนี้ได้ ทั้งหมดเป็นไปตามข้อบังคับที่อภ.ได้รับการยกเว้นว่าไม่ต้องปฏิบัติตามพรบ.จัดซื้อจัดจ้าง พ.ศ.2560
“เบื้องต้นจะมีการนำเข้า ATK จำนวน 3 ล้านชุด และมีกำหนดส่งมอบในสัปดาห์หน้าอีก ซึ่งคาดว่าจะเป็นการทยอยส่งครบจำนวน 8.5 ล้านชุดไม่เกินกลางเดือนต.ค.นี้ แต่อย่างไรก็ตาม บ.เวิลด์ เมดิคอลฯ ก็ได้แจ้งว่าทางจีนอาจจะมีปัญหาเรื่องการขนส่ง แต่ยืนยันว่าจะเป็นไปตามสัญญาที่ตกลงกันไว้” ศิรินุช กล่าว
ด้านดร.ภญ.นันทกาญจน์ สุวรรณปิฎกกุล ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ องค์การเภสัชกรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า ชุดตรวจ ATK ได้ส่งถึงไทยล็อตแรกวันนี้(10 ก.ย.64) จำนวน 3 ล้านชุด โดยในช่วงบ่ายจะมีคณะกรรมการตรวจรับ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายประกันคุณภาพ จากอภ. จะทำการตรวจรับและสุ่มตัวอย่างเพื่อนำไปตรวจวิเคราะห์ ทดสอบคุณภาพให้เกิดความมั่นใจ ที่คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี ในห้องปฏิบัติการที่ได้รับรองมาตรฐานความสามารถห้องปฏิบัติการด้านการแพทย์หรือชันสูตรสาธารณสุข ISO15189 เมื่อผลการทดสอบผ่านก็จะมีการกระจาย ATK ไปยังหน่วยบริการต่างๆ โดยไปรษณีย์ไทย ที่มีความชำนาญในการส่งเครื่องด้านวิทยาศาสตร์และเครื่องมือแพทย์โดยเฉพาะ เพื่อให้อยู่ในสภาพและอุณหภูมิที่เหมาะสมตามมาตรฐาน คงคุณภาพจนถึงหน่วยบริการปลายทาง เมื่อ ATK ถึงมือประชาชน ทางอภ.จะมีการเฝ้าระวังคุณภาพภายหลังการส่งมอบ รวมไปถึงปัญหาอื่นๆ ที่ทางอภ.ได้เก็บตัวอย่าง ATK อีกส่วนหนึ่งไว้เพื่อยืนยันคุณภาพ จึงอยากให้ประชาชนได้มั่นใจกระบวนการต่างๆของทางอภ. ที่ได้ทำเพื่อยืนยันคุณภาพของ ATK
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |