จะหมัดจะมวยก็เข้ามา! ผู้หญิงจะไม่มีวันอ่อนแออีกต่อไป เพราะภัยอันตรายบนโลกนี้มันมีมากมายเหลือเกิน จนทำให้เราต้องกัดฟันสู้  อีสาวอันตราย ละครช่วงเย็นของช่อง 3 ที่พร้อมปลุกพลังหญิงโชว์ความแกร่งให้ลุกขึ้นสู้ฟันฝ่ากับทุกปัญหาในชีวิต ผลงานของผู้จัดมืออาชีพ แดง ธัญญา จากบริษัท ดู เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด ด้วยความที่เนื้อหาละครต้องปลุกความเข้มแข็งในตัวผู้หญิง จึงเป็นเหตุที่ 2 สาวสุดยอดราชินีนักบู๊มาอยู่ในละครเรื่องนี้

          ซึ่งคนแรกก็คือ แก้ว อภิรดี  เรียกได้ว่าเธอเป็นนักแสดงมากความสามารถผู้ที่โด่งดังมาตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบันก็ยังมีผลงานดี ๆ ของเธอให้ได้รับชมกันอยู่เรื่อย ๆ ถึงแม้ละครอีสาวอันตราย ทาง แก้ว อภิรดี จะไม่ได้เล่นบทบู๊ แต่คิดว่าแฟน ๆ คงยังจำภาพคาแรคเตอร์สาวแกร่งที่ทำให้เธอกลายเป็นราชินีนักบู๊ของเมืองไทยได้ดีแน่นอน และดาราสาวราชินีนักบู๊คนที่สอง มีทักษะด้านศิลปะการต่อสู้อยู่เต็มตัว แถมลีลาการบู๊ยังไม่เป็นรองใคร จนสามารถเอาชนะใจคนไทยไปอย่างราบคาบ นั่นก็คือสาว จีจ้า ญาณิน และละครอีสาวอันตราย ก็จะเป็นอีกหนึ่งผลงานที่สาวจีจ้าได้โชว์ลวดลายการบู๊แบบเท่อีกครั้ง

          นอกจากราชินีนักบู๊ 2 คนที่ดึงดูดคนดูแล้ว ละครเรื่องนี้ยังมีนักแสดงสาวนักบู๊น้องใหม่ที่ขอรับบัลลังก์ต่อจากรุ่นพี่อย่าง ฝ้าย นันทนัช   โดย ฝ้าย เผยว่า “ละครเรื่อง อีสาวอันตราย คือเราได้เล่นบู๊เต็มตัวเลยค่ะ ก็เรียกว่าเป็นแนวละครที่อยากเล่นนะคะ แล้วก็ได้มาเล่นเรื่องนี้ มันเป็นแนวใหม่ที่เรายังแบบไม่คุ้นเคย แต่ว่าโชคดีที่ได้ทำงานร่วมกับกองของพี่แดง ธัญญา แล้วก็โชคดีที่พี่เขาส่งไปเรียนด้วย แล้วก็มีพี่ จีจ้า มาเล่นด้วย

           คือเวลาเราไม่เข้าใจอะไร เราก็จะถามครูที่เขาสอนด้วย และก็ถามคำแนะนำจากพี่จีจ้าเวลาฝึกซ้อมด้วยค่ะ ในเรื่องก็จะมีเตะต่อยอย่างเดียวคะ ไม่มีปืน ไม่มีเอฟเฟ็กต์ ในเรื่องจะเน้นเป็นมวยไทย และเราต้องบู๊เองแสดงเองค่ะ ก็คืออย่างตอนเล่น เวลาครูที่ออกแบบท่า ออกแบบแอคชั่น เขาก็จะดูว่าศักยภาพเราว่าทำได้ขนาดไหน เขาก็จะใส่ท่าที่เราเล่นได้ให้เราเล่นค่ะ ถ้าถามว่าท่าบู๊ที่ยากที่สุดคือท่าไหน ก็มีหลายท่าเหมือนกันนะ มีจระเข้ฟาดหาง กระโดดจับ คือมันจะมีเรื่องคิวและจังหวะในการบู๊ แล้วเราก็เป็นคนจำไม่ค่อยได้มันเลยยากนิดหน่อยค่ะ ก็ขอฝากผลงานการบู๊ในละคร อีสาวอันตราย ของ ฝ้าย ด้วยนะคะ”