จับตาประชุมรัฐสภา 10 ก.ย. โหวตร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3 "บิ๊กป้อม" ให้สิทธิ์ "พปชร." พิจารณา แต่ "ไพบูลย์" บอก ส.ส.ลูกพี่ส่งซิกห้ามแตกแถวหนุนใช้บัตร 2 ใบ "ปธ.วิปรัฐบาล" ขอ ส.ว.เกิน 83 เสียงฉลุย "ปชป." ดันสุดตัว "จุรินทร์” ยันไม่ได้แก้ใส่พานให้ใคร  "ภท." ยึดจุดยืนเดิมงดออกเสียง "พท." หวั่นซ้ำรอยเดิมกลับลำคว่ำ  รธน. ขอ ปชช.ช่วยกันติดตาม "ส.ว." เริ่มมีสัญญาณแปลกๆ "เพื่อนบิ๊กตู่" แย้มลงมติวาระ 1-2 ไม่ใช่ภาระผูกพันวาระ 3 ระบุสถานการณ์เปลี่ยนก็ตัดสินใจใหม่ได้ "บิ๊กโย่ง" ชี้ถ้า ส.ว.ยกมืออาจเกิน 84 เสียงแบบเฉียดฉิว 
    มีความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องในการประชุมรัฐสภาวันที่ 10  ก.ย.64 เพื่อพิจารณาเรื่องด่วนคือ การลงมติในวาระ 3 ของร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่...) พุทธศักราช.... (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 83 และมาตรา 91) เรื่องบัตรเลือกตั้ง  ส.ส. 2 ใบ 
    โดยเมื่อวันที่ 9 ก.ย. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี  ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงแนวทางการลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรค พปชร.ว่า แล้วแต่สมาชิกพรรคเพราะเป็นสิทธิ์ของเขา 
    พล.อ.ประวิตรยืนยันด้วยว่า ไม่กังวลต่อการโหวตของพรรคเล็ก  รวมทั้งในส่วนของ ส.ว.ก็เป็นสิทธิ์ของเขา เมื่อถามย้ำว่ามีกระแสข่าวตั้งข้อสังเกต พล.อ.ประวิตรเชื่อมโยงกับพรรคเพื่อไทยเพื่อให้ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญผ่าน พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่ตอบแล้ว เดี๋ยวจะไปเขียนกันอย่างอื่น  
    ที่ห้องประชุมพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ชั้น 6 รัฐสภา นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค พปชร.ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุม ส.ส.พรรค พปชร.ถึงการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญดังกล่าวว่า เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 9 ก.ย. ตนได้โทรศัพท์ไปหา พล.อ.ประวิตรเพื่อรับมอบนโยบายในเรื่องนี้ โดย พล.อ.ประวิตรให้แจ้งต่อที่ประชุมพรรค พปชร.ให้สนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยให้ใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ และตนจะแจ้งให้ที่ประชุมทราบเพื่อให้เป็นความเห็นร่วมกันของ ส.ส.และเป็นแนวทางปฏิบัติของพรรค พปชร.ว่าเรามีความเห็นร่วมกัน โดยการชี้แนะตามนโยบายของหัวหน้าพรรค ดังนั้น ส.ส.ของพรรคก็จะโหวตในทิศทางเดียวกันให้เป็นเอกภาพ 
    ถามถึงแผนสำรองหากในวันที่ 10 ก.ย.นี้ ส.ว.โหวตคว่ำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่เอาด้วยกับบัตร 2 ใบ นายไพบูลย์กล่าวว่า มั่นใจ ส.ว.จะโหวตรับหลักการ เพราะที่ผ่านมาวาระ 1 และในวาระ 2 ก็รับ ฉะนั้นในวาระ 3 ก็มี ส.ว.ที่โหวตเห็นชอบอยู่แล้ว ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์ ถ้าเป็นเช่นนั้นร่างรัฐธรรมนูญก็จะผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา
    ส่วนนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค พปชร. ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวว่า แนวโน้มการโหวตของ ส.ว.ตอบแทนกันไม่ได้ แต่แนวโน้มของพวกเราตอบได้ แต่เราก็คิดว่าในวาระแรกเขาให้เรามาแล้ว 200  เสียง วาระที่สอง 180 ส่วนวาระ 3 ก็ขอเกิน 83 เสียง 
    ย้ำว่าเสียงในพรรคไม่ห่วงแต่ห่วงเสียง ส.ว.ใช่หรือไม่ ประธานวิปรัฐบาลกล่าวว่าใช่ มีแต่เสียง ส.ว. ส่วนเสียงพรรคร่วมรัฐบาลเราให้เขาแสดงท่าทีและเขาก็แจ้งกลับมานานแล้ว ซึ่งมีที่งดออกเสียงและโหวตไม่รับ 
    มีรายงานว่า ในการประชุม ส.ส.พรรค พปชร.ครั้งนี้ ใช้เวลาหารือเกือบ 1 ชั่วโมง ถึงการลงมติแก้ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3 โดยนายไพบูลย์ซึ่งทำหน้าที่ประธานการประชุม ได้แจ้งให้ ส.ส.รับทราบข้อสั่งการของ พล.อ.ประวิตรที่มอบนโยบายให้ ส.ส.โหวตสนับสนุนร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน พร้อมกับชี้แจงถึงข้อดีเรื่องบัตรสองใบและขอให้ ส.ส.ไปพิจารณาตัดสินใจ 
พท.ดักคอรัฐบาลกลับลำ
    "ก่อนจบการประชุม นายไพบูลย์รวมถึงนายวิรัชได้สอบถาม ส.ส.ในห้องประชุมเพื่อหยั่งเสียงว่าใครที่จะโหวตเห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วย ซึ่ง ส.ส.ส่วนใหญ่ยกมือว่าจะโหวตสนับสนุน และมี ส.ส.บางคน อาทิ นายวันชัย ปริญญาศิริ ส.ส.สงขลา เขต 1 ที่ไม่เห็นด้วย" แหล่งข่าวระบุ
    ขณะที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3 จะผ่านหรือไม่ผ่าน เรื่องนี้เกินกำลังที่พรรค  ปชป.จะไปกำหนดหรือดำเนินการอะไรให้ครบถ้วนทั้งหมดได้ แต่อย่างน้อยที่สุดพรรคยืนยันในการทำหน้าที่เต็มกำลังความสามารถ และการประชุม ส.ส.พรรค เมื่อวันที่ 8 ก.ย.ที่ผ่านมาได้ข้อยุติแล้ว โดยทุกคนมีความเห็นร่วมกันว่าจะลงมติรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระที่ 3 ส่วน ส.ว.จะคว่ำร่างรัฐธรรมนูญหรือไม่ ไม่ทราบ
    "สิ่งหนึ่งยืนยันว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นประเด็นที่ได้พูดคุยกันไว้กับพรรคพลังประชารัฐในตอนร่วมรัฐบาล เป็นข้อเท็จจริงที่ทราบดีกันอยู่แล้ว แต่เราไม่สามารถไปสั่งคนอื่นให้ปฏิบัติตามแนวทางพรรค ปชป.ได้ อย่างไรก็ตาม ยืนยันการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ไม่ได้ใส่พานไปให้กับพรรคใดพรรคหนึ่ง ถ้าดูประโยชน์ของพรรคการเมืองก็มีได้มีเสียทุกพรรค หากเอาประโยชน์ของพรรคการเมืองเป็นที่ตั้งก็คงแก้ไขไม่ได้เลย เราต้องถือหลักการว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องนำสู่ความเข้มแข็งของระบบพรรคการเมืองระยะยาวหรือไม่ และนำไปสู่ความเข้มแข็งของระบอบประชาธิปไตยระยะยาวหรือไม่ เป็นสิ่งที่เราต้องคำนึงประโยชน์ของส่วนรวม ไม่ใช่ประโยชน์ส่วนพรรค" นายจุรินทร์กล่าว
    ด้านนายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง ในฐานะโฆษกพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวว่า พรรคยังคงยืนยันในจุดยืนเดิม คือ ส.ส.ทุกคนจะงดออกเสียง เพราะเรางดออกเสียงมาตั้งแต่การพิจารณาในวาระ 1 และวาระ 2 มาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเห็นว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ไม่ได้ทำเพื่อประโยชน์ของประชาชนอย่างแท้จริง แต่เป็นการดำเนินการเพื่อพรรคการเมืองและนักการเมืองเท่านั้น อีกทั้งพรรคไม่มีความเห็นเรื่องบัตรเลือกตั้ง เพราะจะเป็นบัตรเลือกตั้งใบเดียวหรือบัตรเลือกตั้งสองใบ เราพรรคภูมิใจไทยก็มีความพร้อมทุกแบบ
    นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ถ้าประเมินว่าพรรค พปชร.คือฝ่ายรัฐบาล แล้วพรรค พปชร.ก็เป็นผู้ที่ยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญในครั้งด้วยก็น่าจะสนับสนุนการแก้ไขบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ แต่ถ้าคิดให้รอบคอบกว่านั้นก็คือการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งก่อนก็เป็นแบบนี้ คือพรรค พปชร.ยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นบัตร 2 ใบมา แต่สุดท้ายก็ถูกคว่ำ น้ำใสเปลี่ยนใจปลา กาลเวลาเปลี่ยนใจคน ดังนั้นพี่น้องประชาชนต้องช่วยกันจับตา
    "ขอเรียกร้องให้ ส.ว.และผู้มีอำนาจ คิดถึงพี่น้องประชาชนบ้าง วันนี้สถานการณ์ต่างๆ ของประเทศที่วิกฤตการแก้ไขปัญหาประเทศล่าช้า ไม่ประสบผลสำเร็จ และพี่น้องประชาชนต้องยากลำบากส่วนหนึ่งเป็นเพราะรัฐบาลอ่อนแอ ไร้ประสิทธิภาพ ไร้เสถียรภาพที่มาจากรัฐธรรมนูญนี้ ดังนั้นการลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญจึงขอให้ทุกฝ่ายคำนึงถึงพี่น้องประชาชนให้มากที่สุด" นายสุทินกล่าว
    นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรค พท. กล่าวว่า การจะผ่านวาระ 3 ได้หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับ พล.อ.ประยุทธ์จะมีการส่งสัญญาณอย่างไร ทุกอย่างเกิดขึ้นได้หมด เพราะ พล.อ.ประยุทธ์คุมเกมในสภาฯ ดังนั้นสามารถสั่งบุคคลในเครือข่าย คสช.ได้ว่าต้องการให้โหวตแบบไหน ดังนั้นการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2560 ขึ้นอยู่กับ พล.อ.ประยุทธ์จะให้ผ่านหรือไม่ผ่าน  
ส.ว.ยังกั๊กคว่ำไม่คว่ำ
    วันเดียวกัน ในส่วน ส.ว.นั้น พล.อ.อกนิษฐ์ หมื่นสวัสดิ์ ส.ว. ซึ่งเป็นเพื่อนเตรียมทหารรุ่น 12 กับ พล.อ.ประยุท ธ์และเป็นหนึ่งในวิปวุฒิสภา กล่าวหลังการประชุมวิปวุฒิสภาว่า ในที่ประชุมวิปวุฒิสภาไม่ได้มีการหยิบยกเรื่องการลงมติวาระ 3 แก้รัฐธรรมนูญมาหารือแต่อย่างใด เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ เป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ว.แต่ละคน
    ถามถึงกรณี ส.ว.บางส่วนเห็นว่าตอนลงมติวาระแรกกับวาระ 2 ได้ลงมติเห็นชอบไปแล้ว หากจะให้เปลี่ยนใจงดออกเสียงหรือไม่เห็นด้วย เกรงว่าอาจกระสุนตกได้ถ้าเปลี่ยนท่าทีตอนลงมติวาระสาม พล.อ.อกนิษฐ์กล่าวว่า คนที่คิดดังกล่าวคงไม่ได้ดูรัฐธรรมนูญ หรือดูแล้วไม่เข้าใจเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ เพราะการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ทั่วไปของรัฐสภา  ตอนลงมติวาระ 2 เสร็จก็ลงมติวาระ 3 ต่อทันทีในวันเดียวกันเลย แต่การพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญหลังลงมติวาระ 2 แล้วให้เว้นไว้ 15 วัน ถึงค่อยมาลงมติวาระ 3 เจตนารมณ์ที่มีการเว้นไว้ 15 วัน ก็เพื่อให้สมาชิกรัฐสภาทั้งหมดได้มีเวลาใคร่ครวญไตร่ตรองสิ่งที่เคยลงมติไว้ตอนวาระ 2 ถึงตอนจะลงมติวาระ 3 สิ่งที่เคยคิดไว้มันอาจไม่ใช่ ยังจะมีข้อเท็จจริงอื่นอีกเยอะแยะให้เขาได้รับรู้เข้ามา  
    "รัฐธรรมนูญเว้นระยะไว้ให้มาลงวาระ 3 อย่างน้อย 15 วัน ก็อาจจะเป็นเพราะเช่น สถานการณ์การเมืองอาจจะเปลี่ยนมีข้อเท็จจริงใหม่เกิดขึ้นก็มาตัดสินใจใหม่ก็ได้ ไม่ได้มีภาระผูกพันว่าลงมติวาระ 2 แล้วต้องมาลงมติแบบเดิมตอนวาระ 3 ยืนยันมันไม่ใช่ภาระผูกพัน ถามว่าสถานการณ์การเมืองเมื่อตอนโหวตวาระ 2 กับวันนี้แตกต่างกันหรือไม่ แตกต่างกันใช่ไหม ถ้าหากว่าแตกต่างกันแล้วเกิดโหวตเห็นชอบไป ถามว่าเกิดประโยชน์กับประเทศชาติและประชาชนอย่างไร มันไม่ใช่แล้วไง ถูกไหมมันจึงไม่จำเป็นต้องลงมติวาระ 2 แล้ววาระ 3 จะต้องมาลงมติเห็นชอบ ด้วยเรื่องนี้ต้องไม่คิดง่ายๆ ไม่คิดตื้นๆ" พล.อ.อกนิษฐ์ระบุ
    พล.อ.อนันตพร หรือบิ๊กโย่ง กาญจนรัตน์ ส.ว.สายตรง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า จากการประเมินเสียง ส.ว.น่าจะใกล้เคียงมาก แต่ถามความเห็นส่วนตัวคิดว่าอาจจะเฉียดฉิว คือน่าจะผ่าน แต่เสียงก็อาจเฉียดฉิวเกิน 84 เสียงก็ได้ ซึ่งก็เป็นไปได้ที่อาจจะมี ส.ว.ที่เคยลงมติเห็นชอบในวาระแรกและวาระ 2 พอมาถึงการลงมติวาระ 3 หากเขายังไม่แน่ใจ ก็อาจใช้วิธีเปลี่ยนมาเป็นการงดออกเสียงตอนโหวต
    ส่วน พล.อ.นพดล อินทปัญญา ส.ว. เพื่อนรักของ พล.อ.ประวิตร ยืนยันว่า การลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3 ส.ว.ฟรีโหวต ไม่มีใบสั่งให้คว่ำหรือหงาย แต่ละคนล้วนมีเหตุผลใช้ดุลยพินิจพิจารณา ส่วนตัวพิจารณาผ่านตั้งแต่วาระ 1-2 ในวาระ 3 จะพิจารณาให้ผ่านเช่นกัน ถ้าไม่มีการอภิปรายเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมก็ยังไม่มีเหตุผลที่จะไม่ให้ผ่าน
    นายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว. ยืนยันในหลักการเดิมว่าไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ เพราะประชาชนไม่ได้ประโยชน์ เป็นเรื่องของ 2 พรรคการเมืองใหญ่ ไม่ได้แก้เพื่อประชาชน ซึ่งตอนนี้ก็พบว่ายังเห็นไม่ตรงกัน เพราะวิปรัฐบาลจากพลังประชารัฐบอกให้ฟรีโหวต แต่นายไพบูลย์บอกพรรคต้องสนับสนุนลงมติไปในทางเดียวกัน 
    "ในส่วนของ ส.ว.ถึงตอนนี้ ส.ว.ยังไม่ตกผลึกเสียทีเดียว ยังมีความเห็นแตกต่างกันอยู่มาก มีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับบัตร 2 ใบ บางคนที่ไม่เห็นด้วยก็บอกว่าหากกลับไปใช้ระบบเดิม การเมืองจะกลับไปมีปัญหาแบบในอดีต ทำให้ถึงตอนนี้ยังบอกไม่ได้ชัดว่า ส.ว.เสียงส่วนใหญ่เอาอย่างไร" นายเสรีกล่าว
    นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว. โพสต์เฟซบุ๊กตอนหนึ่งระบุว่า จุดยืนของผมในการโหวตวาระ 3 วันศุกร์ที่ 10 ก.ย.64 นี้จึงเป็นอื่นไปไม่ได้ นอกจากไม่ขอโหวตเห็นชอบกับร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมเปลี่ยนระบบเลือกตั้งเป็น MMM บัตร 2 ใบ 400 : 100 คู่ขนาน.