ร้อนฉ่าขึ้นมาเลยทีเดียว
ราชกิจจานุเบกษา ประกาศ ให้....
ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน
พ้นจากความเป็นรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ ๘ กันยายน ๒๕๖๔ เป็นต้นไป
เร็วกว่าที่คิดเอาไว้!
และไม่ใช่เรื่องลาออก
แต่เป็นการปลดออก
ว่าไปแล้ว "เต้-มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์" รู้เรื่องนี้ก่อนใคร โพนทะนาว่านายกรัฐมนตรี เซ็นคำสั่งปลด "ธรรมนัส พรหมเผ่า" ตั้งแต่วันที่ ๒ กันยายน
ป่านนี้คงฝอยเป็นต่อยหอยแล้ว
การเมืองสำหรับ "ธรรมนัส พรหมเผ่า" ถึงทางตัน เดินหน้าไม่ได้ ถอยหลังลำบาก เพราะหมากที่วางไว้ผิดพลาด หรือบางอย่างไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ กันแน่
นี่อาจเป็นภาคต่อมาจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งแรกช่วงเดือนกุมภาพันธ์ "ธรรมนัส พรหมเผ่า" หอบร่างที่มีแผลเหวอะมา แต่รอดการอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อต้นเดือนนี้ไปอย่างมหัศจรรย์
เมื่อมองย้อนกลับไปช่วงกลางเดือนสิงหาคม ที่ฝ่ายค้านตีปี๊บซักฟอกรายวัน เพื่อแก้ปริศนา พบว่าทุกอย่างถูกวางไว้อย่างลงตัว
คำแถลงของ "สุทิน คลังแสง" เมื่อวันที่ ๑๗ สิงหาคม ได้เฉลยบางคำตอบที่ถามกันอยู่ในขณะนี้ว่า ทำไม "ธรรมนัส พรหมเผ่า" ต้องลาออก
"ร.อ.ธรรมนัสมีคนอยากอภิปรายเยอะ แต่สุดท้ายก็ไม่เห็นมีใครเสนอชื่อ เพราะเพิ่งจะอภิปรายผ่านมาและเขาได้ตอบแล้ว ซึ่งครั้งนี้ยังไม่มีอะไรใหม่"
ในแง่การตรวจสอบ เป็นเรื่องที่เชื่อได้ยากว่า พรรคเพื่อไทย จะเข้าใจและไม่ต้องการอภิปรายไม่ไว้วางใจ "ธรรมนัส พรหมเผ่า" อีกแล้ว เพราะตอบคำถามในการซักฟอกช่วงต้นปีไปหมดแล้ว
จริงหรือเปล่า?
ขบวนการเช็กบิล "ธรรมนัส พรหมเผ่า" ยังคงดำเนินการต่อเนื่อง หลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจเดือนกุมภาพันธ์ต่อเนื่องยาวนาน กลางเดือนกรกฎาคมยังมีความเคลื่อนไหวจากพรรคฝ่ายค้านเพื่อเล่นงาน "ธรรมนัส พรหมเผ่า"อยู่
มีการตรวจสอบ "ธรรมนัส พรหมเผ่า" ประเด็น ผิดจริยธรรม ในคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร
เรียกปลัดกระทรวงการต่างประเทศชี้แจง ถึงสำเนาคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ รัฐนิวเซาท์เวลส์ เครือรัฐออสเตรเลีย คดี "ธรรมนัส พรหมเผ่า" พัวพันยาเสพติด
ฉะนั้้นการบอกว่า
ไม่มีใครเสนอชื่อ
เขาได้ตอบแล้ว
ยังไม่มีอะไรใหม่
ล้วนมาจากเหตุผลทางการเมืองทั้งสิ้น มิใช่เหตุผลด้านการตรวจสอบแต่อย่างใด
ขณะเดียวกันเดือนเมษายน มีคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ ๘๕/๒๕๖๔ เรื่องมอบหมายให้รัฐมนตรีรับผิดชอบแนวคิดการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันระดับพื้นที่จังหวัดแบ่งงานให้รัฐมนตรีดูแลพื้นที่
มอบหมายให้ "ธรรมนัส พรหมเผ่า" ดูแล จังหวัดสงขลา นครศรีธรรมราช และภูเก็ต
คำสั่งนี้ถูกวิจารณ์ว่าพรรคพลังประชารัฐวางแผนยึดฐานเสียงภาคใต้ หลัง "ธรรมนัส พรหมเผ่า" พาพลังประชารัฐเหยียบจมูกประชาธิปัตย์ ชนะเลือกตั้งซ่อม ส.ส.นครศรีธรรมราชได้
ก่อน "ธรรมนัส พรหมเผ่า" ขยับขึ้นเป็นเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐได้สำเร็จในเดือนมิถุนายน
ว่ากันว่าโครงสร้างพรรคใหม่ที่ "ธรรมนัส พรหมเผ่า" เป็นเลขาธิการพรรค "บิ๊กป้อม" เป็นหัวหน้าพรรคมีขึ้นเพื่อ ปูทางให้พรรคพลังประชารัฐ กลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้งหลังการเลือกตั้งครั้งถัดไป
เป็นการรีบเร่งตัดสินใจ เพราะแรงกระเพื่อมทางการเมืองเกิดขึ้นตลอดเวลา ทั้งจากพรรคฝ่ายค้าน และการชุมนุมของฝ่ายต่อต้านรัฐบาล
ทำให้การยุบสภา อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
การที่สร้างผลงานให้พลังประชารัฐชนะการเลือกตั้งซ่อมทุกสนาม ถือว่าไม่ธรรมดาอย่างมาก
แล้วทำไมถึงหมดอายุการใช้งานเร็วกว่ากำหนด
พิจารณาจากคำแถลงของ "ธรรมนัส พรหมเผ่า"
“ผมต้องการทำงานอื่นที่เข้มแข็ง เพื่อประเทศชาติบ้านเมืองจริงๆ ไม่ใช่มารองรับหรือทำอะไรเพื่อคนบางกลุ่ม
ที่ผ่านมา ปรึกษาครอบครัวมาหลายวันแล้ว ได้ข้อยุติว่า ผมจะลาออกจากตำแหน่ง รมช.เกษตรและสหกรณ์ ซึ่งได้ลงนามไว้ตั้งแต่เมื่อวันที่ ๘ กันยายน และตั้งใจว่าจะยื่นเอกสารตั้งแต่เมื่อวานแล้ว แต่เลขานุการเข้าใจผิดว่าจะยื่นวันที่ ๙ กันยายน
ท้ายที่สุดแล้วขอแจ้งประชาชนทุกจังหวัดว่า วันนี้ตัดสินใจแล้วว่า จะเลือกเส้นทางการเดินของผมใหม่ ยึดหลักผลประโยชน์ของประเทศชาติ และประชาชนเป็นที่ตั้ง
กราบขอโทษพี่น้องประชาชนที่วันนี้ไม่สามารถที่จะทำในสิ่งที่ผมรับปาก
ตัดสินใจเด็ดขาดแล้วว่าจะกลับไปตั้งต้นที่จังหวัดพะเยา ทำงานให้พี่น้องชาวพะเยา และจังหวัดอื่นๆ หากกลับไปมีอำนาจอีกครั้ง มีวาสนาอีกครั้ง ตั้งมั่นว่าจะทำงานเพื่อบ้านเมือง
อาจจะไปอยู่บ้านหลังใหม่ที่มีความสุข เมื่อย้ายมาจากบ้านหลังเดิมที่มีความสุขดีอยู่แล้ว บ้านหลังเดิมคือที่จังหวัดพะเยา
มีพรรคมาจีบผมเยอะแยะ และไม่เกี่ยวกับกรณีที่มีกระแสข่าวว่ามีการพูดคุยกันก่อนหน้านี้ อาจจะเป็นพรรคพะเยา หรือพรรคพลังพะเยา หรืออาจจะเป็นอีสานล้านนาก็ได้ ทุกอย่างเตรียมไว้หมดแล้ว เร็วๆ นี้จะได้เห็นโฉมหน้าแน่ๆ”
และสุดท้ายกับการตอบคำถามพลังประชารัฐจะแตกหรือไม่
"ก็ไม่แน่ เพราะใจผมไปแล้ว พูดแล้วนักเลงพอ ทำอะไรแล้วต้องรับผิดชอบ อยู่ที่ไหนก็ได้ขอให้ใจมันอยู่ ถ้าใจมันไม่อยู่ใครจะมาบังคับตนก็ไม่ได้"
ก็ไม่มีอะไรต้องตีความ
เมื่อดีลการเมือง โหวตเสียงไม่ไว้วางใจนายกฯ ไม่สำเร็จ ก็มีทางเดียวให้ไปคือ ต้องออกจากพลังประชารัฐ
และ "ธรรมนัส พรหมเผ่า" ยืนยันในการแถลงข่าวคือ
"เราต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ได้กระทำไป"
ครับ...ขณะนี้ฝุ่นยังตลบอยู่ การพูดที่ตรงกับใจคิดยังไม่เกิด
แต่สิ่งที่เป็นลายลักษณ์อักษรไม่อาจกลบเกลื่อนความคิดที่แท้จริงได้
จดหมายลาออกสะท้อนว่า "ธรรมนัส พรหมเผ่า" คิดอะไร
ปกติจดหมายราชการ จดหมายลาออก มักมีคำ "ขอแสดงความนับถือ" ลงท้ายเสมอ
แต่จดหมายลาออก "ธรรมนัส พรหมเผ่า" ที่ส่งถึงนายกรัฐมนตรี ไม่มีคำนี้
มีแค่ "จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ" เท่านั้น
คำถามคือ เป็นความตั้งใจให้ตกสาระสำคัญไปหรือไม่?
ถ้าใช่แสดงว่า ไม่นับถือกันแล้ว
แม้จดหมายลาออกจะลงวันที่ ๗ กันยายน ๒๕๖๔ วันเดียวกันกับที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา แต่มีความเป็นไปได้สูงว่าทำขึ้นในวันที่ ๘ กันยายน เพื่อให้มองว่า ไม่ได้ถูกปลด
แต่ลาออกเอง
ดีลที่ล้มเหลว ส่งผลถึงอนาคตทางการเมืองที่อาจยังไปต่อได้อีกไกล
ทั้งที่ "ธรรมนัส พรหมเผ่า" มาไกลและเร็วกว่าที่คิด
วันนี้เมื่อใจไม่อยู่ "ธรรมนัส พรหมเผ่า" จะไปไหนต่ออาจเป็นที่สนใจอยู่บ้าง
กลับไปหานายเก่า "ทักษิณ ชินวัตร" หรือเปล่า ต้องติดตามกันต่อไป เพราะเพิ่งวางสายกันไปไม่นาน
แต่สำหรับ "กองหนุนลุงตู่" หายใจคล่องขึ้นแม้จะใส่แมสก์ ๒ ชั้นก็ตามที
พระสยามเทวาธิราชมีจริง!
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |