ก็ยังไม่รู้ว่าเรื่อง บัตรใบเดียว-บัตรสองใบ เขาจะเอาไงกันต่อ...ขณะที่กำลังปั่นต้นฉบับชิ้นนี้ แต่ก็นั่นแหละ...ไม่ว่าใบเดียวหรือสองใบ มันคงไม่ได้เกี่ยวอะไรกับประโยชน์โพดผลของปุถุชนคนธรรมดาอย่างเราๆ-ทั่นๆ มากมายซักเท่าไหร่ แต่หนักไปทาง ผลประโยชน์ ของพวกนักการเมือง-พรรคการเมืองเขานั่นแหละเป็นหลัก...
----------------------------------------------------
คือประมาณว่า...การที่บรรดาพรรคเล็ก-พรรคน้อย ยังสามารถ หะ-มอย-รอม-แรม ชูคอ ชูเขี้ยวขอ ภายในสัปปายะสภาสถาน ได้อย่างลื่นไหล กินกล้วยและกินอะไรต่อมิอะไรไปตามความปรารถนาและต้องการ ได้อย่างไม่ถึงกับ ติดคอ มากมายจนเกินไป ก็เพราะโดยกระบวนการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา หรือครั้งที่ยังใช้ บัตรใบเดียว นั่นแหละเป็นสำคัญ แต่ถ้าลองเปลี่ยนใหม่ หรือเปลี่ยนไปอย่างที่พรรคใหญ่เขาต้องการ ในการยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญเที่ยวนี้ หรือหันไปใช้ บัตรสองใบ โอกาสที่พรรคเล็กๆ จะ สูญพันธุ์ ขณะที่พรรคใหญ่ๆ สามารถ แพร่พันธุ์ เพิ่มจำนวน งู โดยไม่จำเป็นต้องเพิ่มจำนวน กล้วย ก็น่าจะเป็นไปได้ โดยเฉพาะในการเลือกตั้งครั้งหน้า...
-----------------------------------------------------
แต่ทั้งนี้ ทั้งนั้น...ก็คงต้องขึ้นอยู่กับบรรดา กล้วยไข่ หรือ กล้วยฝังมุก จำนวนไม่น้อยไปกว่า 84 ราย ในบรรดาวุฒิสมาชิก 250 ราย ที่อยู่ในกระเป๋ากุงเกงของ บิ๊กตู่ หรือกระเป๋าเอกสารของ พี่น้อง 3 ป. มาตั้งแต่แรก ว่าจะเอาไง-ไม่เอาไง กันในแบบไหน? อย่างไร? เป็นไง...ฟังแล้วเริ่มรู้สึก บวดหัว เกินกว่าจะอาศัยยา บวดหาย มั่งแล้วมั้ยทั่น!!! คือสรุปรวมความแล้ว มันคงไม่ได้เกี่ยวอะไรกับโควิด-ไม่โควิด ป่วยตาย-ไม่ป่วยตาย อดตาย-ไม่อดตาย ซักกี่มากน้อย จำนวน ผู้ติดเชื้อ รายวันในช่วงนี้ จึงยังคงปาเข้าไปประมาณหมื่นสี่ หมื่นห้า หมื่นหก อยู่เช่นเดิม อีกทั้งแนวโน้มการอดตาย หรือการรวยแต่แค่ มะเขือ ของบรรดาปวงชนชาวไทยทั้งหลาย ในอนาคตเบื้องหน้า อีกไม่ใกล้-ไม่ไกล นับจากนี้ ก็คงไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมซักเท่าไหร่ คือยังคงเป็น ไทยแลนด์ แซนด์บ็อกซ์ หรือเป็น ปราสาททราย ไปอีกตราบนานเท่านาน...
-------------------------------------------------------
ด้วยเหตุนี้...การที่พวก ส.ส.-ส.ว. เขาจะแก้อะไร-ไม่แก้อะไร ก็อย่าถึงกับต้องหยิบเอามาเป็นภาระ เป็นเครื่องปรุงแต่งให้ต้องปวดเศียร-เวียนเกล้า ตามไปกับเขาด้วย แค่มองดูอยู่ห่างๆ มองแบบนักสังเกตการณ์ หรือมองแบบประเภท อีแร้งแก่ (Old Turkey Buzzard) ในเรื่อง ขุมทองแมคแคนนา หนังฮอลลีวูดยุคพระเจ้าเหายังคงใส่กางเกงหูรูด ก็น่าจะเหมาะกว่า เข้าท่ากว่าเป็นไหนๆ คือมองแบบ Old buzzard knows that he can wait. Cause every mother’s son has got a date, a date with fate. With fate. อะไรทำนองนั้น โดยเมื่อไหร่ที่ถึงจังหวะเหมาะๆ ก็ค่อยเปล่งเสียงร้องครวญครางไปกับนักร้อง นักประพันธ์เพลง อย่าง โฮเซ เฟลิเซียโน โดยเฉพาะท่อนที่ว่าด้วย...The men who scheme, the men who dream. And die for gold on the rock below. อันเป็นอะไรที่อมตะนิรันดร์กาลมาโดยตลอด...
-------------------------------------------------------
เพราะอย่างที่เคยว่าไว้แล้วนั่นแหละว่า...การมาถึงของท่านเชื้อไวรัสโควิดคราวนี้ มันคงไม่ใช่เรื่องชิลๆ ธรรมดาๆ อยู่แล้วแน่ๆ แต่มันคือการ ส่งสัญญาณ ถึง การเปลี่ยนแปลง แบบชนิดจากหน้ามือเป็นหลังเท้า หรือจากหลังเท้าเป็นหน้ามือ ได้เสมอๆ ยิ่งท่านออกอาการ ตั้งท่าว่าจะ อยู่ยาวว์ว์ว์ ปี-สองปีเข้าไปแล้ว ก็ยังไม่คิดจะไปไหน แถมยังวิวัฒนาการ กลายพันธุ์ เปลี่ยนพันธุ์ ไปเป็นอะไรที่ร้ายกาจซะยิ่งกว่าเก่า ยิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ แค่วิถีชีวิตแบบธรรมดาๆ แบบที่เคยเจ๊าะๆ แจ๊ะๆ เคยนุงนัง นัวเนีย กันมาโดยตลอด ก็หนีไม่พ้นต้องปรับ ต้องเปลี่ยน ไปตามสภาพ ต้องควัก หน้ากาก มาใส่เป็นมนุษย์ต่างดาวกันไปทั้งบ้าน ทั้งเมือง หรือทั้งโลกเอาเลยถึงขั้นนั้น ต้อง เว้นระยะห่าง จะไป-มา-หาสู่ กันแบบก่อนๆ แทบเป็นไปไม่ได้เอาเลย...
--------------------------------------------------------
ด้วยเหตุนี้...ไม่ว่าจะเป็นสังคม-เศรษฐกิจ-หรือการเมือง ยังไงๆ มันคงต้องปรับ-ต้องเปลี่ยน ไปตามวิถีทาง ตามธรรรมชาติ อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงและปฏิเสธได้ เพียงแต่ว่า...ณ ช่วงขณะนี้ มันยังไม่ถึงกับ แสดงอาการ ออกมามากมายซักเท่าไหร่นัก ยังพอ อยู่ๆ กันไปได้ สำหรับสังคมแบบเก่า-เศรษฐกิจแบบเก่า-หรือการเมืองแบบเก่า แต่เมื่อ จังหวะ และ เวลา หรือเมื่อ a date with fate. With fate มันมาถึงเมื่อไหร่ อันนั้นนั่นแหละ...ไม่ว่า บัตรหนึ่งใบ หรือ สองใบ หรือจะซักกี่ใบก็แล้วแต่ เผลอๆ...อาจไม่เหลือแม้แต่บัตรเดียวเอาเลยก็ไม่แน่!!!
---------------------------------------------------------
และก็อย่างที่พยายามย้ำนัก ย้ำหนา ย้ำเอาไว้ก่อนล่วงหน้า ณ ที่แห่งนี้นั่นแหละว่า เรื่องของ ความเปลี่ยนแปลง นั้น มันก็คือสิ่งปกติและธรรมดา คือสิ่งนิรันดร์กาล ตาม กฎอนิจจลักษณะ หรือ กฎเหล็กแห่งธรรมชาติ ที่มิอาจผันแปรไปเป็นอื่น ปัญหา มีอยู่เพียงแค่ว่า บรรดาผู้ที่มีความห่วงใย ผูกพัน มีความรักต่อชาติ บ้านเมือง จะหาทางประคับประคองให้บรรดาความเปลี่ยนแปลงนั้นๆ มันเป็นไปในแง่ บวก ไม่ใช่ออกไปทางแง่ ลบ ได้มาก-น้อยเพียงใด หรือไม่ อย่างไร เท่านั้นเอง ยิ่งสามารถสนับสนุน ส่งเสริม ให้เปลี่ยนไปสู่การยกระดับมาตรฐานทางคุณธรรม ศีลธรรม มโนธรรม ให้เพิ่มขึ้นๆ ให้จงได้ โดยไม่จำเป็นต้องไปสนใจว่าจะใช้ บัตร กี่ใบต่อกี่ใบ หรือไม่จำเป็นต้องใช้บัตรอะไรต่อไปอีกแล้ว หรือแบบ...You can live without that gold. ยิ่งดีเข้าไปใหญ่!!!
------------------------------------------------
ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Sanskrit saying (อีกครั้ง...และอีกครั้ง)... “Rise and fall are properties of the big as wax and wane are of the moon; stars, however, suffer no change. - ความเจริญและความเสื่อม เป็นเรื่องของคนใหญ่-คนโต อุปมาดั่งดวงจันทร์ซึ่งมีขึ้น-มีแรม ส่วนดวงดาวทั้งหลาย...หาเปลี่ยนแปรไม่...”
--------------------------------------------------
|
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
| อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
| 'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
| ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
| วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
| "การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
| เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |
