บทความโดย Blogger ที่ใช้ชื่อ “หลี่ กวงหม่าน” ที่ตีพิมพ์ในสื่อทางการจีนหลายสื่อปลุกระดมให้คนจีนเข้าสู่ “ปฏิวัติสังคมครั้งใหญ่” กลายเป็นหัวข้อถกแถลงกันอย่างกว้างขวาง
เนื้อหาของบทความนี้วิเคราะห์ว่า ท่านประธานสี จิ้นผิงกำลังสร้าง “สังคมนิยมแบบจีน” ยุคใหม่ ที่ต้องการให้คนจีนกลับไปสู่รากเหง้าของความคิดแบบเหมา เจ๋อตงที่ให้ “ประชาชนเป็นศูนย์กลาง”
นักวิเคราะห์ต่างประเทศมองว่า นี่เป็นการเปิดฉากเขย่ากลุ่มมหาเศรษฐีจีน ที่สร้างความมั่งคั่งจากธุรกิจไฮเทคและวงการบันเทิงจนกำลังจะครอบงำสังคมจีน
หลายคำประกาศของรัฐบาลและพรรคคอมมิวนิสต์จีนในช่วงหลังนี้ ดูเหมือนจะสอดคล้องกับเนื้อหาที่บทความนี้ตีแผ่ด้วยภาษา “ซ้าย” แบบยุคของอดีตประธานเหมาเลยทีเดียว
แต่ผ่านไปไม่กี่วัน ก็มีบทความตอบโต้จากคนที่ถูกมองว่าเป็นปากเสียงของพรรคคอมมิวนิสต์คนสำคัญเช่นกัน
เขาคือ หู ซิจิ้น บรรณาธิการใหญ่ของ Gobal Times หนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษที่เป็นกระบอกเสียงของรัฐบาลและพรรคมาตลอด
หูระบุว่า บทวิเคราะห์ของ “หลี่ กวงหม่าน” ที่กำลังโด่งดังนั้น “ตีความผิดพลาดถึงทิศทางของพรรค”
บรรณาธิการคนนี้บอกว่า แนวทางของรัฐบาลจีนขณะนี้ไม่ได้รุนแรงและถอนรากถอนโคนระเบียบสังคมถึงขนาดนั้น
หูบอกว่า ภาษาดุดันที่หลี่ กวงหม่านใช้นั้นอาจจะสร้างความตื่นตระหนกในหมู่ประชาชนโดยไม่จำเป็น
โดยเนื้อหาแล้ว หูไม่ได้ต่อต้านแนวคิดที่หลี่ กวงหม่านประณามพวก “นายทุน” และ “คนดังที่ทำตัวเลอะเทอะ”
หูบอกว่า ที่ทางการต้องออกมาจัดระเบียบใหม่นั้นก็เพื่อสกัด “การขยายตัวของทุนนิยมที่ออกนอกลู่นอกทาง”
แต่ทั้งสองบทความเห็นพ้องกันว่า ทิศทางของจีนจากนี้ไปต้องเข้าสู่โหมด “รุ่งเรืองร่วมกัน” จะให้เกิดความเหลื่อมล้ำเกินขอบเขตไม่ได้
ตอนหนึ่งในบทความของหลี่ กวงหม่าน (ซึ่งมารู้ภายหลังว่าเคยเป็นบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์ทางการที่ไม่ค่อยจะโดดเด่นนัก) เตือนว่า
"การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะล้างฝุ่น (ของสังคม) ให้หมดสิ้น ตลาดทุนจะไม่ใช่สวรรค์สำหรับนายทุนที่จะสร้างความร่ำรวยชั่วข้ามคืนอีกต่อไป ตลาดวัฒนธรรมจะไม่ใช่สวรรค์ของดาราสาววายร้าย และข่าวกับความคิดเห็นของสาธารณชนจะไม่อยู่ในฐานะที่บูชาวัฒนธรรมตะวันตกอีกต่อไป...”
“นี่คือการหวนคืนของสีแดง”
"นี่คือการกลับมาของวีรชน (ของพรรคฯ) และการกลับมาของความเสียสละและจงรักภักดี (ต่อพรรคฯ)"
เขาเรียกร้องให้มีการสร้างวัฒนธรรมใหม่ที่มีชีวิตชีวา มีสุขภาพดี มีพลังชายชาตรี เข้มแข็ง และมุ่งเน้นที่ประชาชน
และยังประณามการยักย้ายถ่ายเทเงินทุนขนาดใหญ่ การผูกขาดแพลตฟอร์ม และความเหลวแหลกอันเกิดจากการที่เงินชั่วขับไล่เงินดีในตลาดทุน
นำไปสู่การไหลของเงินทุนไปยังองค์กรธุรกิจ องค์กรที่มีเทคโนโลยีสูง และอุตสาหกรรมการผลิต
บทความนี้ยังแตะเรื่องความวุ่นวายในระบบการศึกษา ที่เขาเห็นว่ามีความเสื่อมโทรมและถดถอยอย่างยิ่ง
บทความเรียกร้องให้มีการปฏิรูปสถาบันฝึกอบรมและเขตการศึกษา ซึ่งจะช่วยให้การศึกษากลับสู่สามัญชนและมีความเป็นธรรมอย่างแท้จริง
เขาอ้างถึงการปฏิวัติสังคมนิยมด้วยการยกตัวอย่าง "ภูเขาใหญ่ทั้งสาม" อันหมายถึงสิ่งกีดขวางอันสูงใหญ่
หมายถึงสิ่งที่ขัดขวางการเติบใหญ่ของสังคมนิยม นั่นคือลัทธิจักรพรรดินิยม, ลัทธิศักดินา และทุนนิยมเล่นพรรคเล่นพวก
บทความนี้ระบุว่า 3 อุปสรรคเหล่านี้เกิดขึ้นตอนสร้าง “จีนใหม่” หลังการปลดปล่อย
แต่วันนี้ “ภูเขา 3 ลูก” ที่เป็นอุปสรรคขัดขวางการสร้างชาติ คือ "การศึกษา, การรักษาพยาบาล และที่อยู่อาศัย"
การถกแถลงในพื้นที่สื่อทางการของจีนวันนี้ว่าด้วย “เปี้ยนเก๋อ” กับ “เก๋อมิ่ง” นั้น กำลังชี้ไปในทิศทางที่สะท้อนถึงแรงสั่นสะเทือนในการที่สี จิ้นผิงกำลังจะออกแบบประเทศจีนในยุค “ความเปลี่ยนแปลงอันลึกซึ้งครั้งยิ่งใหญ่” นี้จริงๆ.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |