9 ก.ย. 2564 นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ สศค.อยู่ระหว่างวางหลักเกณฑ์ เปิดลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรคนจน) รอบใหม่ เพื่อเสนอคณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม ซึ่งมีนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.การคลัง เป็นประธาน พิจารณา ว่าจะเปิดให้มีการลงทะเบียนภายในปีนี้หรือไม่
ทั้งนี้ การลงทะเบียนรอบใหม่ จะเปิดให้ผู้ที่ไม่เคยได้รับสิทธิ์เข้ามาลงทะเบียน โดยคาดว่าจะมีกลุ่มตกหล่นจากมาตรการของรัฐที่ผ่านมาที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ เช่น กรณีไม่มีสมาร์ทโฟน สามารถเข้าร่วมบัตรคนจนได้อีกกว่า 2 ล้านราย ขณะเดียวกัน ผู้ที่ได้รับสิทธิ์เดิม 13.65 ล้านคน ก็จะต้องมาลงทะเบียนใหม่ เพราะกระทรวงการคลังจะมีการปรับเงื่อนไขผู้ได้รับสิทธิ์ ให้มีความเหมาะสมมากขึ้น
"เกณฑ์ต่าง ๆ เสร็จเกือบทั้งหมดแล้ว ขึ้นอยู่กับทางฝ่ายนโยบายว่าจะเดินหน้าต่ออย่างไร คงต้องพิจารณาให้เหมาะสม โดยเฉพาะสถานการณ์โควิด-19 จะส่งผลกระทบอย่างไร หากมีการเปิดให้ลงทะเบียนรอบใหม่หรือไม่" นางสาวกุลยา กล่าว
นางสาวกุลยา กล่าวอีกว่า เบื้องต้น หลักเกณฑ์การร่วมโครงการบัตรคนจนรอบใหม่จะเปลี่ยนไป โดยจะพิจารณาจากรายได้ของผู้ขอรับสิทธิ์ เช่น จากเดิมกำหนดรายละไม่เกินละ 1 แสนบาทต่อปี ก็จะปรับเป็นรายได้ครัวเรือนเฉลี่ยต่อหัว กรณีแม่บ้านไม่มีรายได้ แต่เฉลี่ยรายได้ต่อหัวต่อครัวเรือน ถ้าไม่ถึงเกณฑ์ก็จะยังได้รับสิทธิ์ ส่วนกรณีผู้ที่ไม่เคยมีรายได้มาก่อน แต่ในช่วงที่ผ่านมามีงานทำ มีรายได้ถึงเกณฑ์ แต่ยังมีบัตรคนจนอยู่ ก็จะถูกตัดสิทธิ์ เช่น ข้าราชการ พนักงานเอกชน เป็นต้น รวมทั้งจะมีการนำสินทรัพย์เข้ามาเป็นเกณฑ์พิจารณาด้วย เช่น สมุดบัญชี ที่ดิน บ้าน เป็นต้น
นอกจากนี้ เกณฑ์การลงทะเบียนรอบใหม่ จะช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อยอย่างแท้จริง ปิดช่องไม่ให้คนจนไม่จริงเข้ามาแอบอ้างสิทธิ์ ซึ่งบอกไม่ได้ว่าการลงทะเบียนรอบใหม่จะมีผู้ได้รับสิทธิ์มากหรือน้อยกว่าเดิมที่ 13.65 ล้านคน เพราะจะมีทั้งคนที่เข้ามาเพิ่ม และคนที่ไม่ผ่านสิทธิ์ เพราะมีรายได้เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นไปได้ทุกกรณี แต่บัตรคนจนรอบใหม่ จะทำให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้นและทบทวนข้อมูลทุกปี เช่น ปีนี้หากมีรายได้ ไม่ได้รับสิทธิ์ แต่หากปีต่อไปไม่มีรายได้ ก็สามารถเข้าร่วมโครงการได้
นางสาวกุลยา กล่าวถึงความคืบหน้า โครงการคนละครึ่งเฟส 3 ณ วันที่ 8 ก.ย.2564 พบว่า มีผู้ได้รับสิทธิ 26.8 ล้านราย ผู้ใช้สิทธิ 24 ล้านราย โดยเป็นผู้ที่ใช้สิทธิครบ 1,500 บาท จำนวน 9.1 ล้านราย มียอดใช้จ่ายสะสม 64,291.9 ล้านบาท แบ่งเป็นส่วนที่ประชาชนจ่ายสะสม 32,686.1 ล้านบาท และรัฐร่วมจ่ายสะสม 31,605.8 ล้านบาท
อย่างไรก็ดี กระทรวงการคลัง พร้อมจะโอนวงเงินรอบที่ 2 วันที่ 1 ต.ค.- 31 ธ.ค.2564 จำนวน 1,500 บาท โดยผู้ที่ใช้จ่ายวงเงิน 1,500 บาท ในรอบแรก ( 1 ก.ค.-30 ก.ย. 2564) ไม่หมด สามารถนำไปทบในรอบ 2 ได้ และสามารถใช้จ่ายได้จนถึง 31 ธ.ค. 2564 ไม่ถูกตัดสิทธิ์แต่อย่างใด
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |