9 ก.ย. 2564 รศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี มหาวิทยาลัย หอการค้าไทยศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค (Consumer Confidence Index: CCI) ปรับตัวลดลงจากระดับ 40.9 เป็น 39.6 ซึ่งอยู่ในระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบ 275 เดือน หรือ 22 ปี 11 เดือน นับตั้งแต่ทำการสำรวจในเดือน ต.ค.41 เป็นต้นมา
การที่ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคโดยรวมยังคงเคลื่อนไหวคงอยู่ต่ำกว่าระดับ 100 แสดงให้เห็นว่า ผู้บริโภคยังคงเห็นว่าสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวมยังคงย่ำแย่จากวิกฤต COVID-19 ในประเทศไทยและทั่วโลก ซึ่งจะส่งผลกระทบในเชิงลบอย่างมากต่อกำลังซื้อภายในประเทศ ภาคการท่องเที่ยว ภาคการส่งออก ธุรกิจโดยทั่วไป และ การจ้างงานในอนาคต โดยบั่นทอนความเชื่อมั่นของผู้บริโภคทั้งในปัจจุบัน และ ในอนาคตได้อย่างต่อเนื่องในระยะอันใกล้นี้
สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวม ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสหางานทำโดยรวม และ ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตอยู่ที่ระดับ 33.8 36.3 และ 48.6 ตามลำดับ โดยปรับตัวลดลงทุกรายการเมื่อเทียบกับดัชนีในเดือน ก.ค.ที่อยู่ในระดับ 35.3 38.0 และ 49.6 ตามลำดับ
อย่างไรก็ตาม ดัชนียังอยู่ในระดับต่ำกว่าปกติ (ที่ระดับ 100) แสดงว่า ผู้บริโภคยังไม่มีความมั่นใจเกี่ยวกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ โอกาสในการหางานทำ และ รายได้ในอนาคตอย่างมาก เพราะมีความกังวลในวิกฤต COVID-19 รอบใหม่ในประเทศไทย และ ทั่วโลก ส่งผลกระทบให้เศรษฐกิจไทย และ การจ้างงานมีโอกาสปรับตัวแย่ลงได้ในอนาคต ซึ่งจะทำให้รายได้ในอนาคตของผู้บริโภคลดลงในที่สุด
นอกจากนี้ การที่ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคปรับตัวลดลงอีกครั้ง สะท้อนว่าผู้บริโภคยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์โควิดในประเทศไทย และ ในโลกว่า จะส่งผละกระทบต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจไทย ส่งผลให้ผู้บริโภคจะระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอยในช่วงนี้ โดยต้องติดตามของการฉีดวัคซีนทั่วประเทศ การแพร่ระบาดโควิดรอบที่ 4 ตลอดจนรัฐบาลจะมีการประกาศผ่อนคลาย Lockdown เพิ่มเติมหรือไม่ รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในอนาคต จะมีผลต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค และ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย
อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยในปีนี้คาดว่าขยายตัวดีขึ้นจากระดับที่คาดการณ์ไว้ในเดือนส.ค.ที่ผ่านมาที่คาดว่าขยายตัว 0 ถึง -2% มาอยู่ที่ขยายตัว 0 ถึง 2%
“สัญญาณเศรษฐกิจดีขึ้น ทำให้เชื่อว่าจีดีพีปีนี้จะกลับมาเป็นบวกได้ หรือ อยู่ในกรอบ 0.8-1.2% โดยมาจากการที่โควิดคลายตัวลง และ ต้องไม่มีการล็อกดาวน์ซ้ำ เพราะสิ่งที่ประชาชน นักธุรกิจ ผู้ประกอบการ มีความกังวล คือ การล็อกดาวน์ และ ไม่สามารถเปิดเมืองได้ แต่หากรัฐกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านมาตรการต่าง ๆ จะทำให้มีเม็ดเงินสะพัดในไตรมาส 4 นี้ ประมาณ 3.5-5 หมื่นล้านบาท”รศ.ดร.ธนวรรธน์ กล่าว
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |