8 ก.ย.64 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 09.15 น. เมื่อวันที่ 7 กันยายนที่ผ่านมา พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จออกแทนพระองค์ ณ วังสระปทุม พระราชทานพระราชวโรกาสให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ประธานกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ นำศิลปินแห่งชาติ พุทธศักราช2563 จำนวน 12 คน เฝ้าทูลละอองพระบาทรับพระราชทานโล่และเครื่องหมายเชิดชูเกียรติตามลำดับดังนี้
1.สาขาทัศนศิลป์ จำนวน 4 คน ได้แก่
1.1ศาสตราจารย์กิตติคุณกำจร สุนพงษ์ศรี (จิตรกรรม)
1.2นายอำมฤทธิ์ ชูสุวรรณ(จิตรกรรม - สื่อผสม)
1.3นายประภากร วทานยกุล(สถาปัตยกรรมร่วมสมัย)
1.4นายสำเริง แดงแนวน้อย(ประณีตศิลป์ - แกะสลักไม้)
2.สาขาวรรณศิลป์ จำนวน ๒ คน ได้แก่
2.1นายเอนก นาวิกมูล
2.2 นางสาวอรสม สุทธิสาคร
3.สาขาศิลปะการแสดง จำนวน 6 คน ได้แก่
3.1นายประทีป สุขโสภา (เพลงพื้นบ้าน)
3.2นายประเมษฐ์ บุณยะชัย (นาฏศิลป์ - โขน)
3.3นายปี๊บ คงลายทอง (ดนตรีไทย)
3.4นางสุดา ชื่นบาน (ดนตรีไทยสากล - ขับร้อง)
3.5นางรุ่งฤดี เพ็งเจริญ (ดนตรีไทยสากล - ขับร้อง)
3.6นายปง อัศวินิกุล (ผู้กำกับระบบเสียง - สร้างสรรค์ และบันทึกเสียงภาพยนตร์)
โอกาสนี้ ผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรมและเจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมวัฒนธรรม พร้อมผู้เกี่ยวข้องร่วมเข้าเฝ้าทูลละอองพระบาทด้วย
จากนั้น สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงฉายพระฉายาลักษณ์ร่วมกับศิลปินแห่งชาติ พุทธศักราช 2563 ทั้ง 12คน คณะผู้เข้าเฝ้าฯ และมีพระ-ราชปฏิสันถารกับศิลปินแห่งชาติรวมทั้งคณะผู้เข้าเฝ้าฯ ตามพระราชอัธยาศัย
อนึ่ง กระทรวงวัฒนธรรม โดย กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ได้ดำเนินการคัดเลือกศิลปินแห่งชาติมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เริ่มโครงการเมื่อปีพุทธศักราช 2528ด้วยตระหนักถึงความสำคัญของศิลปิน ว่าเป็นบุคคลสำคัญที่สร้างสรรค์ศิลปะอันงดงามไว้เป็นสมบัติของแผ่นดิน และเป็นเอกลักษณ์ทางศิลปวัฒนธรรมของชาติสืบต่อกันมายาวนาน ปัจจุบันมีศิลปินได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติเป็นศิลปินแห่งชาติ จำนวนรวม 331 คน โดย ในปีพุทธศักราช 2563 กระทรวงวัฒนธรรม ได้คัดเลือกศิลปินผู้รังสรรค์ผลงานศิลปะอันล้ำค่า เป็นที่ประจักษ์แก่สังคม และประกาศยกย่องเชิดชูเกียรติเป็นศิลปินแห่งชาติ จำนวน 12คน ซึ่งเสียชีวิตไปแล้ว 158 คน มีชีวิตอยู่ 173 คน
ศิลปินแห่งชาตินอกจากจะได้รับพระราชทานเครื่องหมายเชิดชูเกียรติแล้ว ยังจะได้รับสวัสดิการได้แก่ เงินค่าตอบแทน เดือนละ 25,000 บาท ตลอดระยะเวลาที่มีชีวิตอยู่ ค่ารักษาพยาบาลตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลโดยอนุโลม เว้นแต่มีสิทธิเบิกจากหน่วยงานอื่น ให้เบิกจากหน่วยงานนั้นก่อน ถ้าเบิกจากหน่วยงานนั้นได้ต่ำกว่าสิทธิตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล ให้มีสิทธิเบิกในส่วนที่ยังขาดอยู่ได้อีกภายในวงเงินไม่เกิน 100,000 บาท ต่อปีงบประมาณ ค่าช่วยเหลือเมื่อประสบสาธารณภัย ครั้งละไม่เกิน 50,000 บาท ต่อครั้ง ค่าของเยี่ยมในยามเจ็บป่วยหรือในโอกาสสำคัญเท่าที่จ่ายจริง รายละไม่เกิน 3,000 บาท ต่อครั้ง และกรณีเสียชีวิต จะได้รับเงินช่วยเหลือบำเพ็ญกุศลศพ รายละ 20,000 บาท และเงินช่วยเหลือค่าจัดทำหนังสือเผยแพร่ผลงานเมื่อเสียชีวิตเท่าที่จ่ายจริง รายละไม่เกิน 150,000 บาท เป็นต้น
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |