ครม.ไฟเขียวจัดเลือกตั้ง อบต.ภายในปี 64 แต่ยังไม่เคาะเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.-นายกเมืองพัทยา เลขาฯ กกต.ยันพร้อมแล้วคาดระหว่างวันที่ 28 พ.ย.-12 ธ.ค.รูปแบบ "นิวนอร์มอล" เข้มงวดมาตรการป้องกันโควิด-19 “จุรินทร์” โว ปชป.มีว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.แล้ว แย้มเป็นนักบริหารรุ่นใหม่ที่คนกรุงรู้จักดี "ลูกซินแสภาณุวัฒน์" สมัครสมาชิก พปชร.จ่อลง ส.ก.บางพลัด 
    ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 7 กันยายน นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติรับทราบการเตรียมความพร้อมในการจัดการเลือกตั้งท้องถิ่น โดยเห็นชอบให้พิจารณาจัดการเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ที่มีกว่า 5,300 แห่งทั่วประเทศภายในปี 2564 พร้อมมอบหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณากรอบเวลาที่เหมาะสมต่อไป ส่วนผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและนายกเมืองพัทยาอาจกำหนดให้มีการเลือกตั้งในลำดับถัดไป
    พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยว่า ได้เข้าร่วมการประชุม ครม.ในวาระพิจารณาจัดการเลือกตั้งท้องถิ่น โดย ครม.เห็นชอบจัดการเลือกตั้ง อบต. 5,300 แห่งก่อน ซึ่ง กกต.ได้ออกประกาศและระเบียบที่เกี่ยวข้องในการจัดการเลือกตั้งเสร็จสิ้นแล้ว และประกาศในราชกิจจานุเบกษา มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 18  ธันวาคม 2562 โดยในช่วงระหว่างวันที่ 1-15 ตุลาคม 2564 กกต.จะประกาศกำหนดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น
    “ส่วนวันเลือกตั้งจะเป็นช่วงระหว่างวันที่ 28 พฤศจิกายน - 12  ธันวาคม 2564 ตามหนังสือกระทรวงมหาดไทยที่เสนอเลือกตั้ง อบต.  ซึ่งตามกระบวนการ กกต.จะรอหนังสือแจ้งจาก ครม.อย่างเป็นทางการ  แล้วจึงนัดประชุม กกต.เพื่อประกาศวันเลือกตั้งต่อไป” เลขาธิการ กกต. กล่าว  
    ส่วนข้อสังเกตเรื่องสถานการณ์โควิด-19 พ.ต.อ.จรุงวิทย์กล่าวว่า จะเป็นการจัดเลือกตั้งภายใต้รูปแบบนิวนอร์มอล โดยเข้มงวดมาตรการป้องกันโควิด-19 หากสถานการณ์ระบาดหนักในช่วงกำหนดวันเลือกตั้ง ก็สามารถที่จะเลื่อนได้ตามกรอบกฎหมายที่กำหนดเปิดช่องทางไว้ สำหรับการเลือกตั้งนี้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายการจัดการเลือกตั้งตามมาตรา 14 ของ พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น โดยวาระดำรงตำแหน่งของสมาชิกสภา อบต.และนายก อบต. รวมถึงผู้ว่าฯ กทม.และสมาชิกสภา กทม.และเมืองพัทยาครบวาระตั้งแต่เดือน พ.ค.61 แต่คำสั่ง คสช.ให้ทำหน้าที่ต่อจนกว่าจะมีการเลือกตั้งใหม่
    นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า สำหรับการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ในส่วนของพรรคจะส่งผู้สมัครลงชิงแน่นอน ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ที่เป็นนักบริหาร ส่วนสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) เรามีความพร้อมเช่นกัน เพราะมีการเตรียมตัวบุคคลแล้วใน 50 เขต โดยจะส่งลงทั้ง 50 เขต ขณะนี้มีการเคาะตัวผู้สมัครเป็นที่ยุติแล้วกว่า 40 เขต ส่วนที่เหลือยังไม่ได้ตัดสินใจ เพราะมีตัวเลือกที่ต้องพิจารณาในขั้นสุดท้ายต่อไป โดยประกอบด้วยคนรุ่นใหม่, นักกฎหมาย, นักธุรกิจ และอดีต ส.ก. ที่ยังคงยืนหยัดกับพรรค ปชป.อยู่ไม่น้อย  
    ผู้สื่อข่าวถามว่า ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ที่ระบุว่าเป็นคนรุ่นใหม่นั้น  เป็นคนเด่น คนดัง นักวิชาการ หรือนักธุรกิจ นายจุรินทร์กล่าวว่า เป็นนักบริหาร เป็นคนรุ่นใหม่ เป็นที่รู้จักของพี่น้องชาว กทม.อยู่แล้ว เมื่อถามย้ำว่า เมื่อเปิดชื่อออกมาจะทำให้รู้สึกว้าวเหมือนกับชื่อของนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ และ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา หรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า “เอาเป็นว่าสู้ได้ครับ” 
    เมื่อถามว่ามี ส.ส.กทม.จากพรรคอื่นจะย้ายมาพรรค ปชป.หรือไม่ นายจุรินทร์กล่าวว่ามีพอสมควร แต่ยังไม่ถึงเวลาที่จะเรียนให้ทราบ การเลือกตั้งครั้งต่อไป จากผลงานที่ได้ทำและได้ให้ความสำคัญในพื้นที่  กทม. คิดว่าน่าจะได้การยอมรับจากประชาชนมากขึ้น เพราะครั้งที่แล้วเป็นศูนย์เลย ครั้งนี้จึงไม่น่าจะเป็นศูนย์อีก  
    เมื่อเวลา 11.00 น. นายคมสัน พันธุ์วิชาติกุล หรือซินแสโจ้  อดีต ส.ก.เขตบางพลัด พรรค ปชป. ได้เดินทางเข้ามาสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โดยมีเจ้าหน้าที่พรรคทำการรับสมัคร  ขณะที่นายคมสันเปิดเผยว่า การที่มาสมัครสมาชิกพรรค พปชร.เนื่องจากมีความพร้อม มีความเชื่อมั่นในผู้นำและผู้บริหาร อีกทั้งมีความหลากหลายในบุคลากรที่มุ่งมั่นมาทำงานให้ประเทศชาติ ที่สำคัญคือมีอุดมการณ์ที่ตรงกัน จึงคิดว่าการทำงานของเราน่าจะทำให้เกิดผลประโยชน์ต่อประชาชนและบ้านเมืองสูงสุด และได้มีการหารือพูดคุยกับผู้ใหญ่ภายในพรรคมาระดับหนึ่งแล้ว ว่าจะให้ทำอะไรตรงไหนอย่างไร  ซึ่งตนประสงค์ที่จะขอลง ส.ก.ในเขตบางพลัดตามเดิม อีกทั้งเพิ่งทราบว่าพรรคจะไม่ส่งผู้สมัครเลือกตั้งท้องถิ่นในนามพรรค อาจจะต้องลงในนามอิสระ ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการบริหารพรรคจะพิจารณากันต่อไป โดยนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมช.แรงงาน เหรัญญิกพรรค ได้เรียนให้  พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรครับทราบเรื่องที่ตนสมัครแล้ว 
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายคมสันเป็นบุตรชายนายภาณุวัฒน์ พันธุ์วิชาติกุล ซินแสชื่อดัง ข้าราชการการเมืองประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  และน้องชาย-นายอัษฎา พันธุ์วิชาติกุล เป็นคณะทำงาน พล.อ.ประวิตร  แต่นายอัษฎาไม่ได้สมัครด้วย 
    ที่รัฐสภา นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคมีมติหลายครั้งแล้วว่าจะไม่ส่งผู้สมัครท้องถิ่น เพราะ พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้งท้องถิ่นระบุว่า ส.ส.จะไปยุ่งเกี่ยวไม่ได้เลย แต่หากมีบางคนเป็นสมาชิกพรรคและมีความต้องการจะไปลงสมัครก็สามารถทำได้ ส่วนกรณีของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีต ผบ.ตร. จะลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.นั้น ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับพรรคพลังประชารัฐ แต่ด้วยว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์มีความเหมาะสมมากและขอเชียร์ โดยส่วนตัวหากต้องออกเสียงผู้ว่าฯ กทม.คงจะเลือกท่าน.