แฟ้มภาพ
7 ก.ย. 64 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำเครือข่ายไล่ประยุทธ์ หรือ “อ.ห.ต.” และนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด นัดหมายชุมนุมไล่ประยุทธ์ที่แยกอโศกฯ ระหว่างเวลา 16.00-19.30 น. เป็นวันที่ 4 โดยบรรยากาศเมื่อเวลา 16.00น. ที่แยกอโศกมนตรี ยังคงมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้มีพ่อค้าแม่ขายบางส่วนเดินทางมารวมตัวก่อนตั้งเต็นท์และรถเข็น วางจำหน่ายอาหาร น้ำดื่ม และสินค้าริมทางเท้าทั้ง 2 ฝั่งของถนนอโศกมนตรี
ส่วนทีมงานผู้ชุมนุมได้ทำการติดตั้งโครงเหล็กสำหรับทำฐานเวที นอกจากนี้ทีมการ์ดเริ่มกระจายกำลังรอบบริเวณ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรเดินดูการจราจร โดยโบกรถให้สัญจร 2 เลนซ้าย ส่วนฝั่งขวาของถนนใกล้กับห้างเทอร์มินอล 21 ให้เป็นพื้นที่ชุมนุม
ต่อมาในเวลา 16.15 ทางกลุ่มผู้จัดกิจกรรม ได้ประกาศให้มวลชนได้นำจักรยานยนต์มาร่วมกิจกรรมไบค์ม็อบ ตั้งแถวบริเวณด้านหลังเวที
นายสมบัติ ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้เราเริ่มคอนเซ็ปต์เกี่ยวกับไบค์ม็อบ โดยตนได้มีการพูดคุยกับนายณัฐวุฒิ มองว่าสมาชิกผู้ร่วมกิจกรรมคาร์ม็อบส่วนใหญ่เป็นผู้ที่มีรถจักรยานยนต์ โดยตนคิดว่าจะจัดกิจกรรมเฉพาะรถจักรยานยนต์อย่างชัดๆ และเริ่มจะทำให้บริเวณแยกอโศกมนตรีเป็นฐานที่มั่นของกลุ่มจักรยานยนต์ ส่วนกิจกรรมในวันนี้จะเป็นฟรีไมค์เหมือนทั่วไป โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการปรับกลยุทธ์ในการสื่อสาร และการทำกิจกรรม
นายสมบัติ กล่าวว่า การทำกิจกรรมที่ยืดเยื้อจะมีความจำกัดอยู่ แต่เราเชื่อมั่นว่ากระแสประชาชนมีการตื่นตัวทางการเมืองที่สูงมาก ประกอบกับความรู้สึกต่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความตึงขาด แต่บรรยากาศสภาพแวดล้อมยังไม่เอื้อ เรากำลังหารูปแบบอยู่ ถ้าไม่ปรับรูปแบบคนก็ไม่มา
"จริงๆแล้วประชาชนไม่เอาพล.อ.ประยุทธ์ ปัญหาเพียงแต่ติดที่รูปแบบ เหมือนแต่ก่อนที่จะมีคาร์ม็อบ คนคิดว่าม็อบจบไปแล้ว มันไปไม่ได้ ประหนึ่งว่าคนไม่เอาแล้ว แต่จริงๆแล้วไม่ใช่ คนยังอยากขับไล่พล.อ.ประยุทธ์ แต่มีโควิดจะทำอย่างไร มันจึงเกิดคาร์ม็อบขึ้นมา และตอบโจทย์ว่าเขามีส่วนร่วมทางการเมือง โดยเราจะต้องหารูปแบบให้เขา ดังนั้นเราเห็นในออนไลน์ชัดเจนมากว่าคนเป็นอย่างไร แต่พอใจเป็นออฟไลน์มันมีข้อจำกัด มันไม่สะดวก แต่การไม่สะดวกสะท้อนเรื่องความตั้งใจจริงของประชาชนในการขับไล่พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งต้องใช้เวลา เราต้องปั้นกระแสก่อให้ได้ ถ้าก่อติดจะนำไปสู่ม็อบขนาดใหญ่ ดังนั้นต้องก่อให้ติดก่อน โดยใช้เวลาอย่างน้อย 1 สัปดาห์เพื่อพิสูจน์ทฤษฎีนี้กัน"นายสมบัติ กล่าว
นายสมบัติ กล่าวว่า ตัวที่เป็นเคพีไอ วัด คือ ปริมาณคนที่มาต่อเนื่องยาวนาน ค่อยๆเพิ่ม เรียกว่าจุดม็อบติด ส่วนม็อบใหญ่ต้องคิดอ่านกลยุทธ์ซึ่งก็คือวันที่ 19 ก.ย.วันเป็นวันครบ 19 ก.ย.รัฐประหาร 2549 ก็ได้คุยกับนายณัฐวุฒิ และอีกหลายฝ่าย แต่ประเด็นสำคัญคือป้อมค่าย เราจะตั้งสำเร็จหรือไม่ แต่เชื่อว่ารถจักรยานยนต์จะเป็นมวลชนพื้นฐาน
อย่างไรก็ตามการจัดม็อบถาวรมีข้อจำกัดเนื่องจากติดเคอร์ฟิว ไม่สามารถระดมพลคนจากต่างจังหวัดเข้ามาสมทบได้ ประกอบกับเห็นว่าไม่ควรจะติดหล่ม เนื่องจากกลุ่มการเมืองทุกสีได้พิสูจน์แล้วว่า การชุมนุมยืดเยื้อทำให้เปลืองพลังงาน ทรัพยากร การทำม็อบจึงต้องอยู่ในกรอบที่เป็นไปได้คือการทำม็อบ 3 ชม. เพื่อดูว่าไปรอดหรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายสมบัติ ได้ปล่อยขบวนรถจักรยานยนต์เพื่อทำกิจกรรมในลักษณะไบค์ม็อบ วนรอบบริเวณแยกอโศกมนตรี ทั้งนี้มีผู้ชุมนุมร่วมกิจกรรมประมาณกว่าร้อยคน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตลอดการชุมนุม 3 วันที่ผ่านมามีผู้ร่วมชุมนุมบางตาอย่างเห็นได้ชัด โดยประมาณการณ์ไม่ถึง 1 พันคน.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |