ท่องเที่ยวฯเตรียมเปิด'หัวหิน'รับนักท่องเที่ยวต่างชาติ


เพิ่มเพื่อน    

 

6 ก.ย. 2564 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อหารือร่วมกับหน่วยงานต่าง เพื่อผลักดันโครงการหัวหิน รีชาร์จ  และแนวทางการเปิดเทศบาลเมืองหัวหินต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแบบไม่กักตัว ซึ่งรัฐบาลยืนยันว่า พร้อมให้การสนับสนุนการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี โดยโครงการหัวหิน รีชาร์จ ถือเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินการตามแผน ซึ่งระยะที่ 1 คือ การเปิดภูเก็ตแซนด์บอกซ์ สมุยพลัสโมเดล จังหวัดพังงา และจังหวัดกระบี่ ในช่วงเดือนก.ค.ที่ผ่านมา


สำหรับแผนระยะที่ 2 กำหนดเริ่มในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ จะมีการเปิดประเทศเพิ่มอีก 5 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ ชลบุรี (พื้นที่พัทยา บางละมุง สัตหีบ) เพชรบุรี (พื้นที่ชะอำ) ประจวบคีรีขันธ์ (พื้นที่หัวหิน) และเชียงใหม่ (พื้นที่อำเภอเมือง แม่แตง แม่ริม และดอยเต่า) โดยการเปิดประเทศครั้งนี้เชื่อว่าผู้ประกอบการมีความพร้อม แต่วัคซีนยังมาไม่ครบจึงยังเปิดไม่ได้ รวมถึงสิ่งที่ปฏิบัติได้ยากในเมืองท่องเที่ยวขณะนี้คือ หากเป็นไปได้ขอให้จัดเป็นพื้นที่สีเหลือง เพื่อให้สามารถรับประทานอาหารและดื่มสุราได้


“กระทรวงการท่องเที่ยวฯจะติดตามสถานการณ์การระบาดโควิดในประเทศอย่างใกล้ชิดจนถึงวันที่ 14 กันยายนนี้ว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อจะน้อยลงหรือไม่ หากผู้ติดเชื้อน้อยลงจนเหลือหลักพัน จากปัจจุบันผู้ติดเชื้ออยู่ที่หลักหมื่นคนนั้น จะมีการหารือในที่ประชุม ศบค.และกระทรวงสาธารณสุขว่าจากสถิติของนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในภูเก็ตแซนด์บอกซ์ปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อคิดเป็น 0.3% เท่านั้น”นายพิพัฒน์ กล่าว


ด้านนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า รูปแบบการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในโครงการหัวหิน รีชาร์จ นักท่องเที่ยวต่างชาติจะต้องทำการตรวจหาเชื้อแบบ RT-PCR หรือการเก็บตัวอย่างเชื้อบริเวณลำคอ และหลังโพรงจมูก จำนวน 3 ครั้ง โดยเมื่อมาถึงสนามบินต้องตรวจครั้งที่ 1 ทันที หลังจากนั้นเดินทางเข้าโรงแรมที่พักผ่านรถโดยสารที่ได้รับมาตรการตามกำหนดไว้


ทั้งนี้นักท่องเที่ยวจะไม่สามารถออกจากห้องพักได้ จนกว่าจะมีการยืนยันว่า ไม่พบเชื้อโควิด จึงจะสามารถเดินทางท่องเที่ยวในเส้นทางท่องเที่ยวกำหนดเฉพาะ (ซีลรูต) ได้ แบบไม่มีการกักตัวจากนั้นให้ตรวจซ้ำอีก 2 ครั้ง ในวันที่ 6-7 และวันที่ 12-13 ซึ่งหากไม่พบเชื้อโควิดและอยู่ในพื้นที่ครบ 14 วันแล้ว ถึงจะสามารถเดินทางท่องเที่ยวในพื้นที่อื่นทั่วประเทศไทยได้ จึงยืนยันว่าคนในพื้นที่สามารถสบายใจได้ในการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้


สำหรับตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติ ได้ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 1.2 ล้านคน แต่ขณะนี้หวังให้เห็นที่ 1 ล้านคนให้ได้ก่อน เพราะจากข้อมูลจำนวนต่างชาติเดินทางเข้าไทยในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ มีจำนวน 40,000 คน บวกกับเข้ามาในโครงการภูเก็ตแซนด์บอกซ์อีก 26,400 คน ในช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม ที่ผ่านมา รวมเกือบ 100,000 คน ซึ่งเหลืออีก 900,000 คน ที่ต้องเข้ามาในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปี หากสามารถมาได้เดือนละ 300,000 คน รวมถึงนโยบายการกักตัวของประเทศต้นทางไม่ได้กำหนดให้เมื่อเดินทางกลับประเทศต้นทางแล้วต้องกักตัว เชื่อว่ายังมีโอกาสได้เห็นที่ 1 ล้านคนในปีนี้อยู่


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"