อย่าหาทำ 'สมปอง-ไพรวัลย์'


เพิ่มเพื่อน    

บันเทิงดีแท้
    เสร็จการฟัง ส.ส.อภิปรายไม่ไว้วางใจในสภา 
    สองช่าห่มเหลือง 'สมปอง-ไพรวัลย์' เปิดวิกต่อ
    เห็นว่าไลฟ์สด "ศึกชิงบัลลังก์ตั่งทอง" ๒ วันติด คนดูเป็นแสนๆ ยอดไลก์ ยอดแชร์ท่วม
    แฟนเพจชื่อดังจากทุกวงการทั่วไทย ไม่ว่าจะเป็นสินค้า ร้านอาหาร แบรนด์ชั้นนำของประเทศ พร้อมใจคอมเมนต์ในไลฟ์สด แย่งขายของกันครื้นเครง
    บ้างก็หลังไมค์ถวายขนมจีน หมูกระทะ อิ่มหนำสำราญกันไป 
    ก็ดีครับช่วยกันทำมาหากิน 
    เมื่อการนับถือศาสนากลายเป็นรสนิยม ก็ไม่แปลกครับที่คนรุ่นใหม่ พากันชอบใจ 'สองช่า' ปล่อยมุกตลกคาเฟ่ แล้วบอกว่าแฝงธรรมะด้วย 
      เว็บไซต์ www.dailynews.co.th รายงานบรรยากาศการไลฟ์สดท่อนสอดแทรกธรรมะตามนี้ครับ
    "...การไลฟ์ยังมีการสอดแทรกธรรมะอยู่เป็นระยะเหมือนเดิม เช่น เรื่องการทำบุญอะไรก็ไม่เท่ากับการให้ชีวิต คือ การให้อะไรก็แล้วแต่ที่ต่อชีวิตกับคน เช่น ยุคนี้ถังออกซิเจน ชุดพีพีอี ที่หายาก หรือของที่ญาติโยมถวายถังสังฆทานมา ก็นำไปบริจาคต่อ ชาวบ้านก็ดีใจ คือการทำทานที่ดีที่สุด..."
    'ไพรวัลย์' บอกว่า...
    "อาตมาไม่กังวลดรามาที่บางคนจับจ้องว่าพระไม่ควรหัวเราะออกสื่อ เพราะจะไม่สำรวม เพราะอาตมามองว่าเสียงหัวเราะไม่ได้ฆ่าใครตาย อยู่ที่คนฟังมากกว่าว่าฟังธรรมะจากพวกอาตมาแล้วจะได้อะไรกลับไปบ้าง อยู่ที่สติปัญญาของคนฟัง ว่าจะจับสาระอะไรได้จากสิ่งที่อาตมาพูด
    เพราะการที่อาตมาออกมาเทศนาแบบผ่อนคลายนั้น เพียงเพราะอยากให้เด็กวัยรุ่น คนรุ่นใหม่ให้ความสนใจ ถ้าบุคคลใดที่ไม่ชอบฟังธรรมในลักษณะนี้ ก็แนะนำให้เลือกฟังธรรมะแบบอื่น เพราะยังมีธรรมะอีกหลายแบบ ซึ่งเมื่อก่อนอาตมาเทศน์แบบเน้นสาระก็ไม่มีคนฟัง แต่เมื่ออาตมาเทศน์แบบผ่อนคลาย กลับมาตำหนิว่าไม่มีสาระ"
    ถูกเผงครับ! เสียงหัวเราะไม่ได้ฆ่าใครตาย และตลกคาเฟ่ถนัดเรื่องนี้มากกว่าใคร เพราะสาระของตลกคือ การสร้างเสียงหัวเราะ
    แต่เส้นแบ่ง "ธรรมะ" กับ "ตลก"  หรือแม้กระทั่งธรรมะ กับ "ทำบุญ" คนเป็นสงฆ์ต้องแยกให้ออก 
    ก็เหมือนการเลือกตั้ง ที่ถูกเหมาว่าเป็นประชาธิปไตยนั่นแหละครับ 
    เลือกตั้งมาแล้วเป็นเผด็จการรัฐสภาเข้าไปกอบโกยผลประโยชน์ชาติ เราก็เห็นกันมาแล้ว 
    ธรรมที่พระธรรมโกศาจารย์ (พุทธทาสภิกขุ) บรรยาย อธิบายเรื่องนี้ครับ 
    ...."ธรรมะ" คือ "หน้าที่" ถ้าไม่ทำหน้าที่ก็คือตาย
    คำว่า ความรอด รอดนี้เป็นคำความหมายสูงสุดของทุกศาสนา แม้ว่าวิธีรอดจะต่างกัน
    หน้าที่คือสิ่งที่ช่วยเรารอด 
    ชาวนาก็ทำนา 
    ชาวสวนก็ทำสวน 
    พ่อค้าก็ค้าขาย 
    ข้าราชการก็ทำราชการ
    กรรมกรก็จงทำกรรมกร 
    ขอทานก็นั่งขอทานให้ถูกต้อง ก็เป็นธรรมะของคนขอทาน
    สุนัขก็เฝ้าบ้าน 
    แมวจับหนูให้ถูกต้องไม่บกพร่อง 
    ไก่ขันให้ถูกต้องตามหน้าที่...
    ครับ...ตลกคาเฟ่ก็มีหน้าที่สร้างเสียงหัวเราะด้วยมุกตลกโปกฮา 
    แต่วันหนึ่งเมื่อคนเป็นสงฆ์บอกว่า ตัวเองก็มีหน้าที่สร้างเสียงหัวเราะด้วยมุกตลกโปกฮาเหมือนกัน 
    และคนรุ่นใหม่ชอบ เพราะฟังแล้วไม่ง่วง 
    ก็แสดงว่าความเข้าใจเรื่องธรรมะของคนรุ่นใหม่ จะไม่เหมือนธรรมะของคนรุ่นเก่าอีกต่อไป 
    อนาคตกะเทยก็บวชได้ เพราะคนรุ่นใหม่มองว่าการบวชคือเสรีภาพ
    อนาคตเราจะเห็นพระตุ๊ด เณรแต๋ว เป็นเรื่องปกติในสังคม 
    บัณเฑาะว์ ห่มเหลือง ไม่ใช่เรื่องแปลก
    มองสังคมในอนาคตของคนรุ่นใหม่ ผ่านการเคลื่อนไหวในวันนี้ ก็จะพบความจริงไม่ต่างจากข้างต้นนี้สักเท่าไหร่ 
    วันนี้ 'สมปอง-ไพรวัลย์' เมื่อยืนยันการเผยแผ่ธรรมะต้องตลกนำ ใครจะไปว่าอะไรได้ เพราะคงไม่ถึงขั้นปาราชิก 
    หรือจะบอกว่า อเนสนา การหาเลี้ยงชีพในทางที่ไม่สมควรแก่ภิกษุ    
    เลี้ยงชีวิตผิดสมณะ เช่น...
    หลอกลวงเขาด้วยการอวดอุตริมนุสธรรม
    ทำวิญญัติ ออกปากขอต่อคนที่ไม่ควรขอ
      ใช้เงินลงทุนหาผลประโยชน์
    ต่อลาภด้วยลาภ ให้แต่น้อยเพื่อหวังตอบแทนมาก
       ก็ไม่เชิงเสียทีเดียว
    ฉะนั้น "สองช่า" ควรต้องรู้ด้วยตัวเอง ก่อนข้ามเส้นไปมากกว่านี้ 
    แต่ถ้าคิดว่าต้องทะลุเพดานไปพร้อมกับมวลชนคนรุ่นใหม่ ก็..นิมนต์ครับ
    ตบตูดควันหลงอภิปรายไม่ไว้วางใจ
    ตามหลักแล้วเป้าหมายในการซักฟอกรัฐบาลนั้น ฝ่ายค้านอยากให้มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง คือ นายกฯ ลาออก เปลี่ยนรัฐบาล ตัวเองเสียบแทน 
    ส่วนยุบสภาฯ ไม่อยากได้สักเท่าไหร่ เพราะเหนื่อย 
    แต่ใช่ว่า คนที่จ้องได้ประโยชน์จากการซักฟอกรัฐบาลจะมีเพียงฝ่ายค้านเท่านั้น 
    นักการเมืองในพรรคร่วมรัฐบาลเองก็มองตาเป็นมัน 
    อยากให้ปรับ ครม.  
    เพื่อแก๊ง ก๊วน ตัวเองจะได้เป็นรัฐมนตรีบ้าง
    แต่ผลของการอภิปรายไม่ไว้วางใจบางครั้งก็ผิดคิว 
    แทนที่จะได้ประโยชน์ 
    ฝ่ายค้านกลับต้องนั่งปวดหัวกับ "งูเห่า" อย่างที่เป็นอยู่ในตอนนี้ 
    ๒ พรรคที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกคือ เพื่อไทย และก้าวไกล แทนที่ศึกซักฟอกจะเป็นการถล่มรัฐบาล แต่ตอนจบของเรื่อง กลับต้องมานั่งแก้ปัญหา ส.ส.แหกมติพรรค 
    ๗ งูเห่าเพื่อไทย ๑.นายศรัณวุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ ๒.นายจาตุรงค์ เพ็งนรพัฒน์ ส.ส.ศรีสะเกษ ๓.นายธีระ ไตรสรณกุล ส.ส.ศรีสะเกษ ๔.นายชัยยันต์ ผลสุวรรณ์ ส.ส.ปทุมธานี ๕.น.ส.พรพิมล ธรรมสาร ส.ส.ปทุมธานี ๖.นายวุฒิชัย กิตติธเนศวร ส.ส.นครนายก ๗.นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ ส.ส.อุบลราชธานี
    ๕ งูเห่าก้าวไกล ๑.นายเกษมสันต์ มีทิพย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ๒.นายขวัญเลิศ พานิชมาท ส.ส.ชลบุรี ๓.นายคารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อ ๔.นายพีรเดช คำสมุทร ส.ส.เชียงราย ๕.นายเอกภพ เพียรพิเศษ ส.ส.เชียงราย 
    ส.ส. ๑๒ ที่นั่งจำนวนเท่าพรรคขนาดเล็ก สองพรรคนี้จะจัดการอย่างไร     
    ถ้าขับพ้นพรรค ทั้ง ๑๒ คนหาพรรคใหม่ ไม่แคล้วไปเพิ่มเสียงให้รัฐบาล ฉะนั้น ทั้ง ๒ พรรคไม่น่าจะเลือกวิธีนี้
    จะรอให้ทั้ง ๑๒ คนลาออกเอง ก็เป็นไปไม่ได้
    สุดท้ายคงต้องอยู่กันไปแบบนี้จนสภาฯ ชุดนี้หมดอายุ 
    การเมืองแบบนี้จะเรียกว่าอะไรก็แล้วแต่ 
    แต่สิ่งที่ปรากฏเบื้องหน้าคือ...ผลจากการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"