"ตำรวจ" จ่อเอาผิดกลุ่มทะลุแก๊ส 10 ราย เผาทำลายทรัพย์กรมดุริยางค์ทหารบก ผงะ! 5 รายเกี่ยวข้องยาเสพติด พร้อมทบทวนตั้งตู้คอนเทนเนอร์หลังเกิดอุบัติเหตุรถชนเสียชีวิต "ศรีสุวรรณ" แจ้งจับ 17 แกนนำชุมนุมช่วง 3-4 ก.ย. ฟันผิด ม.112 "เต้น-สมบัติ" จัดม็อบไล่บิ๊กตู่แยกอโศก ลั่นชุมนุมยืดเยื้อทุกวัน แยกดินแดงป่วน! แก๊งทะลุแก๊สเผาโลงศพปาประทัดดังสนั่น "ราชทัณฑ์" แจง 5 แกนนำ 3 นิ้วอาการป่วยโควิดดีขึ้น
    ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) วันที่ 5 ก.ย. พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ในฐานะโฆษก บช.น. กล่าวถึงการนัดหมายชุมนุมทางการเมืองว่า มี 2 กลุ่มคือ 1.กลุ่มนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บ.ก.ลายจุด นัดจัดกิจกรรมขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี บริเวณแยกอโศกเวลา 16.00 น. 2.กลุ่มวัยรุ่นทะลุแก๊ส ที่แยกดินแดง โดยในส่วนของการชุมนุมที่แยกอโศก ตำรวจจะมีการปรับเปลี่ยนแผนและกำลังตำรวจไปตามสถานการณ์​ ทั้งในเรื่องของการจราจรและการติดตั้งเครื่องกีดขวาง
    "การชุมนุมและการรวมตัวกันจัดกิจกรรมคนจำนวนมากในขณะนี้มีความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินและ พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ ผู้ที่ชักชวนและผู้ที่มาร่วมกิจกรรมจะมีความผิดตามกฎหมาย" พล.ต.ต.ปิยะกล่าว
    โฆษก บช.น.กล่าวว่า ในส่วนการชุมนุมของกลุ่มรีเดมเมื่อวันที่ 4 ก.ย.นั้น ไม่มีเหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้น แต่ในส่วนของการชุมนุมของกลุ่มวัยรุ่นที่แยกดินแดง มีเหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้น เป็นการทุบทำลายทรัพย์สินราชการและสาธารณประโยชน์ เช่น กล้องวงจรปิดและสัญญาณไฟจราจร การปาประทัดยักษ์ และเผาทำลายรั้ว บริเวณกรมดุริยางค์ทหารบก ถนนวิภาวดีฯ ซึ่งมีทรัพย์สินได้รับความเสียหาย รวมถึงทรัพย์สินอื่นๆ และมีการวางเพลิงเผายางรถยนต์ ตำรวจมีภาพหลักฐานของผู้กระทำผิดกว่า 10 คน ที่อยู่ระหว่างการสืบสวนติดตามตัวมาดำเนินคดี และเตรียมรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอศาลออกหมายเรียกและหมายจับต่อไป
    นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังพบมีผู้กระทำผิดอย่างน้อย 5 คนที่เกี่ยวข้องกับการขายพลุ​และประทัด​ ที่ถูกนำมาใช้ในการชุมนุมทางการเมือง โดยมีข้อมูลเบื้องต้นพบว่าเกี่ยวข้องกับยาเสพติดด้วย อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
    "เราจำเป็นต้องทบทวนการตั้งตู้คอนเทนเนอร์ขวางถนน หลังพบว่ามีผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ไปชนเสียชีวิตเมื่อคืนนี้ (4 ก.ย.) ซึ่งจากการสอบปากคำเพื่อนผู้เสียชีวิตบอกก่อนเกิดเหตุนั่งดื่มสุราด้วยกัน ก่อนจะออกจากบ้านและมาประสบอุบัติเหตุ ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างการรอผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์​" โฆษก บช.น.กล่าว
    ขณะที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เดินทางมาที่ สน.ลุมพินี แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ 17 แกนนำแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม, กลุ่มทะลุฟ้าและกลุ่มรีเดม ซึ่งจัดชุมนุมกันที่บริเวณแยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ 3-4 ก.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นการกระทำที่ท้าทายกฎหมาย หมิ่นเบื้องสูง และก่อให้เกิดผลกระทบต่อการจราจร ความมั่นคง การแพร่กระจายของโควิด-19 และขัดต่อความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง อันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายหลายฉบับ อันมิอาจปล่อยให้เป็นเยี่ยงอย่างของสังคมต่อไปได้
'เต้น'ชุมนุมไล่บิ๊กตู่ทุกวัน
    ทั้งนี้ 17 แกนนำการชุมนุมประกอบด้วย 1.น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง 2.เบนจา อะปัญ 3.นายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือลูกนัท 4.นายอรรถพล บัวพัฒน์ หรือครูใหญ่ 5.นายยิ่งชีพ อัชฌา นนท์ หรือเป๋า 6.นายธนพัฒน์ กาเพ็ง หรือ ปูน 7.น.ส.วรรณวลี ธรรมสัตยา หรือตี้ พะเยา 8.นางศรีไพร นนทรีย์ 9.นายชนินทร์ วงษ์ศรี หรือบอล 10.นายเกียรติชัย ตั้งภรณ์พรรณ หรือบิ๊ก 11.นายทรงพล สนธิรักษ์ หรือยาใจ 12.นายโชคดี ร่มพฤกษ์ หรืออาเล็ก โชคร่มพฤกษ์ 13.นายพชร ธรรมมล หรือ ‘ฟลุค เดอะ สตาร์’ 14.นางสุรีย์รัตน์ ชิวารักษ์ มารดานายพริษฐ์ ชิวารักษ์ 15.นายวิบูลย์ บุญภัทรรักษา บิดาของไผ่ ดาวดิน 16.นายชินวัตร จันทร์ กระจ่าง หรือไบร์ท และ 17.นายณวรรษ เลี้ยงวัฒนา หรือแอม 
    วันเดียวกัน เวลา 16.00 น. บริเวณสี่แยกอโศก แกนนำเครือข่ายไล่ประยุทธ์ (อ.ห.ต.) นำโดยนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนายสมบัติ บุญงามอนงค์ นัดหมายผู้ชุมนุมมาร่วมแสดงพลังขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ อย่างไรก็ตาม ก่อนการชุมนุมสภาพอากาศมีฝนตกโปรยปรายตลอดทั้งวัน ทำให้มีผู้มาร่วมชุมนุมอย่างบางตา 
    เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทองหล่อได้แจ้งประกาศเตือนการชุมนุมกีดขวางการจราจร, ขัดต่อ พ.ร.บ.โรคติดต่อ ขอให้ยุติการชุมนุม โดยนายณัฐวุฒิที่เข้าไปเจรจาระบุว่า ขอใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญการชุมนุมของเราเป็นไปอย่างสงบ สันติ ปราศจากอาวุธ ได้ประกาศเวลาเริ่มและเวลาเลิกชุมนุมอย่างชัดเจน การชุมนุมครั้งนี้จัดเวที ขยับเข้ามาเพื่อไม่ให้กระทบการจราจร ส่วนความกังวลเรื่องโรคติดต่อได้ให้ผู้ชุมนุมพกแอลกอฮอล์และอยู่ในพื้นที่เปิดโล่ง ไม่แออัด ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจอำนวยความปลอดภัยให้ประชาชนด้วย  
    นายณัฐวุฒิกล่าวว่า เชิญชวนประชาชนมาประกาศจุดยืนไม่ยอมรับสิ่งเกิดขึ้นในสภา ตลอดเวลา พล.อ.ประยุทธ์มีอำนาจและช่วงอภิปรายปรากฏชัดกลไกสภาถูกเหยียบย่ำไม่เหลือแล้ว จนมีกระแสข่าวนายกฯ ใช้กล้วยเพื่อจะเอาชีวิตรอดทางการเมือง แม้ พล.อ.ประยุทธ์จะกล่าวอ้างผ่านความเห็นสภาให้ทำหน้าที่ต่อไป แต่สำหรับประชาชนยืนยันพล.อ.ประยุทธ์ไม่ใช่นายกฯ อีกต่อไป 
    "เราจะชุมนุมเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ เมื่อชวนประชาชนมาแสดงพลังกลางท้องถนน ยอมรับว่ามีความกังวลเรื่องโรคระบาดที่เป็นข้อจำกัดในการชุมนุม การปักหลักค้างแรมหรือพี่น้องต่างจังหวัดจะเข้ามาใน กทม. ซึ่งเป็นพื้นที่สีแดงเข้มคงยังทำไม่ได้ ดังนั้นการทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์บริเวณสี่แยกอโศกหลังจากวันนี้ จะมีการปรับรูปแบบให้สอดคล้องกับสถานการณ์มากขึ้น ซึ่งนายสมบัติจะปักหลักตรงนี้ทุกวันในตอนเย็น ส่วนผมจะเคลื่อนขบวนคาร์ม็อบที่มีจุดนัดหมายแยกอโศก แต่ไม่ว่าจะเริ่มจากตรงไหนจะเริ่มในเวลาสี่โมงเย็น เสร็จสิ้นเวลาสองทุ่ม โดยรถที่ผ่านเส้นทางนี้ให้กดแตรยาวเพื่อแสดงออกทางสัญลักษณ์ขับไล่พล.อ.ประยุทธ์" นายณัฐวุฒิกล่าว  
    ถามถึงการชุมนุมใหญ่ นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ขอเวลาทำการบ้านให้ชัดเจนอีกครั้ง ตอนนี้เป็นการต่อสู้ระหว่างสองฝ่าย นายกฯ ดิ้นสุดชีวิตถึงขนาดใช้กล้วย ส่วนการโค่นล้ม พล.อ.ประยุทธ์ พวกตนจะพยายามอย่างสุดความสามารถเช่นกัน เราไม่รู้ว่ารัฐจะตอบโต้อย่างไร ต้องสู้กันไปแก้เกมกันไป การชุมนุมของประชาชนอาจจะล้มรัฐบาลไม่ได้ แต่เชื่อว่าครั้งนี้สถานการณ์ไม่เหมือนครั้งอื่น เมื่อมีการไม่ยอมรับอำนาจ พล.อ.ประยุทธ์ขยายตัวเป็นกระแสสูงอยู่ตลอดเวลา หากเรามุ่งมั่นยืนหยัดมุมานะอดทน พลังเหล่านี้จะก้าวพ้นโรคระบาด โดยเราจะทำอย่างต่อเนื่อง แต่จะไม่ประกาศว่าเมื่อไหร่จะเผด็จศึกหรือเป็นสงครามครั้งสุดท้าย 
    ส่วนนายสมบัติกล่าวว่า แนวโน้มการชุมนุมโดยทั่วไป รัฐจะรอให้พวกเราล้า ประเด็นคือประชาชนหรือรัฐใครจะล้าก่อนกัน ถ้าประชาชนล้าก่อน พล.อ.ประยุทธ์จะปิดเกม ถ้าเราไม่ล้าแรงกดดันจะอยู่ที่รัฐบาล ตอนนี้อยู่ที่ประชาชนอย่างเดียวเลย แกนนำยังไม่ล้า แม้ตนจะโดนคดีไปบ้าง แต่ก็ไม่มีปัญหา 
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการชุมนุมครั้งนี้เริ่มมีผู้นำสินค้าที่มีคำหรือสัญลักษณ์การแสดงออกทางการเมืองมาวางจำหน่ายบริเวณริมทางเท้าแยกอโศก เช่น เสื้อที่มีข้อความว่า ‘ประยุทธ์ ออกไป’ และหมวกปักรูปหมุดคณะราษฎร กลุ่มเสื้อแดงเปิดเพลงพร้อมเต้นตามจังหวะอย่างสนุกสนาน
    นอกจากนี้ กลุ่มนักเรียนเลวได้มีการแจกใบปลิวเพื่อประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับกิจกรรม ‘Strike หยุดเรียนออนไลน์’ โดยจะเริ่มทำกิจกรรมนี้ในวันที่ 6-10 ก.ย. 
    เวลา 17.20 น. บรรยาการชุมนุมมีแกนนำจากหลายเครือข่ายสลับกันขึ้นปราศรัย พร้อมมวลชนร่วมทำกิจกรรมต่างๆ อย่างต่อเนื่อง
    ส่วนที่บริเวณสามเหลี่ยมดินแดง เวลา 17.00 น. เริ่มมีกลุ่มต่อต้านรัฐบาลเผด็จการประยุทธ์ ทยอยเข้ามารวมตัวกัน โดยจะมีกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ เผาศพแบบไม่มีโลงศพ และยืนสาปแช่ง 
    เวลา 17.30 น. กลุ่มวัยรุ่นบางส่วนได้ขี่รถจักรยานยนต์มาที่บริเวณด้านหน้ากรมดุริยางค์ทหารบก และขว้างปาประทัดยักษ์เข้าไปด้านใน เนื่องจากเชื่อว่ามีกำลังตำรวจ คฝ.อยู่ ทำให้เกิดเสียงดังเป็นระยะ โดยมวลชนยังปักหลักขี่รถวนไปวนมาบริเวณถนนวิภาวดีรังสิตขาออก และยังคงมีเสียงดังเป็นระยะๆ กระทั่งเวลา 18.40 น. มีมวลชนบางส่วนนำเหล็กมาปิดกั้นการจราจรบริเวณทางลงทางด่วนดินแดง ป้องกันเจ้าหน้าที่ตลบหลังเข้ามาจับกุมผู้ชุมนุมเหมือนเมื่อครั้งที่ผ่านมา
    จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกองทัพเรือ เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน สภ.สัตหีบ และตำรวจน้ำสัตหีบ สนธิกำลังเกือบ 100 นาย นำโดย พ.ต.อ.ชัยณรงค์ บุญด้วง รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ควบคุมการปฏิบัติ ทำการตั้งจุดสกัดนำแผงกั้น ตาข่ายลวดหนาม และกรวยยาง มาทำการรักษาความปลอดภัยปิดกั้นเส้นทางประตูทางเข้าหน่วยบัญชาการ กองเรือยุทธการ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เพื่อเป็นการควบคุมสถานการณ์ พร้อมรับมือกลุ่มผู้ชุมนุม คณะกรรมการประชาชนขับไล่กบฏแห่งชาติ (ก.ป.ช.) ในพื้นที่เมืองพัทยา-ระยอง ซึ่งมีรถหรู รถยนต์ และรถจักรยานยนต์ ประมาณ 150 คัน จำนวนผู้ชุมนุมกว่า 200 คน ที่มาชุมนุมปราศรัยบริเวณหน้าค่ายทหารเรือ เรียกร้องให้นายกฯ ประยุทธ์ลาออก 
    อย่างไรก็ตาม การชุมนุมปราศรัยครั้งนี้ ใช้เวลาประมาณ 30 นาที บรรยากาศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีการกระทบกระทั่ง ระหว่างเจ้าหน้าที่-ผู้ชุมนุม ซึ่งภายหลังเสร็จภารกิจ กลุ่มผู้ชุมนุมได้เคลื่อนขบวนกลับไปร่วมตัวกันยังหน้าศาลาที่ว่าการเมืองพัทยา เพื่อปราศรัยโจมตีการทำการของรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง
5 แกนนำ 3 นิ้วโควิดดีขึ้น
    ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรค ปชป. แถลงถึงความคืบหน้ากรณีพรรคได้แจ้งความดำเนินคดีต่อกลุ่มบุคคลที่ทำให้เกิดความเสียหายทำลายทรัพย์สินพรรคเมื่อวันที่ 30 ก.ค.ที่ผ่านมาว่า ได้รับแจ้งจากพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้กล่าวหา พยานบุคคลรวบรวมของกลาง ภาพถ่ายของกลาง ภาพถ่ายสถานที่เกิดเหตุ  ตรวจพิสูจน์ทราบบุคคลได้ 10 คน และมีการออกหมายเรียกไปแล้ว ซึ่งทุกอย่างอยู่ในกระบวนการของพนักงานสอบสวน ขณะที่ทางพรรคกำลังรวบรวมตัวเลขความเสียหายเพื่อมอบให้กับพนักงานสอบสวนเพิ่มเติมต่อไป
    ด้านนายธวัชชัย ชัยวัฒน์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ในฐานะโฆษกกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงกลุ่มผู้ชุมนุมทางการเมืองที่ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 5 รายว่า  นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน รู้สึกตัวดีไม่มีอาการหอบเหนื่อย ไม่ไอ ไม่มีน้ำมูกนอนหลับพักผ่อนได้, นายพรหมศร วีระธรรมจารี หรือฟ้า ไม่มีหอบเหนื่อย ไม่มีปวดศีรษะ โดยจากการตรวจวัดสัญญาณชีพและค่าออกซิเจนของทั้ง 2 ราย ผลเป็นปกติ ไม่มีไข้ และได้รับการรักษาโควิด-19 จนครบกำหนด 14 วันแล้ว อยู่ระหว่างการพักฟื้นเพื่อจำหน่ายกลับไปคุมขังยังเรือนจำตามเดิม
    นายภาณุพงศ์ จาดนอก  ไม่มีอาการหอบเหนื่อย หายใจปกติ ไม่มีไข้ ไม่เจ็บคอ ส่วนอาการปวดเข่าด้านซ้ายไม่มีอาการบวมแดง, นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา  ไม่มีอาการหอบเหนื่อย ไม่มีไข้ อาการผื่นขนาดเล็กตามร่างกาย แพทย์ได้สั่งจ่ายยารับประทานและยาทาเพื่อบรรเทาอาการพบว่าดี และนายชาติชาย แกดำ ไม่มีอาการหอบเหนื่อย.