"ชวน" สั่งตั้ง กก.สอบแจกเงิน 5 ล้านแล้ว ซักฟอกวันสุดท้ายพุ่งเป้ารัฐมนตรีตัวประกอบ พท.จ่อฟ้อง รมว.แรงงานต่อ กกต.ไม่ขึ้นค่าแรงตามที่หาเสียง “เสี่ยเฮ้ง” ปัดไม่รู้จัก "ดาบ จ.-เจ๊ อ." "ศรัณย์วุฒิ หนวดงาม" โวยกลางสภา "เพื่อไทย" ปิดปาก ซัดผสมพันธุ์เผด็จการ “ศักดิ์สยาม” ยืดอกรับเรื่องเที่ยวปกติของคนโสด "รังสิมันต์" สาวไส้ รมว.ดีอีเอสดีลไทยคม “ประยุทธ์” ลั่นพร้อมนำข้อติติงไปปรับปรุง เชื่อว่าฟ้าหลังฝนย่อมสดใสเสมอ   
    ที่รัฐสภา วันที่ 3 กันยายน ซึ่งมีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่ออภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลเป็นวันสุดท้ายนั้น ยังคงมีผลพวงจากการอภิปรายในช่วงก่อนหน้า โดยเฉพาะประเด็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมถูกอภิปรายว่ามีการแจกเงิน ส.ส. 5 ล้านบาทเพื่อโหวตให้ โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เป็นการพูดที่ไม่มีสติสัมปชัญญะ ไม่มีหลักฐานอะไรทั้งสิ้น คาดว่าฝ่ายกฎหมายและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการต่อไป ปล่อยไว้ไม่ได้เรื่องแบบนี้ เพราะคนแบบนี้ก็มีพฤติกรรมแบบนี้หลายครั้งแล้ว ช่วงก่อนก็มีการกรีดเลือดในสภาผู้แทนราษฎร
“ดูพฤติกรรมแล้วกัน คนที่พูดออกมาเป็นอย่างไร ความน่าเชื่อถือระหว่างเขากับนายกฯ เป็นอย่างไร ไม่ว่าใครก็ตาม ไอ้คนที่ล้มนายกฯ  เขาต้องการล้มอยู่แล้ว ก็ต้องมาดูว่านายกฯ กับเขาความน่าเชื่อถือมันมีแค่ไหน เรียกว่ามีราคาหรือไม่” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า  นายชวนให้ความสำคัญ โดยหลังจากลงจากบัลลังก์เมื่อวันที่​ 2​ ก.ย.ก็ได้ไปที่ห้องดังกล่าวเพื่อดูข้อเท็จจริง และมีคำสั่งให้เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรตั้งกรรมการเพื่อสอบเรื่องนี้ต่อไป ซึ่งไม่ได้กำหนดกรอบเวลา แต่ย้ำว่าต้องทำให้เร็วที่สุด  
นายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พปชร.ให้สัมภาษณ์อีกครั้งเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ได้มอบหมายให้นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรค พปชร.ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อดำเนินการเอาผิดแล้ว
ขณะเดียวกัน นักการเมืองหลายคนในพรรคเพื่อไทย (พท.) อาทิ  นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรค, นายวัน อยู่บำรุง ส.ส.กทม.  และ น.ส.วิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ อดีตผู้สมัครนายก อบจ.เชียงราย ต่างแชร์รูปภาพจากเพจสำนักข่าวแห่งหนึ่งที่ขึ้นแคปชันว่า "รัฐสภา ขนอะไรมาจ๊ะ" ซึ่งภาพดังกล่าวเป็นด้านหลังผู้ชายในชุดสูทสีดำ 4 คนกำลังหิ้วกระเป๋าสีดำขนาดใหญ่  
    สำหรับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เริ่มต้นที่นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย (พท.) ได้อภิปรายนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ว่า ตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่ง คาดหวังว่าจะทำตามนโยบายที่ได้เคยหาเสียงไว้ว่า ค่าแรงขั้นต่ำต้องเพิ่มขึ้นเป็น  400-425 บาท จบปริญญาตรีได้เงินเดือน 20,000 บาท จบอาชีวะได้ 18,000 บาท แต่พอผ่านมาหนึ่งปีกลับไม่ทำ ถือว่าหลอกลวง ดังนั้นจะไปยื่นเรื่องเพื่อร้องทุกข์ต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ตรวจสอบนายสุชาติ รวมทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา  นายกรัฐมนตรี เนื่องจากโกหกหลอกลวงประชาชนทั้งประเทศ
    นายสมคิดยังอภิปรายถึงการลักลอบนำเข้าแรงงานต่างด้าว ว่ามีดาบ จ.ซึ่งรู้จักกันทั้งแม่สอด จ.ตาก ต่อไปข้างบนสุดท้ายคือบิ๊ก ป. และมีเจ๊ อ.ร่วมขบวนการ ในการเป็นเอเยนต์กระจายแรงงานเถื่อนไปตามจุดต่างๆ ในประเทศ ซึ่งไม่แน่ใจว่านายสุชาติเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ ค่าหัวแรงงานเถื่อนตกอยู่ที่ 5,000 บาทต่อคน ซึ่งที่ผ่านมาตัวเลขแรงงานเถื่อนมีถึง 5 หมื่นคน คิดเป็นมูลค่า 250 ล้านบาท
    จากนั้นนายสุชาติชี้แจงว่า การขึ้นค่าแรงนั้นเกรงว่าจะทำให้ผู้ประกอบการที่อยู่ในจังหวัดค่าแรงน้อยต้องปิดกิจการ ซึ่งมีแนวคิดเสมอ  แต่ตอนนี้ขอเวลาแก้ไขปัญหาการเลิกจ้างงาน การเร่งฉีดวัคซีนให้แรงงานก่อน และไม่รู้จักดาบ จ.กับเจ๊ อ.ตามที่ผู้อภิปรายพูด หากพบว่ามีการกระทำผิดก็จะดำเนินคดี
    ในเวลา 11.00 น. ก่อนถึงคิวอภิปรายนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ พรรค พท.จะขออภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่ไม่มีชื่ออยู่ในคิว ทำให้นายชวน หลีกภัย ประธานไม่อนุญาต และให้ไปพูดคุยกันก่อน  จากนั้นได้เชิญให้นายมงคลกิตติ์อภิปรายตามลำดับ ภายหลังนายมงคลกิตติ์อภิปรายเสร็จ นายศรัณย์วุฒิลุกขึ้นอีกครั้ง โดยระบุว่าความจริงฝ่ายค้านไม่ควรปิดกั้นไม่ให้อภิปราย ขณะที่นายชวนได้แนะนำให้หารือกับผู้ควบคุมเสียงฝ่ายค้าน 
'ศรัณย์วุฒิ' โวย พท.ปิดกั้น
    หลังจากนั้นนายศรัณย์วุฒิลงมาแถลงว่า รู้สึกเจ็บปวดแทนที่สภาปิดกั้นไม่ให้อภิปราย ที่เจ็บปวดมากวันนี้มีขบวนการไอโอใส่ร้ายว่าตนจะย้ายพรรคและทิ้งพรรค บาปบุญมีจริง ยืนยันว่ายังไม่มีนโยบายย้าย  ผู้ใหญ่ในพรรคบางคนถ้าไม่อยากให้อยู่ ไม่ต้องมาไล่ อุดมการณ์ของเพื่อไทยไม่เหลือแล้ว ถูกนายทุนครอบงำ ก่อนการอภิปรายถูกเชิญไปพบ 2  รอบ เพื่อสอบถามว่ามีประเด็นอภิปรายอะไรบ้าง มารู้ภายหลังว่าเป็นกุศโลบาย ต้องการล้วงข้อมูลในการอภิปรายเพื่อนำข้อมูลไปให้ฝ่ายตรงข้าม
    ทั้งนี้ นายศรัณย์วุฒิได้นำแผ่นชาร์ตและข้อมูลที่จะอภิปราย พล.อ.ประยุทธ์มาโชว์ พร้อมระบุว่าได้ทำข้อมูลมายาวนาน แต่สุดท้ายกลับไม่ได้อภิปราย ความจริงประเทศไทยจะมีการผสมพันธุ์กันระหว่างพรรคที่เป็นประชาธิปไตยกับกลุ่มเผด็จการ จากนั้นนายศรัณย์วุฒิได้พาสื่อมวลชนเดินออกไปนอกรัฐสภาเพื่อไปดูโลงศพ โดยกล่าวว่าได้เตรียมโลงศพมาเพื่อจะอภิปราย แต่ไม่สามารถนำเข้าไปในรัฐสภาได้
    ขณะที่นายสมคิดแถลงว่า พท.ไม่เคยกีดกันสมาชิกจะอภิปราย แต่เรามีระบบของพรรค การอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นงานใหญ่ ต้องคัดเลือกและคัดสรรประเด็นเชิญ ส.ส.ที่ลงชื่ออภิปรายไป เมื่อเช้านายศรัณย์วุฒิพูดแรงไปหน่อยว่าพรรคสิ้นแล้วซึ่งอุดมการณ์ หลังจากนี้จะนำกรณีนายศรัณย์วุฒิไปหารือกับผู้ใหญ่ภายในพรรคอีกครั้ง 
    สำหรับภาพรวมการอภิปรายไม่ไว้วางใจช่วงบ่าย รัฐมนตรีทยอยลุกขึ้นชี้แจง โดยนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรฯ ได้ชี้แจงถึงการระบายยางพาราในสต๊อก ขณะที่นายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรฯ ชี้แจงถึงโรคลัมปีสกิน และในเวลา 13.50 น. นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ  รมว.คมนาคม ได้ชี้แจงข้อกล่าวหาว่าประพฤติตนเสเพล เข้าไปเที่ยวในแหล่งอบายมุขจนเป็นต้นตอโควิดระบาดทั่วประเทศว่า คนหนึ่งคนจะมีเพื่อนมีน้อง ไปพักผ่อนบ้างในเวลาที่ไม่ใช่เวลาราชการ สิ่งเหล่านี้หรือที่เรียกว่าเสเพล รูปที่นายมงคลกิตติ์นำมาแสดงเป็นรูปที่กำลังนั่งร้องเพลง ในวันที่ 8 ธ.ค.63 เวลา 20.00 น. เกี่ยวข้องอะไรกับการแพร่ระบาดเมื่อเดือน มี.ค.64 สิ่งที่ท่านนำมาอภิปรายต่างหากที่น่าจะถูกกล่าวว่าบิดเบือนข้อมูล หากสังเกตจากรูปจะพบเป็นนมเย็น และการที่ไปเที่ยวในที่ที่มีสุภาพสตรีก็เป็นเรื่องปกติของคนที่มีสถานภาพโสด  ขณะนี้มีคดีที่นายมงคลกิตติ์ถูกฟ้องอยู่ที่ สภ.เมืองบุรีรัมย์ หลังปิดสมัยประชุมสภานี้กรุณาไปพิสูจน์ความจริง อย่ามัวแต่ใช้โซเชียล 
    นายศักดิ์สยามยังชี้แจงกรณีถูกอภิปรายประเด็นที่ดินเขากระโดง  จ.บุรีรัมย์ว่า เป็นเพียงผู้อยู่อาศัยในที่ดิน ซึ่งเป็นที่ดินที่ออกเป็นโฉนดเลขที่ 3466 ตั้งแต่วันที่ 26 ตุลาคม 2515 ซึ่งขณะนั้นอายุเพียง  10 ขวบ เอกสารสิทธินี้ออกตามกระบวนการของกฎหมายของกรมที่ดิน หากผู้อภิปรายมีข้อมูลหลักฐานที่ชี้ชัดได้ว่า การที่เครือญาติหรือตนเองถือครองเอกสารสิทธิด้วยวิธีการที่ฉ้อฉล ก็ขอให้ไปยื่นฟ้องหรือดำเนินการเพื่อเพิกถอนโฉนดที่ออกโดยทางราชการในกรณีแบบเดียวกันทั่วทั้งประเทศ 
'โรม' ซัด 'ชัยวุฒิ' อุ้มไทยคม
    จากนั้นเวลา 15.07 น. นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ  พรรคก้าวไกล (ก.ก.) อภิปรายไม่ไว้วางใจนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กรณีข้อพิพาทระหว่างดีอีเอสกับบริษัทไทยคม 3 คดี โดยระบุว่าตั้งแต่นายชัยวุฒิเข้ามาเป็นรัฐมนตรี  ได้ทำเรื่องขอเปลี่ยนตัวอนุญาโตตุลาการทั้ง 3 คดี ซึ่งส่งผลร้ายในบั้นปลาย ฝ่ายกระทรวงไม่มีทางชนะได้เลย ซึ่งทำให้รัฐเสียโอกาสจากทั้ง 2  คดี มูลค่าเกือบ 18,000 ล้านบาท การเปลี่ยนตัว 3 คราในรอบ 6  เดือนที่ รมต.เข้ามา ถามจริงรับงานใครมา หรือล้มคดีเพื่อบริษัทเอกชนใช่หรือไม่
    นายรังสิมันต์ยังตั้งคำถามว่า นายชัยวุฒิใช้ตำแหน่งรัฐมนตรีมาเอื้อประโยชน์บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือไม่ เพราะเคยดำรงตำแหน่งเป็นผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ นายชัยวุฒิเข้าไปทำงานกับกัลฟ์ ในภายหลังเครือไทยคมที่มีบริษัทกัลฟ์ฯ ถือหุ้นใหญ่ทางอ้อมก็เข้ามาคว้าสิทธิ์ควบคุมดาวเทียมเหล่านั้น และใช้แสวงหากำไรต่อไปได้ โดยที่ฝ่ายรัฐได้ผลประโยชน์เพียงเศษเสี้ยวเล็กน้อยเท่านั้น
    ด้านนายชัยวุฒิชี้แจงว่า ประเด็นดาวเทียมไทยคมเป็นสัมปทานที่ดำเนินการมา 30 ปี จะสิ้นอายุวันที่ 30 ก.ย.นี้ มีการเปลี่ยนแปลงกฎหมายสำคัญเมื่อปี 2553 วันนี้การจะหาผู้ประกอบการรายใหม่มาทำไม่ใช่เรื่องง่าย กสทช.เปิดประมูลวงโคจรเมื่อไม่นานนี้เพื่อนำดาวเทียมใหม่มาบริการประชาชน ซึ่งมีผู้ยื่นประมูลรายเดียวคือ บริษัทไทยคมฯ ธุรกิจนี้เป็นธุรกิจเฉพาะ เมื่อมีผู้ประมูลเพียง 1 ราย กสทช.จึงยกเลิกประมูลไปก่อน เช่นเดียวกันเมื่อดาวเทียมไทยคม 4 และ 6 ส่งมอบให้รัฐบาลโดยให้เอ็นทีดูแล เขาส่งสถานีดาวเทียมมา แต่ไม่ได้ส่งเกตเวย์ในการเชื่อมต่อและรับส่งสัญญาณมาให้ แต่ยังเป็นของบริษัทไทยคมฯ 
    “การทำธุรกิจดาวเทียมของเอ็นทีไม่มีการเอื้อประโยชน์ให้บริษัทไทยคมฯ ที่เป็นลักษณะสัมปทานผูกขาด ตัดตอน ต่อเนื่อง แบบที่กล่าวหา ผมทำหนังสือไปถึง กสทช.ว่าไม่เห็นด้วยกับการประมูลวงโคจรให้กับไทยคม เพราะจะได้อยู่รายเดียว ผมจึงให้ทบทวนว่าเลื่อนออกไปก่อน สำหรับเรื่องอนุญาโตตุลาการผมไม่รู้จักใครเลย ทั้งหมดเป็นเรื่องของ อสส. เราต้องให้เกียรติอัยการที่มีความเป็นกลาง ทั้งหมดจึงเป็นการคาดเดาของผู้อภิปราย ปะติดปะต่อเรื่องราวที่เลื่อนลอยมาก" นายชัยวุฒิกล่าว
    ในเวลา 18.05 น. พล.อ.ประยุทธ์ได้ชี้แจงว่า ประเทศไทยแม้ไม่ใช่ประเทศรับมือโควิด-19 ดีที่สุด แต่ก็ไม่ใช่รับมือแย่ที่สุด เรารับมือโดยเต็มกำลังจากทุกฝ่าย ส่วนข้อกล่าวหาที่มีคนตายเพราะรัฐบาลค้าความตายนั้น ไม่ใช่ ไม่เป็นธรรม ลองมองกลับด้านบ้างว่า มีผู้หายป่วยกว่า  85% หรือกว่า 1.05 ล้านคน ไม่ใช่บอกแค่ว่ามีคนป่วยเป็นล้านคน 
“3 วันที่ผ่านมาได้ยินข้อมูลต่างๆ มากมาย ยินดีรับฟังทุกข้อเสนอแนะนำไปปรับปรุงแก้ไข อะไรเป็นประโยชน์ต่อชาติ ประชาชน ถือเป็นคำมั่นว่าผมจะทำงานให้กับคนไทยทุกคน รัฐบาลจะร่วมมือกับทุกฝ่าย ทำหน้าที่อย่างดีที่สุด นำพาประเทศไปอย่างมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ไม่ย่อท้อ เราเชื่อว่าฟ้าหลังฝนย่อมสดใสเสมอ แม้จะไม่มีใครบอกได้ว่าวิกฤตโควิด-19 จะสิ้นสุดเมื่อใด แต่ความหวังความศรัทธาจะเป็นพลังสำคัญให้เราก้าวข้ามความยากลำบากวันนี้ไปให้ได้ พร้อมกับความรักความสามัคคีกับคนในชาติของเราไปสู่จุดหมายร่วมกัน” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว 
    ต่อมา นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย (พท.) ได้อภิปรายสรุปการอภิปรายตลอด 3 วันที่ผ่านมา โดยใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง ก่อนได้เรียกร้องให้พรรคร่วมรัฐบาลโหวตไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ แต่ก็ยอมรับว่าความหวังพังหมดตั้งแต่เมื่อวันที่ 2 ก.ย.ที่ชั้น 2 ชั้น 3 และขอขึ้นรูป ขนอะไรมาจ๊ะ เป็นรูปที่คนเขาแชร์กันไปทั่ว พวกตนเองไม่ไว้วางใจกันมานานแล้ว ใจมันรับไม่ได้ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้    
    นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ได้แจ้งต่อ ส.ส.ให้มาร่วมโหวตลงมติไว้วางใจ หรือไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ในวันที่ 4 ก.ย. เวลา 10.00 น. และสั่งปิดประชุมในเวลา 20.20 น.