3 ก.ย.64 - เวลา 18.05 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า ประเทศไทย แม้ไม่ใช่ประเทศรับมือดีที่สุด แต่ก็ไม่ใช่รับมือแย่ที่สุด เรารับมือโดยเต็มกำลังจากทุกฝ่าย เจ้าหน้าที่ด่านหน้า สาธารณสุข ทำงานอย่างเต็มที่ เสียสละ ขอบคุณประชาชน ร่วมพลังฝ่าวิกฤติ ส่วนข้อกล่าวหา ที่มีคนตาย เพราะรัฐบาลค้าความตายนั้น ไม่ใช่ ไม่เป็นธรรม ลองมองกลับด้านบ้างว่า มีผู้หายป่วยกว่า 85 เปอร์เซ็นต์ หรือกว่า 1.05 ล้านคน ไม่ใช่บอกแค่ว่า มีคนป่วยเป็นล้านคน ต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมมือกัน ช่วยรักษาชีวิตประชาชน การสร้างสมดุล ไม่ใช่กำจัดให้หมดไปจากโลก สุดท้ายจะเป็นโรคประจำถิ่น เหมือนไข้หวัดใหญ่ ไข้เลือดออกเป็นต้น เราไม่เคยเผชิญสถานการณ์โรคระบาดร้ายแรง เหมือนเช่นครั้งนี้

นายกฯ กล่าวอีกว่า ขอชวนให้ทุกคนคิด มองไปข้างหน้า เราไม่อาจตกอยู่ภายใต้ความหวาดกลัว เราจำเป็นต้องปรับตัว มองหาแนวทางใหม่ ให้พ้นวิกฤติไปด้วยกัน เพื่อสร้างความสมดุลกับชีวิต ตามมาตรการที่ศบค.ได้แนะนำไป 10 ประการ ในเรื่องเศรษฐกิจ ช่วง 4 เดือนของปีท้ายตอนนี้ ได้มีมาตรการต่างๆ และทุกมาตรการที่ทำ ได้ทำอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ มีความยืดหยุ่น เหมาะกับสถานการณ์ ขยายโอกาส ลดความเหลื่อมล้ำ 2564 ต้องประคับประคองเศรษฐกิจ จากสถานการณ์ความไม่แน่นอน ใช้โอกาสนี้ ประคับประคองประเทศ รวมไทยสร้างชาติ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ยุทธศาสตร์ประเทศ เดินหลังจากนี้ ทั้งต่อยอดโครงสร้างพื้นฐาน และการลงทุน ลดการปล่อยก๊าชเรือนกระจก ทำให้อุตสาหกรรมเดิมต้องเข้มแข็ง ต่อยอดอุตสาหกรรมอาหาร เกษตรแปรรูป รวมไปถึงอุตสาหกรรมใหม่แห่งอนาคต สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงของโลก โดยการพัฒนาผู้ประกอบการยุคใหม่  เดินหน้าปฏิรูปตำรวจ ปฏิรูปการศึกษา

"3 วันที่ผ่านมาได้ยินข้อมูลต่างๆมากมาย ยินดี รับฟังทุกข้อเสนอแนะ นำไปปรับปรุง แก้ไข อะไรเป็นประโยชน์ต่อชาติ ประชาชน ถือเป็นคำมั่นว่าผม จะทำงานให้กับคนไทยทุกคน รัฐบาลจะร่วมมือกับทุกฝ่าย ทำหน้าที่อย่างดีที่สุด นำพาประเทศไปอย่างมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ไม่ย่อท้อ เราเชื่อว่า ฟ้าหลังฝน ย่อมสดใสเสมอ แม้จะไม่มีใครบอกได้ว่าวิกฤตโควิด19 จะสิ้นสุดเมื่อใด แต่ความหวังความศรัทธาจะเป็นพลังสำคัญ ให้เราก้าวข้ามความยากลำบากวันนี้ไปให้ได้ พร้อมกับความรักความสามัคคีกับคนในชาติ เพื่อเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของบ้านเมือง ของเราไปสู่จุดหมายร่วมกัน"พล.อ.ประยุทธ์กล่าว