3 ก.ย.64- เมื่อเวลา 13.00 น. ที่รัฐสภา นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ พรรคเพื่อไทย แถลงว่า รู้สึกเจ็บปวดแทนคนไทยที่สภาปิดกั้นไม่ให้ส.ส.อภิปราย โดยวิปพรรคร่วมฝ่ายค้านไม่ส่งชื่อตน และสิ่งที่ตนเจ็บปวดมากวันนี้มีขบวนการไอโอผ่านโซเชียล ใส่ร้ายว่าตนจะย้ายพรรคและทิ้งพรรคเพื่อไทย ใครที่ทำไอโอให้ทางพรรคเพื่อไทย หรือทำไอโอช่วยเหลือเผด็จการ บาปบุญมีจริง ยืนยันว่าตนยังไม่มีนโยบายย้ายพรรค ยังยึดมั่นที่จะอยู่กับพรรคเพื่อไทย แต่วันนี้ทำกับตนน่าเกียจและรุนแรงมาก ไม่เหมาะที่จะเป็นพรรคที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย และฝากไปถึงคนที่ให้ทำไอโอในครั้งนี้ และผู้ใหญ่ในพรรคเพื่อไทยบางคนถ้าไม่อยากให้ตนอยู่ เพราะอุดมการณ์ไม่ตรงกัน ไม่จำเป็นต้องทำถึงขนาดนี้ ไม่ต้องมาไล่ตน หากเห็นว่าอุดมการณ์ของเพื่อไทยไม่เหลือแล้วตนจะไปเอง และจะประกาศกับคนไทยทั้งประเทศว่าพรรคเพื่อไทยไม่เหลืออุดมการณ์ คนที่ชื่อศรันย์วุฒิจะออกไปเองไม่ต้องมาขับไล่ หรือทำไอโอ

“วันนี้พรรคเพื่อไทยถูกนายทุนครอบ ซึ่งน่าเจ็บปวดอย่างมาก เพราะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป มีผู้บริหารพรรคบางคนที่มารับใช้นายทุน ใช้อำนาจทำลายประชาธิปไตย กดหัวส.ส. อย่างก่อนการอภิปรายผมถูกเชิญไปพบ2รอบ เพื่อสอบถามว่ามีประเด็นอภิปรายอะไรบ้าง มีเทคนิคลีลาการอภิปรายอย่างไร เรื่องนี้เจ็บปวด ถือเป็นการดูถูกส.ส.ที่ชื่อศรันย์วุฒิเป็นอย่างมากที่ต้องเรียกไปติว และมารู้ภายหลังว่าความจริงเป็นกุศโลบาย ต้องการล้วงข้อมูลในการอภิปรายเพื่อนำข้อมูลไปให้ฝ่ายตรงข้าม เป็นการเอาไปขายข่าว เป็นสิ่งที่ผมรับไม่ได้ อย่างคราวที่แล้วก็มีการนำข้อมูลของผมไปให้ฝ่ายตรงข้ามจนรู้ข้อมูลทั้งหมด ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จึงขอฝากไปถึงผู้บริหารพรรค ถ้าเอ็งทำหน้าที่เกินเลยลุแก่อำนาจ คนชื่อศรัณย์วุฒิไม่ยอมก้มหัวให้แน่นอน ขอให้จำและสำเหนียกไว้ แต่หากเจ้าของพรรคเห็นด้วย ผมก็เสียใจและเสียดายพรรคเพื่อไทย ที่วันนี้อุดมการณ์จะหมดสิ้นไปพร้อมกับพวกท่าน”นายศรัณย์วุฒิกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายศรัณย์วุฒิได้นำแผ่นชาร์จและข้อมูลที่จะอภิปราย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม มาโชว์สื่อมวลชนจำนวนมาก โดยระบุว่าได้ทำข้อมูลมาโดยใช้เวลายาวนาน แต่สุดท้ายกลับไม่ได้อภิปรายรู้สึกเจ็บปวด เพราะถือว่าพล.อ.ประยุทธ์คือสิ่งที่ชั่วร้าย

“ความจริงประเทศไทยจะมีการผสมพันธุ์กันระหว่างพรรคที่เป็นประชาธิปไตยกับกลุ่มเผด็จการ หลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ นักสู้เพื่อประชาธิปไตยหายไปไหนกันหมด แล้วจะอยู่ยังไงหากเป็นเช่นนี้ ทำให้นึกถึงบทกลอนของอาจารย์ลิขิต ธีรเวคิน ที่ว่ากรณีเผด็จการจะผสมพันธุ์กับประชาธิปไตย พรหมลิขิตขีดเขี่ยให้เหี้ยเดิน เหี้ยหลงเพลินเดินตามไม่สงสัย เหี้ยต่อเหี้ยเจอกันก็บรรลัย เหี้ยหนึ่งตายเหี้ยหนึ่งอยู่คู่ฟ้าดิน”นายศรันย์วุฒิกล่าว

เมื่อถามว่าสรุปจะย้ายไปอยู่พรรคไหน นายศรันย์วุฒิ ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม ระบุเพียงว่าเมื่อถึงเวลาจะดูทุกสิ่งอย่างให้รอบครอบ แต่ยืนยันว่าจะไม่ยอมกัมหัวให้ใครบางคน จะยึดมั่นในอุดมการณ์ ไม่ขายอุดมการณ์ให้ใคร ส่วนจากนี้ไปจะเข้าประชุมพรรคหรือไม่จะดูความจำเป็นและความเหมาะสม เมื่อถามว่ามีหลักฐานว่าพรรคเพื่อไทยจะไปร่วมกับกลุ่มเผด็จการหรือไม่ นายศรันย์วุฒิกล่าวว่า ตนไม่ได้กล่าวหาใคร เพียงแต่ตั้งข้อสังเกตุ เรื่องแบบนี้ขอให้สื่อมวลชนตามดู เพราะความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย และสิ่งที่ตนพูดไม่ใช่ข้อมูลที่เลื่อนลอย และการออกมาแถลงข่าวในครั้งนี้ไม่มีความกังวลว่าจะถูกขับออกจากพรรค เพราะถ้ากังวลคงไม่ออกมาแถลงเช่นนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากที่ นายศรัณย์วุฒิ แถลงข่าวเสร็จสิ้น ได้พาสื่อมวลชนเดินออกไปนอกรัฐสภา เพื่อไปดูโลงศพ โดยนายศรัณย์วุฒิ กล่าวว่า วันนี้ตนได้เตรียมโลงศพมาเพื่อจะอภิปราย แต่ไม่สามารถนำเข้าไปในรัฐสภาได้ จะนำมาเก็บศพพล.อ.ประยุทธ์ เนื่องจากผู้ที่เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 เจ้ากรรม นายเวรมาทวง เนื่องจากการบริหารสถานการณ์โควิดที่ล้มเหลวของพล.อ.ประยุทธ์ ที่เป็นต้นเหตุทำให้พวกเขาเสียชีวิต ทั้งที่พวกเขายังไม่ถึงเวลาตาย เขาจึงฝากโลงศพมาใส่ศพ พล.อ.ประยุทธ์ เพื่อทวงคืนชีวิตพวกเขา