โยชิฮิเดะ ซูกะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เตรียมอำลาตำแหน่งที่เพิ่งทำหน้าที่มาเพียงปีเดียว โดยยืนยันเมื่อวันศุกร์ว่า เขาจะไม่ลงชิงเก้าอี้ประธานพรรคแอลดีพีสิ้นเดือนนี้ ซึ่งจะทำให้เขาต้องพ้นเก้าอี้นายกรัฐมนตรีโดยปริยาย ขณะดัชนีหุ้นนิกเกอิพุ่งขึ้นกว่า 2% รับข่าวของผู้นำที่ความนิยมตกต่ำเป็นประวัติการณ์รายนี้

แฟ้มภาพ นายกฯ โยชิฮิดะ ซูกะ (Photo by Hiro Komae - Pool/Getty Images)

    ซูกะ ในวัย 72 ปี รับเก้าอี้ผู้นำพรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) ต่อจากชินโซ อาเบะ ที่ลาออกจากตำแหน่งเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้วด้วยเหตุผลด้านสุขภาพ แอลดีพีเตรียมจะจัดการประชุมเพื่อเลือกประธานพรรคปลายเดือนนี้ โดยซูกะไม่ได้แสดงท่าทีล่วงหน้าเลยว่าเขาจะไม่ลงสมัครอีก ในฐานะพรรคแกนนำรัฐบาลญี่ปุ่นที่มี ส.ส.มากที่สุด ผู้นำพรรคนี้จะเป็นนายกรัฐมนตรีโดยปริยาย

    รอยเตอร์และเอเอฟพีรายงานว่า ในคำแถลงกับนักข่าวสั้นๆ ไม่ถึง 2 นาทีเมื่อวันศุกร์ที่ 3 กันยายน ซูกะกล่าวว่า นับตั้งแต่มาเป็นนายกรัฐมนตรีได้ 1 ปี ตนทุ่มเทกำลังทั้งหมดเพื่อจัดการกับปัญหาต่างๆ ที่ประเทศกำลังเผชิญ โดยมาตรการป้องกันไวรัสโคโรนาคือด่านหน้า ตอนนี้ตนต้องการทุ่มเทสมาธิกับการรับมือไวรัสนี้ จึงได้แจ้งต่อที่ประชุมผู้บริหารของพรรคแอลดีพีว่า ตนตัดสินใจจะไม่ลงสมัครชิงตำแหน่งผู้นำพรรค ด้วยเห็นว่าไม่สามารถรับมือกับไวรัสและเตรียมการชิงชัยตำแหน่งนี้ในเวลาเดียวกันได้

    ซูกะมารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีด้วยคะแนนสนับสนุนสูงถึง 74% แต่ในเวลาไม่ถึงหนึ่งปี คะแนนนิยมเขาตกต่ำที่เป็นประวัติการณ์ โดยโพลของสำนักข่าวเกียวโดเมื่อเดือนที่แล้วระบุว่า รัฐบาลของเขามีคะแนนสนับสนุนเหลือเพียง 31.8% ในขณะที่ญี่ปุ่นกำลังดิ้นรนรับมือการระบาดของโควิด-19 ระลอกที่ 5 ซึ่งทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นเกือบ 16,000 คน

    คำประกาศของเขาส่งผลให้ดัชนีนิกเกอิ 225 ของตลาดหุ้นโตเกียวในวันศุกร์พุ่งทะยาน และปิดตัวเพิ่มขึ้น 2.05% หรือ 584.602 จุด ที่ 29,128.11 จุด ส่วนดัชนี TOPIX เพิ่ม 1.61% หรือ 31.88 จุด ปิดที่ 2,015.45 จุด สูงที่สุดในรอบ 30 ปี

    นักวิเคราะห์กล่าวกันว่า นักลงทุนคาดหวังว่าการเปลี่ยนตัวผู้นำจะเพิ่มโอกาสของการมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่

    ผู้ชนะการเลือกตั้งในการประชุมของพรรคแอลดีพีวันที่ 29 กันยายน จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ เพื่อเตรียมจัดการเลือกตั้งทั่วไปที่คาดว่าจะเป็นวันที่ 17 ตุลาคม แม้ยังคาดเดาแน่นอนไม่ได้ว่าใครจะชนะ แต่อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ ฟูมิโอะ คิชิดะ ถูกมองว่าเป็นตัวเก็งที่จะลงสมัครด้วย เขามักวิจารณ์การรับมือโควิด-19 ของซูกะ และเรียกร้องให้มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อบรรเทาผลกระทบจากโรคระบาด

    อีกคนที่นักวิเคราะห์คาดว่าอาจลงชิงชัยด้วยคือ ทาโร โคโน รัฐมนตรีปฏิรูปการปกครอง หากเขาได้รับเสียงสนับสนุนจากแกนนำอย่างรัฐมนตรีคลัง ทาโร อาโสะ ส่วนชิเงรุ อิชิบะ อดีตรัฐมนตรีกลาโหม ก็อาจเสนอตัวด้วยเช่นกัน แต่ถูกมองว่าโอกาสน้อย

    โดยทั่วไปเชื่อว่าการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น พรรคพันธมิตรร่วมรัฐบาลซึ่งนำโดยแอลดีพีคงไม่สูญเสียที่นั่งข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร แต่มีการคาดการณ์กันว่า แอลดีพีอาจสูญเสียเก้าอี้ ส.ส.ที่จะทำให้ผู้นำพรรคคนใหม่มีสถานะที่อ่อนแอลง .