หลังจากประเทศไทยพบการระบาดโควิดระลอกที่ 3 ที่มาจากสายพันธุ์เดลตา (อินเดีย) จนส่งผลให้การติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นอย่างน่าตกใจ โดยมีผู้ติดเชื้อถึงหลักหมื่นทุกวัน ซึ่งความกังวลดังกล่าวไม่เพียงอยู่แค่ในประเทศไทยเท่านั้น แต่ทั่วโลกก็กำลังเผชิญกับสถานการณ์สายพันธุ์เดลตาที่มีความรุนแรงมากขึ้น และสามารถแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว หลายประเทศมีอัตราการติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นจนน่ากังวล โดยเฉพาะฝั่งประเทศยุโรป มีการรับมือกับสถานการณ์วิกฤตเช่นนี้อย่างไรบ้าง
ประเทศฝรั่งเศส ผู้ติดเชื้อรวม 6.78 ล้านคน ปี 2564 มีการจัดการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบโดสให้ประชาชนครอบคลุมแล้วเกินกว่า 66% ของประชากรทั้งหมด ถือได้ว่าเกินครึ่งหนึ่งจากประชากรทั้งหมด 67 ล้านคน แต่ยอดผู้ติดเชื้อรายวันก็ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยทางการฝรั่งเศสได้ประกาศปรับเปลี่ยนมาตรการใหม่เพื่อควบคุมโควิด-19 โดยจะยกเลิกการตรวจคัดกรองเชื้อโควิด-19 สำหรับประชาชนฟรีในเดือน ต.ค. ยกเว้นผู้ที่มีใบสั่งจากแพทย์ ซึ่งแนวทางดังกล่าวจะเริ่มปฏิบัติสอดคล้องกันในหลายประเทศของสหภาพยุโรป โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งเสริมการฉีดวัคซีน
อีกทั้งยังมีมาตรการควบคู่ โดยเฉพาะมาตรการแสดงใบรับรองสุขภาพ หรือ Health Pass เป็นเอกสารการแสดงผลตรวจเชื้อโควิด-19 ว่าเป็นลบในช่วง 48 ชั่วโมงที่ผ่านมา รับรองการฉีดวัคซีน หรือเคยติดเชื้อโควิด-19 และหายดี ก่อนเข้าใช้บริการสถานที่ต่างๆ พื้นที่สาธารณะที่มีผู้ใช้บริการตั้งแต่ 50 คนขึ้นไป หรือมีผู้เข้าร่วม 1,000 คนขึ้นไป รวมถึงขนส่งสาธารณะและโรงพยาบาล และสำหรับการตรวจสอบชายแดนของฝรั่งเศสจะมีความเข้มงวดมากขึ้น และจะมีการทดสอบแอนติเจนกับทุกคนที่เดินทางมาจากประเทศที่มีความเสี่ยง
อย่างไรก็ตาม ฝรั่งเศสยังมีมาตรการฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 แก่ประชาชนกลุ่มเสี่ยงและผู้สูงอายุในช่วงกลางเดือน ก.ย. โดยกระทรวงสาธารณสุขจะแจ้งรายละเอียดของกลุ่มเสี่ยงว่าจะเป็นกลุ่มใดบ้างอีกครั้ง และจะเปิดให้ลงทะเบียนจองคิวตั้งแต่ช่วงปลายเดือน ส.ค.นี้เป็นต้นไป สำหรับการสวมหน้ากากอนามัยยังคงเป็นสิ่งที่พึงต้องปฏิบัติอยู่ แม้ว่ากฎหมายจะไม่ได้กำหนด แต่สถานที่หลายแห่งทั่วประเทศยังคงขอให้ผู้เข้าใช้บริการสวมหน้ากากอยู่
ในส่วนประเทศเยอรมนีมีผู้ติดเชื้อรวม 3.98 ล้านคน ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 100 ล้านโดส ครอบคลุมจำนวนประชากรแล้วกว่า 60% จากทั้งหมด 83 ล้านคน แต่ยอดผู้ติดเชื้อก็ยังคงพุ่งสูงขึ้น สวนทางกับอัตราการฉีดวัคซีนที่ชะลอตัวลง โดยในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ความต้องการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของประชากรในเยอรมนีลดลงอย่างมาก และภาครัฐมีความพยายามผลักดันให้มีการฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้น โดยตั้งจุดฉีดวัคซีนที่ร้านค้าขนาดใหญ่ในสถานที่ยอดนิยมใจกลางเมือง หรือเสนอสิ่งจูงใจต่างๆ ทั้งนี้เพื่อเป็นการกระตุ้นให้คนรับวัคซีนมากขึ้น รัฐบาลจึงมีนโยบายยกเลิกบริการตรวจโควิด-19 ฟรี และยกเว้นสำหรับบุคคลที่ไม่ได้รับคำแนะนำให้รับวัคซีนด้วยเหตุผลทางการแพทย์ เช่น เด็ก สตรีมีครรภ์ ซึ่งเป็นมาตรการเดียวกันกับฝรั่งเศส
อีกทั้งขณะนี้รัฐบาลได้มีข้อกำหนดว่า หากประชาชนต้องการเข้าร่วมกิจกรรมใดๆ ก็ตาม หรือเข้าใช้บริการพื้นที่สาธารณะตั้งแต่การรวมกลุ่มในอาคาร การไปร้านอาหาร การไปโบสถ์ โรงละคร หรือสนามฟุตบอล จะต้องมีเอกสารรับรองการฉีดวัคซีน หรือยืนยันผลตรวจโควิด-19 ซึ่งผลการตรวจหาเชื้อเพื่อใช้บริการต่างๆ จะต้องมีการอัปเดตทุกๆ 2-3 วัน หรือ 1 สัปดาห์ เพื่อให้ข้อมูลเป็นปัจจุบัน
และอังกฤษที่เป็นอีกประเทศที่มีอัตราการติดเชื้อที่สูงขึ้น มีผู้ติดเชื้อรวม 5.9 ล้านคน แต่อัตราการเสียชีวิตกลับลดลงจากการระบาดระลอกที่ผ่านมา เนื่องจากความพยายามระดมฉีดวัคซีนของรัฐบาล โดยนับจนถึงขณะนี้ ราว 67% ของประชากรที่มีอายุ 18-29 ปี ได้รับวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 แล้วอย่างน้อย 1 เข็ม ขณะที่กว่า 72% ของประชากรวัยผู้ใหญ่ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม ส่วนอีก 88% เพิ่งได้รับวัคซีนเข็มแรก
ซึ่งการแพร่ระบาดระลอกล่าสุดของสายพันธุ์เดลตา ท่ามกลางความกังวลว่าวัคซีนเข็มแรกที่ฉีดให้ประชาชนไปก่อนหน้านี้อาจเริ่มลดประสิทธิภาพลง รัฐบาลอังกฤษได้ออกมาตรการฉีดวัคซีนโควิดเข็มกระตุ้น หรือเข็มที่ 3 ให้ประชาชน 32 ล้านคน คาดว่าจะเริ่มฉีดอย่างเร็วที่สุดในวันที่ 6 ก.ย.ที่จะถึงนี้ โดยรัฐบาลอังกฤษกำลังวางแผนที่จะฉีดวัคซีนเข็ม 3 เฉลี่ยเกือบ 2.5 ล้านโดสต่อสัปดาห์ ให้แก่ประชาชนที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป และผู้ป่วยทุกวัยที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ เพื่อให้แน่ใจว่าภูมิคุ้มกันที่สร้างขึ้นในหมู่ประชากรจะไม่ลดลงตลอดช่วงฤดูหนาว และเพื่อที่จะเพิ่มการต้านทานไวรัสสายพันธุ์ต่างๆ
ที่ผ่านมา รัฐบาลอังกฤษได้ร่วมมือกับภาคเอกชนต่างๆ ในการจัดกิจกรรม แคมเปญ เพื่อกระตุ้นและจูงใจให้ประชาชนเข้ารับวัคซีน เช่น กิจกรรมลุ้นชิงโชคตั๋วชมการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2020 รอบชิงชนะเลิศ เพื่อเป็นการกระตุ้นให้กลุ่มวัยรุ่นเข้ารับวัคซีนมากขึ้น สำหรับบริษัทผู้ให้บริการจัดส่งอาหารและบริการเรียกยานพาหนะหลายแห่ง จะมอบข้อเสนอพิเศษ เช่น ส่วนลดค่าเดินทางและค่าจัดส่งอาหารบนแพลตฟอร์ม เพื่อจูงใจกลุ่มคนหนุ่มสาวให้เข้ารับการฉีดวัคซีน นอกจากนี้ยังมีบัตรกำนัลหรือรหัสส่วนลด สำหรับผู้ที่เดินทางไปยังสถานที่ฉีดวัคซีนชั่วคราวอีกด้วย
ในส่วนประเทศไทยเริ่มมีการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ บ้างแล้ว แต่ถ้านำมาตรการของยุโรปมาเทียบ โดยเฉพาะเรื่อง Health Pass ก็จะทำให้ประชาชนสามารถมั่นใจได้ว่า โอกาสที่จะนำโรคจากร้านค้าไปสู่ที่บ้านนั้นลดลง นอกจากนี้ยังมีหลายมาตรการของยุโรปที่นำมาปรับปรุงประยุกต์ใช้ในไทยได้ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ฉีดวัคซีนที่ตอนนี้มีการฉีดในโรงพยาบาล สถานพยาบาลศูนย์ฉีดกลางบางซื่อ ซึ่งตามภาพข่าวปรากฏว่ามีประชาชนเข้าไปต่อแถวรอฉีดวัคซีนเป็นจำนวนมาก ทำให้การเว้นระยะห่างเป็นเรื่องที่ลำบาก ถ้ารัฐบาลเพิ่มจุดบริการรับวัคซีนมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นการทำข้อตกลงกับห้างสรรพสินค้า ฯลฯ จะทำให้การกระจุกตัวรอรับวัคซีนลดลงอย่างเห็นได้ชัด และสิ่งที่สำคัญคือการจูงใจให้คนเข้ารับการฉีดวัคซีนมากขึ้น นอกเหนือจากความปลอดภัยของประชาชนเอง เพราะมีประชาชนส่วนหนึ่งไม่ยอมรับการฉีดวัคซีนซิโนแวคหรือแอสตร้าเซนเนก้า ดังนั้น การสร้างแรงจูงใจตั้งแต่การไปดีลกับเอกชนเพื่อให้ประชาชนที่จะฉีดวัคซีนได้รับสิทธิพิเศษต่างๆ มากขึ้น ก็จะทำให้คนไทยได้รับวัคซีนมากขึ้นและเร็วขึ้น
และสุดท้ายคือ การทำให้ประชาชนยอมรับวัคซีนให้ได้ เพราะจากที่กล่าวมาข้างต้นในประเทศยุโรปเองก็มีคนที่ไม่ต้องการฉีดวัคซีน อันเนื่องมาจากกลัววว่าตัวเองจะได้รับผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีน ดังนั้นในเมื่อตอนนี้ไทยมีวัคซีนซิโนแวคมากที่สุด จึงเป็นหน้าที่ของรัฐบาลจะทำอย่างไรให้ประชาชนที่ไม่ยอมรับวัคซีนซิโนแวค ได้เกิดความเชื่อมั่นในวัคซีนตัวนี้มากยิ่งขึ้น เพื่อให้บรรลุเป้าหมายฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมประชากรมากที่สุด ลดอัตราการป่วยหนัก และลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคนี้โดยเร็ว เพื่อให้คนไทยกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุขอีกครั้ง.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |