ศึกซักฟอกวันที่สามยังพุ่งเป้าถล่ม “ลุงตู่” “จิราพร” ซัดผู้นำทำงานน้อยกว่าสัปเหร่อเสียอีก “ประยุทธ์” แจงพร้อมสูดน้ำมูกว่าควรใช้วิจารณญาณและปัญญาให้มากเมื่อพูดเรื่องวัคซีน ผงะ! วิสารมือกรีดแขนโพล่งนายกฯ แจกเงิน ส.ส. 5 ล้านบาทกลางสภา พปชร.รุมด่าเลวทรามต่ำช้า "บิ๊กตู่" โต้กลับ ไม่ทำบ้าๆ บอๆ ไม่แจกถุงขนมอยู่แล้ว หึ่ง! ส.ส.พปชร.แห่เข้าพบนายกฯ พร้อมรับปากดูแล ส.ส.ทั้งก่อนและหลังแลกกับการลงมติ พปชร.ส่อร้าวหน้า "ธรรมนัส” ประกาศคุยแค่รองนายกฯ ที่เป็นหัวหน้าพรรค รอลุ้นท่าที “ลุงป้อม” เรื่องยกมือโหวต
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 2 กันยายน ถือเป็นวันที่สาม ที่สภาผู้แทนราษฎรมีการพิจารณาญัตติการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ขณะเดียวกันก็มีความต่อเนื่องและผลพวงจากการอภิปรายในรอบ 1-2 วันที่ผ่านมา
โดยก่อนประชุม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งเดินทางมาถึงอาคารรัฐสภา ได้ตอบคำถามถึงความมั่นใจแค่ไหนกับผลโหวตไว้วางใจว่า ก็ว่ากันไป จะเชื่อไม่เชื่ออะไรก็ไปว่ากันในสภา อย่าพูดนอกสภาเลย
เมื่อถามว่า มั่นใจว่าจะได้รับการโหวตไว้วางใจหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ระบุว่า ก็ขึ้นอยู่กับ ส.ส.เขา และเมื่อถามอีกว่า ถึงวันนี้สบายใจขึ้นหรือไม่ นายกฯ ตอบด้วยน้ำเสียงเนือยๆ ว่า สบายใจ ทั้งนี้นายกฯ ดูมีท่าทีอิดโรย โดยมีรายงาน พล.อ.ประยุทธ์ใช้เวลาเกือบตลอดทั้งคืนวันที่ 1 ก.ย.ติดตามความเคลื่อนไหวในทางการเมือง โดยเฉพาะในประเด็นกระแสข่าวมีความพยายามโค่นล้มนายกฯ ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ
ขณะที่นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า “ข่าวว่า!!! นายกรัฐมนตรีเซ็นคำสั่งปลด ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ แล้ว ถึงเวลาสงครามของผู้แทนของประชาชน+ประชาชนแล้ว ลุงคนดี vs ประชาชน
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ถึงเรื่องดังกล่าว นายกฯ ตอบเพียงสั้นๆ ว่า “เชื่อมันหรือ”
ด้าน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกระแสข่าวลาออกจากรัฐมนตรีว่า ไม่ทราบ ส่วนกรณีนายมงคลกิตติ์โพสต์เฟซบุ๊กนั้น ยังไม่เห็น ยังไม่ทราบข่าวดังกล่าว เมื่อถามย้ำว่าจะเอาผิดกับคนปล่อยข่าวดังกล่าวหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสตอบว่า “เต้เขาไม่ได้ประสงค์ร้ายอะไรกับผม จะไปเอาผิดเขาได้อย่างไร เรื่องนี้มีที่มาที่ไปหรือไม่ ไม่ทราบ ต้องไปถามจากเต้ว่าหมายความว่าอย่างไร”
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้พูดคุยทำความเข้าใจกับ พล.อ.ประยุทธ์แล้วหรือยัง ร.อ.ธรรมนัสตอบทันทีว่า “ไม่คุยกับนายกฯ แต่คุยกับรองนายกฯ ที่เป็นหัวหน้าพรรค ซึ่งเมื่อตอนกลางวันก็เพิ่งไปทานข้าวกับรองนายกฯ มา” ถามต่อเนื่องว่าแสดงว่ารอยร้าวที่เป็นปัญหาเรียบร้อยดีแล้วใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า “ยืนยันว่าคุยกับรองนายกฯ และเมื่อวานก็ได้พูดไปหมดแล้ว ที่แถลงข่าวไปนั้นชัดเจนหมดแล้ว ไม่มี ประเด็นอะไรใหม่”
ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่าจะกลับไปเป็น ส.ส.อย่างเดียวใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า มาจากประชาชน เราเข้าสู่การเมืองแล้ว อย่าไปคิดมากในการปกครองระบอบประชาธิปไตย เราคือตัวแทนของพี่น้องประชาชนชาวไทย เพราะฉะนั้นเมื่อคุณจะทำอะไรต้องคิดถึงประโยชน์ของประเทศชาติบ้านเมืองและพี่น้องประชาชนเป็นที่ตั้ง เสียงจากประชาชนคือเสียงสวรรค์ และในชีวิตก็ไม่ได้คิดจะมาเล่นการเมืองอยู่แล้ว จึงไม่ยึดติดตำแหน่ง
โหวตขึ้นอยู่หัวหน้าสั่ง
เมื่อถามว่า กระแสข่าวถึงขณะนี้แสดงให้เห็นว่า ร.อ.ธรรมนัสขัดแย้งกับ พล.อ.ประยุทธ์ชัดเจนใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า มีแต่กระแสข่าว ยังไม่ได้คุยกับนายกฯ เลย ส่วนเรื่องการโหวตนั้น พูดเสมอว่าทุกอย่างอยู่ที่หัวหน้าพรรคที่จะให้นโยบายอย่างไร แต่ทุกอย่างก็อยู่ที่เอกสิทธิ์ เพราะเป็นสิทธิ์ของ ส.ส.แต่ละคนว่าจะตัดสินใจในเรื่องเสียงในสภาอย่างไร เราไปครอบงำเขาไม่ได้ เชื่อว่าส.ส.ทุกคนกว่าจะมาเป็น ส.ส.เขาก็ผ่านอะไรมาเยอะ
เมื่อถามว่า สถานการณ์ที่รุมเร้าขณะนี้จะทำให้ ร.อ.ธรรมนัสถอดใจลาออกจากการเป็นรัฐมนตรีหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสตอบว่า “ผมไม่ยึดติดกับตำแหน่งหน้าที่ ซึ่งผมพูดคำนี้เสมอ” และเมื่อถามอีกว่า มีคนระบุว่า ร.อ.ธรรมนัสแอบอ้างสถาบันเพื่อเปลี่ยนนายกฯ ใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า อย่าไปถามเรื่องประเด็นนี้ การเมืองเราต้องแยกให้ชัดเจน ว่าการเมืองคือการเมือง อย่าดึงสถาบันลงมายุ่งกับการเมือง ต้องรู้จักแยกแยะ
มีรายงานข่าวจากพรรค พปชร.แจ้งความเคลื่อนไหวของแกนนำและ ส.ส.พปชร.อย่างต่อเนื่องตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 ก.ย.จนถึงปัจจุบัน มีความพยายามล็อบบี้เสียงสนับสนุนระหว่างกลุ่มที่ไม่พอใจ พล.อ.ประยุทธ์กับกลุ่มที่ยังสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ โดยมีรายงานว่ามีผู้ประสานจากฝ่าย พล.อ.ประยุทธ์มาประสาน ส.ส.แต่ละกลุ่มให้เข้าพบนายกฯ ที่ห้องรับรองรัฐสภาตลอดทั้งวัน ซึ่งที่ผ่านมานายกฯ แทบไม่เคยมานั่งพูดคุยกับ ส.ส.แบบเป็นกันเองลักษณะนี้เลย ซึ่งในการพูดคุย พล.อ.ประยุทธ์ยังมีการยืนยันที่จะดูแล ส.ส.ทั้งก่อนและหลังเพื่อแลกกับการลงมติไว้วางใจ และ พล.อ.ประยุทธ์ยังได้ย้ำกับ ส.ส.ด้วยว่าขอให้มั่นใจว่าจะไม่มีการยุบสภา ไม่มีการปรับ ครม. ทั้งนี้กลุ่ม ส.ส.ที่เข้าพบนายกฯ มีกลุ่มของนายสันติที่นำ ส.ส.จาก ส.ส.นครสวรรค์, พิจิตร, พิษณุโลก และแม่ฮ่องสอน เกือบ 10 คนเข้าพบ ส่วนกลุ่มที่ไม่พอใจ พล.อ.ประยุทธ์ ก็เคลื่อนไหวลักษณะเดียวกัน โดยรับปากจะดูแลทั้งก่อนและหลังลงมติ พร้อมการันตีว่าจะส่งลงสมัครรับเลือกตั้งในสมัยหน้าในนามพรรคอีกด้วย แต่หากไม่มา จะหาผู้สมัครคนอื่นมาลงสมัครแทน
“ขณะนี้ ส.ส.หลายคนยังรอดูท่าทีจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. ที่จะเรียกประชุม ส.ส.เป็นครั้งสุดท้าย เวลา 13.00 น. ก่อนลงมติในวันที่ 3 ก.ย.นี้ก่อน แล้วจึงจะตัดสินใจว่าจะต้องลงมติอย่างไร โดยเริ่มมีการเช็กเสียงกันว่าหากต้องเลือกระหว่าง พล.อ.ประวิตรกับ พล.อ.ประยุทธ์ จะเลือกใคร ส.ส.ส่วนใหญ่ต่างระบุว่าจะเลือก พล.อ.ประวิตร”
ทั้งนี้ พรรค พปชร.มี ส.ส. 118 เสียง โดยมีกลุ่มการเมืองขนาดใหญ่ อาทิ กลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส และนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ที่มีประมาณ 40 เสียง,กลุ่มสามมิตร ที่มีเกือบ 30 เสียง และกลุ่มนายสันติ 10 เสียง ส่วนกลุ่มอื่นๆ กทม. ภาคใต้ และกลุ่มอิสระอื่นๆ มีทั้งสนับสนุนและไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์
ซัดแยก สธ.ออกจากการเมือง
สำหรับความเคลื่อนไหวที่เกี่ยวข้องกับการอภิปรายนั้น นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ระบุถึงกรณีฝ่ายค้านท้วงติงที่ให้ข้าราชการประจำมาชี้แจงแทนว่า วันอภิปรายในวันแรกได้ลุกขึ้นตอบชี้แจงไปแล้ว และเมื่อฝ่ายค้านอภิปรายครบก็จะได้ลุกขึ้นตอบทีเดียว ขืนไปตอบทุกครั้งๆ ก็คงหมดแรงแย่ ส่วนที่ข้าราชการที่มาตอบส่วนใหญ่เป็นแพทย์ทั้งนั้น เขาไม่ได้มาตอบฝ่ายค้าน แต่เอาความจริงที่มีความจำเป็นที่ต้องให้ประชาชนรับทราบ เพราะเป็นเรื่องของชีวิต สุขภาพ และความปลอดภัย
“ข้อมูลที่ฝ่ายค้านนำมาอภิปรายหลายข้อมูลเป็นเท็จ หลายข้อมูลตัดแปะ เรื่องแพทย์กับเรื่องการเมืองถ้าเกี่ยวข้องกันเมื่อไหร่ก็บรรลัยเมื่อนั้น เกี่ยวกันไม่ได้ เพราะเรื่องแพทย์ เรื่องการรักษาโรคระบาดเป็นสิ่งที่ต้องแยกออกจากกันอย่างเด็ดขาด ดังนั้นอย่าเอามายุ่งกับการเมือง อย่าไปซ้ำเติมประชาชน” นายอนุทินระบุ
ส่วนนายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกฯ ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานวอร์รูมนอกสภา ระบุว่า จะยื่นหนังสือถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ตรวจสอบและดำเนินการเอาผิด ส.ส.ที่อภิปรายเข้าข่ายผิดประมวลจริยธรรมอย่างร้ายแรง และขอให้ส่งเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบ 2 คน ได้แก่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) และนายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม.พรรคก้าวไกล
ด้านนายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย (พท.) และประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงภาพรวมการอภิปรายว่า เราบริหารเวลาได้ดี แต่เป็นที่สังเกตว่ารัฐบาลตอบน้อยกว่าเดิมโดยไม่ทราบสาเหตุ มีเพียงนายกฯ ที่ตอบ ส่วนคนอื่นตอบน้อย ส่วนกรณีประท้วงประเด็นซ้ำนั้นเป็นกลยุทธ์ในการอภิปราย เป็นเรื่องที่เราต้องโฟกัส ต้องจัดคนมาพูดซ้ำ เพราะบางครั้งผู้ชมอาจฟังไม่ทันหรือตามไม่ทัน
และในเวลา 09.00 น. ที่ได้เริ่มต้นการประชุม น.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรค พท. อภิปรายว่า พล.อ.ประยุทธ์กล่าวในสภาว่าสวดมนต์ทุกวัน อยากถามว่ารู้จักสุภาษิตมือถือสาก ปากถือศีลหรือไม่ เพราะประชาชนทั้งประเทศกำลังรอฟังว่านายกฯ ทุจริตหรือไม่ ถ้าไม่ได้ทำก็ต้องแสดงหลักฐาน ไม่ใช่อ้างว่าสวดมนต์ทุกวัน โดยเฉพาะเรื่องการจัดซื้อวัคซีนซิโนแวคอย่างเดียว และไม่ต้องด่าฝ่ายค้านว่าด้อยค่าซิโนแวค แต่ท่านต่างหากที่กำลังด้อยค่าคนไทย ซึ่งวันนี้เขาสงสัยส่วนต่างการจัดซื้อซิโนแวคหายไปไหน เงินทอนมีหรือไม่
“สถานการณ์บ้านเราตอนนี้ สัปเหร่อทำงานเยอะกว่านายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ เวิร์กฟรอมโฮม ปิดทองหลังพระ แต่พระต้องใส่ชุดพีพีอี ใส่หน้ากากช่วยเหลือประชาชน ทุกอย่างกลับตาลปัตร” น.ส.จิราพรกล่าว
เวลา 10.50 น. พล.อ.ประยุทธ์ชี้แจงว่า รัฐบาลมีการปรับกลยุทธ์เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของโควิดมาตลอด ส่วนแผนการจัดหาวัคซีนเรามีแผนการดำเนินการมาตั้งแต่ต้นปี 2563 และปัจจุบันองค์การอนามัยโลกรับรองวัคซีนเพียง 7 ยี่ห้อเท่านั้น ตลาดวัคซีนเป็นตลาดของผู้ขาย ไม่ใช่ตลาดผู้ซื้อ ต้องระวังเวลาด้อยค่าวัคซีน สุดท้ายประเทศเขาไม่นำออกมาจะทำอย่างไร ส่วนราคาวัคซีนจัดซื้อเท่าไหร่ ก็เบิกงบประมาณเท่านั้น อย่าเอาทุกอย่างประมวลรวมมั่วไปหมด เพราะจะเกิดความเข้าใจผิด
“การเข้าร่วมโครงการโคแวกซ์นั้น อาเซียนที่เข้าร่วมโคแวกซ์ถือว่าได้รับวัคซีนเป็นสัดส่วนที่น้อยมาก บางประเทศได้รับแค่หลักแสนโดส แต่ไทยได้จองวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 38 ล้านโดส ถือว่าสูงกว่าหลายประเทศ ยืนยันว่าจะได้ครบ 61 ล้านโดสภายในเดือน ธ.ค.นี้” นายกฯกล่าว และว่า ที่เราใช้วัคซีนซิโนแวค เพราะเป็นเชื้อตายที่ชาวโลกใช้มาเนิ่นนาน ผลข้างเคียงน้อยอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ เราสั่งซื้อได้ในจำนวนที่เราต้องการเพื่อให้มีวัคซีนหลักให้เร็วที่สุด การด้อยค่าวัคซีนถือว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อน การพูดอะไรที่ไม่เป็นข้อเท็จจริง กระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ขอให้ใช้วิจารณญาณ ใช้ภูมิปัญญาอย่างมากในคำพูดทุกคำพูด ท่านต้องรับผิดชอบ
ก.ก.ว่างนับนายกฯ สูดน้ำมูก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างชี้แจง พล.อ.ประยุทธ์มีสภาพอิดโรย มีอาการคัดจมูกน้ำมูกไหล ทำให้นายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ลุกขึ้นประท้วงว่า นายกฯ คอยสูดน้ำมูกตลอดเวลานับได้ 98 ครั้ง จึงขอประท้วงประธานในที่ประชุม ว่าเหตุใดปล่อยให้คนเป็นหวัดเข้ามาห้องประชุม อาจแพร่เชื้อได้ จากนั้น นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯ กล่าวว่า เห็นด้วยกับผู้ประท้วง ถ้าเป็นไปได้อยากให้นายกฯ ถอดหน้ากากอนามัยแล้วเข้าไปชี้แจงยังโพเดียมที่เตรียมไว้ให้ ซึ่งนายกฯ ก็ไม่ได้ชี้แจงต่อ
คณะทำงานนายกฯ ชี้แจงในเรื่องนี้ว่า พล.อ.ประยุทธ์มีอาการปกติดี ไม่ได้ไม่สบาย เพียงแต่พักผ่อนน้อย และมีอาการแพ้อากาศ
ต่อมาการประชุมช่วงบ่ายก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อย จนถึงคิวนายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรค พท. โดยก่อนจบการอภิปราย นายวิสารระบุว่า คนที่อยู่ในตำแหน่งนายกฯ วันนี้สง่างามหรือไม่ เพราะ ณ ขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์จ่ายเงินให้ ส.ส. 5 ล้านบาทที่ชั้น 3 การทำแบบนี้เป็นการกระทำที่อุกอาจ ส.ส.ไปรับเงินนายกฯ 5 ล้านบาท เป็นไปได้อย่างไร จะอยู่กันเช่นนี้หรือ น่าไม่อาย ทำแบบนี้ในสภาได้อย่างไร ทำให้นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรค พปชร. ลุกขึ้นประท้วงว่า สิ่งที่นายวิสารพูดไม่ได้อยู่ในญัตติ และสงสัยว่าเป็นการพูดเท็จในสภาหรือไม่
นายชวน ซึ่งทำหน้าที่ประธานควบคุมการประชุม ระบุว่า เห็นด้วยว่าสิ่งที่นายวิสารพูดไม่ได้อยู่ในญัตติ แต่เมื่อพูดไปแล้วก็ไม่ต้องถอน นายกฯ จะได้มีโอกาสชี้แจงต่อไป ไม่เป็นไร แต่ ส.ส.พรรค พปชร.ก็ยังลุกขึ้นประท้วงต่อเนื่อง พร้อมเรียกร้องให้ถอนคำพูด แต่นายชวนยืนยันในคำวินิจฉัยเดิมว่าไม่ต้องถอนคำพูดจะได้ให้นายกฯ ชี้แจง ถ้าจริงก็เสียหาย ถ้าไม่จริงผู้พูดก็โกหก เสื่อมเสียต่อผู้พูดเอง จากนั้น ก็ได้เชิญนายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย อภิปรายตามคิวที่กำหนดไว้ต่อไป
โดยหลังนายครูมานิตย์อภิปรายเสร็จเรียบร้อย นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรค พท. ขอหารือกรณีที่นายวิสารอภิปรายว่านายกฯ แจกเงินให้ ส.ส. 5 ล้านบาท เป็นข้อกล่าวหาที่รุนแรง และขณะนี้กำลังมีบุคคลเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับห้องโสตทัศนูปกรณ์ กลัวว่ากล้องวงจรปิดของสภาจะกลายเป็นกล้องดัมมี่ไป จึงขอให้ให้ประธานสภาฯ ช่วยดูแลด้วย หากหลักฐานโดนลบไป ซึ่งนายชวนวินิจฉัยให้อภิปรายต่อไป ส่วนประเด็นที่มีการกล่าวหานั้น ได้รับแจ้งว่านายกฯ จะมาชี้แจงในสภาต่อไป
จากนั้น นายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พรรค พปชร. กล่าวว่า เป็นหนึ่งคนที่เข้าไปพบนายกฯ พร้อมๆ กับเพื่อน ส.ส. ไม่ได้มีเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเงินทอง การที่ฝ่ายค้านกล่าวหาเพื่อนสมาชิกด้วยกัน มันเลวทรามต่ำช้า และถ้าหากจะไปเปิดกล้องวงจรปิดก็เชิญ แต่ต้องให้ฝ่ายค้านถอนคำพูด ซึ่งนายชวนกล่าวว่า สาเหตุที่บอกว่าไม่ให้ถอน เพราะเป็นเรื่องที่พาดหัวไปแล้ว หากจะขจัดข้อสงสัยต้องชี้แจง
ต่อมาเวลา 14.10 น. นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค ก.ก. อภิปรายโดยใช้เวลากว่า 70 นาที ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเรื่องกระทรวงกลาโหม และม็อบ ตั้งแต่เรื่องหลักเกณฑ์การสอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหารจนถึงการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ของในสมัย พล.อ.ประวิตรเป็น รมว.กลาโหม
"บิ๊กตู่"ปัดแจกถุงขนม5ล้าน
เวลา 16.20 น. น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า โครงการจัดซื้อยุทโธปกรณ์กองทัพอากาศ 3 โครงการ คือ โครงการพัฒนาและปรับปรุงระบบป้องการทางอากาศ ระยะที่ 7 ( N-SOC C2), โครงการพัฒนาการป้องกันฐานที่ตั้งทางทหารของกองทัพอากาศ (GBAD) และโครงการจัดหาทดแทนวิทยุพื้นดิน-อากาศ มูลค่ากว่า 3,000
ล้านบาท พบว่ามีการเปลี่ยนแปลงทีโออาร์เรื่องนี้ กรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติผิดมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร เคยเชิญตัวแทนจากกองทัพอากาศมาชี้แจงในรายละเอียดของโครงการ ถึงแม้กองทัพอากาศที่เป็นหน่วยรับงบประมาณ จะสามารถรื้อโครงการ เปลี่ยนแปลงทีโออาร์ได้ แต่ทำได้อย่างจำกัด ต้องอยู่ภายใต้อำนาจ ขอบเขตตามกฎหมาย ที่เป็นการปรับปรุง เปลี่ยนแปลง เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีประสิทธิภาพ และต้องไม่ให้กระทบต่อวัตถุประสงค์ จากการให้ถ้อยคำของประธานคณะกรรมการปรับปรุงเปลี่ยนทีโออาร์บอกชัดเจนว่า ฝ่ายเสธ.ของ ผบ.ทอ.เข้ามาสั่งการ ตนสงสัยว่าฝ่ายเสธ.คนนี้ใหญโตแค่ไหน เมื่อไปตรวจสอบดู เสธ.คนนี้ไม่ได้อยู่ในกองทัพอากาศ เป็นทหารอากาศที่รับราชการอยู่นอกหน่วยกองทัพแต่มาช่วยราชการ ที่สำคัญใครส่งมาก็ไม่รู้ แต่การมาสั่งการปรับปรุง เปลี่ยนแปลง ทำสิ่งที่ขัดกับกฎหมาย จากเรื่องดังกล่าว จึงไม่อาจไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี ในฐานะ รมว.กลาโหม
ขณะที่นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม ยังคงอภิปรายเนื้อหาเดิมๆที่เคยแถลงข่าวไปก่อนหน้านี้ อาทิ การเดินหน้าจัดซื้อโครงการเรือดำน้ำของกองทัพเรือ ที่เป็นจีทูจีเก๊ ไม่ได้ลงนามกับรัฐบาลจีน แต่ลงนามกับตัวแทนบริษัท เอกชนจีน มีการเร่งรีบทำสัญญา แม้การจัดซื้อเรือดำน้ำลำที่ 2-3 ถูกกระแสสังคมต่อต้านหนัก จนต้องถอนวาระการจัดซื้อออกไป แต่ยังเหลือโครงการที่เกี่ยวเนื่องอยู่ อาทิ โครงการเรืออเนกประสงค์ยกพลขึ้นบก 6,200 ล้านบาท, โครงการโรงซ่อมเรือดำน้ำ 995 ล้านบาท, โครงการทดสอบคลังเก็บตอร์ปิโด รวมมูลค่าโครงการเรือดำน้ำทั้งหมด 44,222 ล้านบาท โดยเฉพาะโรงซ่อมเรือดำน้ำ ที่บริษัท CSOC ที่เป็นบริษัทประเทศจีนชนะประมูลนั้น เป็นบริษัทนายหน้ามาทำจีทูจีเก๊ มีความเชื่อมโยงกับบริษัทแห่งหนึ่งที่บริจาคเงินให้มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี 2 ล้านบาท แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ของทั้งคู่ ขอให้ พล.อ.ประวิตร บิดาแห่งเรือดำน้ำมาตอบด้วย
ต่อมาเวลา 18.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ชี้แจงว่า ไม่เคยเรียกผลประโยชน์จากใคร พยายามลดการทุจริต ถ้ามีหลักฐานเพียงพอก็ให้ไปว่ากันในชั้นศาล เรื่องคำถามในคัดเลือกนักเรียนเตรียมทหารนั้น ต้องมีการตรวจสอบทัศนคติ เป็นคำถามธรรมดา ไม่ใช่เรื่องผิดปกติ ยืนยันไม่เคยเอากฎหมาย ทหาร ตำรวจ มาปกป้องตัวเอง ตนปกป้องตัวเองได้ ใครที่จะมาทำอะไร เห็นขู่กันจังข้างนอก ก็ลองมาแล้วกัน ไม่ได้ท้าทาย คิดว่าป้องกันตัวเองได้ การบอกว่าเอากำลังมาปิดกั้นที่สามเหลี่ยมดินแดงเพื่อปกป้องบ้านตนนั้น เป็นการชักชวนให้คนไม่เข้าใจหรือไม่ บริเวณดังกล่าวเป็นเส้นทางคมนาคม ทำให้การจราจรติดขัด แฟลตดินแดงเดือดร้อน แล้วจะทำไปทำไม จะมาจับตนได้หรือไม่
ภายหลังจากนายกฯ ชี้แจงจบ นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทยลุกขึ้นสอบถามอีกครั้งว่า เรื่องที่ พูดไปเมื่อสักครู่ ขณะนี้ได้ย้ายจากชั้น 3มาชั้น 2 ประเทศจีนมีเกมเปลี่ยนหน้า แต่ประเทศไทยมีเกมเปลี่ยนหัว ไม่อยากให้เป็นเรื่องจริง สงสารประชาชน
ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ลุกขึ้นชี้แจงทันทีว่า ที่กล่าวหามีคนมาพบ ไม่ใช่คนแบบนั้น มีคนมาพบเพราะไม่ค่อยได้เจอกัน มาคารวะ ให้กำลังใจ ผมไม่ทำบ้าๆ บอๆ ไม่ทำถุงขนมอยู่แล้ว.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |