กำราบเหิมล้มนายกฯ บิ๊กตู่ปรี๊ด!ไม่ยุบสภาเมินปรับครม.‘ธรรมนัส’ร้อนตัวไอ้ห้อยเสี้ยม


เพิ่มเพื่อน    

"บิ๊กตู่" ลั่นในสมองไม่ยุบสภา-ปรับ ครม. ใครเชื่อก็โง่ ตอกคนปล่อยข่าวโหวตล้มนายกฯ ไม่ใช่สุภาพบุรุษ เตือนระวังตัวไว้ด้วยและยังแอบอ้างเบื้องสูงถือว่าผิดร้ายแรง ยันตัวเองคนเดียวที่มีโอกาสถวายข้อราชการ “ธรรมนัส” พล่านอัดไอ้ห้อยไอ้โหนปล่อยข่าวเสี้ยมคว่ำนายกฯ ขู่สมัยหน้าไม่ส่งลง ส.ส.เมินคุย "ประยุทธ์" ถกแต่กับ "บิ๊กป้อม" เท่านั้น พท.ชี้มาตรการล็อกดาวน์ทำให้คนเป็นหนี้เหมือนเอาถุงดำมาคลุมหัวให้ตาย "บิ๊กช้าง" จับพิรุธเอกสารไอโอของปลอม "ณัฐชา" ท้ากองทัพฟ้องศาล "วิโรจน์" ถล่ม "อนุทิน-ประยุทธ์" จัดหาวัคซีนลวงโลก "อดีต ส.ส.ส้มหวาน-ส.ส.งูเห่า" สวมบทองครักษ์ประท้วงวุ่น นายกฯเฉ่งไม่สมควรที่ ส.ส.อยู่เบื้องหลังม็อบ อย่าใช้โซเชียลมาสู้ เอาความจริงดีกว่าเสียใจที่มีคนตายจากโควิด พร้อมขอโทษถ้าทำให้ไม่พอใจ
    ที่รัฐสภา วันที่ 1 กันยายน มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่ออภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล เป็นวันที่สอง ต่อเนื่องจากวันที่ 31 ส.ค.ที่ผ่านมา  ท่ามกระแสข่าวความเคลื่อนไหวการล็อบบี้ล้มนายกรัฐมนตรี
    โดยช่วงเช้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าร่วมประชุมสภาในการอภิปรายไม่ไว้วางใจวันที่สอง ถึงกรณีคิดว่าจะเป็นตัวแปรต่อการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) หรือไม่ ว่า "ยืนยันว่าผมยังไม่มีความคิดตรงนี้ โดย 2 เรื่องที่ผมขอยืนยันตรงนี้เลย ใครจะไปพูดอะไรก็แล้วแต่ ผมยังไม่มีการปรับ ครม.ในตอนนี้ ผมจะไม่มีการยุบสภาในตอนนี้ ไม่มีในสมองผมเลย เพราะฉะนั้นใครที่ออกไปพูดในลักษณะนี้ระวังตัวไว้ด้วยแล้วกัน เพื่อสร้างความตื่นตระหนกอะไรก็แล้วแต่ในช่วงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็มีหลายข่าว ผมก็ได้ติดตามมาโดยตลอด ถ้ามีใครทำเช่นนั้นจริงผมคิดว่าเป็นคนที่ใช้ไม่ได้"
    เมื่อถามว่า ได้พูดคุยกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ก็คุยกันแล้ว พล.อ.ประวิตรท่านบอกว่าไม่มีอะไร ท่านบอกว่าคุยกับข้างในแล้ว แต่ก็ยังมีการปล่อยข่าวเช่นนี้ออกมาอีก ตนไม่สบายใจ และ พล.อ.ประวิตรก็ไม่สบายใจ 
    เมื่อถามย้ำว่า แต่แรงกระเพื่อมที่เกิดขึ้นมาจากพรรค พปชร. ซึ่งเป็นพรรคแกนนำรัฐบาลเอง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ตนไม่ได้มองตรงนั้น ใครจะเป็นแกนนำหรือไม่เป็นแกนนำ สมาชิกทุกคนต้องเข้มแข็งและต้องยึดมั่นในสิ่งที่เป็นข้อเท็จจริง เพราะฉะนั้นใครไปกล่าวอ้างใครต่างๆ ทั้งหมด อย่าไปเชื่อ ถ้าสงสัยถามนายกฯ ได้ทุกคน นายกฯ อาจจะห่างบ้าง เพราะทำงานคนละบทบาท แต่ตนยินดีให้คำปรึกษาต่างๆ และตนได้เตือนอยู่เสมอว่าการทำอะไรก็ตาม หรือแม้แต่การใช้จ่ายงบประมาณ ขอให้มันบริสุทธิ์ โปร่งใส และถึงมือประชาชนอย่างแท้จริง 
    "เพราะฉะนั้นวันนี้ที่เป็นข่าวมีอยู่ 2-3 เรื่อง คือการโหวตล่มนายกฯ เรื่องนี้ถ้ามันจริงผมถือว่าไม่ใช่สุภาพบุรุษแล้ว เวลานี้ก็ไม่ใช่เวลาที่ต้องมาทำอย่างนั้น ทำไปเพื่ออะไร ผมเข้ามาทำงานก็ทำงาน 100% ทุกเรื่อง ดังนั้นที่มีข่าวว่าจะมีการไปรวมคะแนนเสียงโหวต ซึ่งจริงไม่จริงผมไม่ทราบ ผมถือว่าไม่ใช่สุภาพบุรุษ ถ้าทำแบบนี้ ส่วนที่ 2 อาจจะมีการปล่อยข่าวว่าผมจะยุบสภา ทุกคนก็ตื่นตระหนกไปหมด และมีการไปพูดทำนองเรื่องของกำลังคน ทำให้นายกฯ ไม่มีอำนาจในการยุบสภา และเรื่องที่ 3 มีการแอบอ้างหรือเปล่า ผมยืนยันว่าทุกเรื่องแอบอ้างทั้งสิ้น" 
    เมื่อถามว่า ได้ถาม พล.อ.ประวิตรหรือไม่ว่ามาบีบทำไม นายกฯ กล่าวว่า ไม่ได้ถามอย่างนั้น ตนบอกว่าให้ถามว่ามันมีข่าวอย่างนี้จริงหรือไม่ ก็ไปอ้างไปพูดกันเรื่อยเปื่อยว่านายกฯ ไปถาม ตนไม่จำเป็นต้องไปถามให้เสียศักดิ์ศรี พล.อ.ประวิตรยืนยันกับตนมาโดยตลอดทุกวัน ก็ได้คุยกับท่านตั้งแต่มีข่าวเรื่องนี้เกิดขึ้น ก็บอกว่าจะสืบจะสอบให้ วันนี้ก็มีการสอบแล้ว พล.อ.ประวิตรก็บอกตนว่าไม่มี อาจจะหลงหูหลงตาหรือเปล่าก็ไม่รู้นะ 
    "ยืนยันไม่มีการยุบสภา เรากำลังทำงานหนักอยู่ ทำงานสำคัญ เราจะยุบสภาได้อย่างไร เรื่องที่ 2 การแอบอ้างเบื้องสูงว่าจะมีการเปลี่ยนตัวนายกฯ ถือว่าผิดอย่างร้ายแรง ผมคนเดียวเท่านั้นที่มีโอกาสถวายข้อราชการ คนอื่นไม่มี ชัดเจนไหม" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
    เมื่อถามว่า มีข่าว พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย โดนแซะเก้าอี้ อยากให้คืนโควตาเป็นของพรรค พปชร. นายกฯ กล่าวว่า เอาไปทำอะไร เอาไปทำเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศชาติหรือเปล่า ได้บอกกับหัวหน้าพรรคทั้ง 3-4 พรรคไปแล้ว เราต้องอยู่กันต่อไปให้ได้ก่อน ส่วนในวันหน้าก็เป็นเรื่องของวันข้างหน้า เรื่องเลือกตั้งก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง การทำอะไรก็ตามที่ให้ถูกต้อง ถ้าทำในสิ่งไม่ดีต้องเรียกว่ามันเป็นเรื่องของกรรม ส่วนพรรคเล็กตนไม่ได้พูดคุยเอง แต่มีตัวแทนไปคุยกับหัวหน้าพรรคทั้ง 3 พรรคแล้ว ก็ต้องขอขอบคุณพรรคเล็กทุกพรรค ตนให้ความสำคัญทั้งหมด ส่วนเรื่องที่กล่าวหาว่าตนทุจริต ขอให้ไปตรวจสอบมา บางทีก็พูดสนุกพูดเอามัน ประชาชนเข้าใจมากขึ้น เราจะเดินการเมืองแบบเดิมกันไม่ได้แล้ว นี่คือการปฏิรูปการเมือง ซึ่งต้องเริ่มจาก ส.ส.ทุกคน 
    ผู้สื่อข่าวถามว่า แล้วจะแก้ปัญหาการเมืองนอกสภาอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า ตนก็ได้มีการชี้แจงไปหมดแล้ว แต่ไปปล่อยข่าวว่านายกฯ จะยุบสภา แล้วต้องทำให้นายกฯ ไม่สามารถยุบสภาได้ ต้องเอานายกฯ ออกตอนนี้ อันนี้คือข่าวนะ เรื่อง 2 มีเปลี่ยนแปลงมาไม่เอานายกฯแล้ว ปัดโธ่เรื่องแบบนี้อย่าไปฟังเลยใครเชื่อก็โง่แหละ โง่จริงๆ
"ธรรมนัส"อัดไอ้ห้อยเสี้ยมล้มนายกฯ    ต่อมาเวลา 16.20 น. พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางออกจากอาคารรัฐสภาด้วยท่าทีผ่อนคลาย โดยผู้สื่อข่าวถามว่าอารมณ์ดีหรือยัง นายกฯ กล่าวด้วยสีหน้ายิ้มว่า "ดีเสมอ" เมื่อถามว่าได้คุยกับ ร.อ.ธรรมนัสหรือยัง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า "ทำไมต้องคุยล่ะ" เมื่อถามอีกว่ามีกระแสข่าวว่าเป็นผู้เคลื่อนไหวเกี่ยวกับการล็อบบี้คะแนนเสียงโหวตในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เป็นเรื่องของเขา ว่าไป ผู้สื่อข่าวระบุว่า ร.อ.ธรรมนัสปฏิเสธว่าไม่ได้ล็อบบี้เสียงจาก ส.ส. พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่รู้เหมือนกัน เขาพูดแล้วเหรอ ไม่รู้
    มีรายงานว่า เมื่อช่วงเที่ยง พล.อ.ประยุทธ์ได้เรียกนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน และรองหัวหน้า พปชร. นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้า พปชร. และ ส.ว.บางคนเข้าพบ เพื่อพูดคุยถึงกระแสข่าวลือต่างๆ ในขณะนี้
    ด้าน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ และเลขาธิการพรรคพปชร. ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวอยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวล้ม พล.อ.ประยุทธ์ ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า ยืนยันว่าไม่เคยสนใจหรือใส่ใจเรื่องตำแหน่งหน้าที่ และพูดมาเสมอว่าจากลูกชาวนา เด็กบ้านนอก คนจน มาถึงทุกวันนี้ และได้ทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองถือว่าชีวิตสูงสุดแล้ว ส่วนที่เหลือถ้ามีโอกาสทำงานเพื่อชาติบ้านเมือง รับใช้แผ่นดิน รับใช้ประชาชนก็จะทำให้ดีที่สุด การจะมาแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นในรัฐบาล ในคณะรัฐมนตรีเดียวกัน ไม่ใช่พฤติกรรมของตน 
    “ข่าวลือที่ออกมาว่าผมจะทำอันนู้นอันนี้ ไม่เป็นความจริง และมีข่าวที่ได้ยินมาจาก ส.ส.ที่โทรศัพท์มาหาว่ามีหัวหน้าพรรคการเมืองพรรคเล็กคนหนึ่งเสนอรับเงิน 10 ล้านบาทเพื่อต่างตอบแทน และร้ายไปกว่านั้นมีรัฐมนตรีในพรรค พปชร.รับงานมาล็อบบี้ ส.ส.พรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ และ พปชร.ในการโหวตสนับสนุนใครคนใดคนหนึ่ง ต้องถามว่าคนเป็นรัฐมนตรีสมควรทำอย่างนั้นหรือไม่ เพราะควรเห็นแก่ประโยชน์ของชาติบ้านเมือง ไม่ต้องใคร 4 ช.ที่ว่ากัน ฝากไปบอกเขาด้วยว่า ทำอะไรเพื่อบ้านเพื่อเมืองบ้าง อย่าเห็นผลประโยชน์ส่วนตัว"
    ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการโยงชื่อ ร.อ.ธรรมนัส เป็นหนึ่งในขบวนการล้มนายกฯ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้ระบุชัดเจนว่า 1 เสียงของ ส.ส.คือเสียงจากประชาชน ส.ส.รู้จักคิด รู้จักทำว่าควรจะทำอะไร ไม่สามารถไปครอบงำอะไรได้ มติพรรคจะให้ทำอย่างนั้นอย่างนี้ไม่ได้ เพราะผิดรัฐธรรมนูญ พรรค พปชร.ไม่มีอย่างนั้น ใครมาถามก็บอกไปว่าดูแล้วกัน และให้ตัดสินใจเอง ตนไม่ได้ถูกใช้ให้มาล็อบบี้ใคร ไม่ว่าจะให้ช่วยรัฐบาลหรือไปรับรองพรรคอื่นให้มาช่วยหรือโหวตคว่ำใครคนใดคนหนึ่ง คนเต้าข่าวไม่ใช่ฝ่ายค้าน พรรคฝ่ายรัฐบาล ไอ้ห้อยไอ้โหนทั้งหลายชอบเลียแข้งเลียขาสำเหนียกซะบ้าง ผมรู้หมดแล้ว บางคนบันทึกเทปไว้หมดแล้ว ระวังเดี๋ยวเจอกัน
    เมื่อถามว่า ขณะนี้ยังคุยกับ พล.อ.ประยุทธ์อยู่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ขอถามกลับไปหาไอ้ห้อยไอ้โหนว่าเคยทำเหมือนตนหรือไม่ ที่นำนโยบายของนายกฯ นำไปสู่การปฏิบัติให้เกิดประโยชน์กับประชาชนและชาติบ้านเมือง มัวแต่ห้อยโหนอย่างนี้ประเทศชาติจะเจริญได้อย่างไร ตนพูดเสมอว่าไม่โกรธใคร ไม่แค้นใคร ตนไม่ได้คุยกับนายกฯ ตนคุยกับหัวหน้าพรรคตน ในการประชุมพรรค พปชร.เมื่อวันที่ 30 ส.ค.ที่ผ่านมา ถามพี่น้องทุกคนเลยว่าตนพูดอะไรเกี่ยวกับการเลื่อยขา มท.1 ได้ยินจากปากตนเหรอ 
    "ผมเป็นคนจำนาน และจำดี แต่ไม่ใช่การแก้แค้น ถ้าคนเหล่านั้นไม่แก้ไขก็ถูกประชาชนลงโทษเอง และบอกได้เลยว่าถ้ายังเป็นแกนนำพรรค พปชร. ส.ส.ที่เป็นไอ้ห้อยไอ้โหนทั้งหลายสมัยหน้าไม่ได้ลงหรอก" ร.อ.ธรรมนัสกล่าว  
    หลังจากที่ ร.อ.ธรรมนัสให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนแล้ว ได้เข้าพบ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่ห้องพักรับรองที่ชั้น 2 อาคารรัฐสภา จนกระทั่งเมื่อเวลา 17.40 น. ได้เดินออกจากห้องของ พล.อ.ประวิตร ทั้งนี้ ยังคงต้องจับตาความเคลื่อนไหวหลังจากนี้ ก่อนถึงวันลงมติไม่ไว้วางใจในวันที่ 4 ก.ย.
    นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลของฝ่ายค้านผ่านมาวันหนึ่งว่า ตนไม่ได้ฟังตลอดทั้งวัน แต่เท่าที่ฟังจากการอภิปรายของนายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน ก็ถือว่าใช้ได้ เพียงแต่อาจต้องขยายความอีกเยอะ ซึ่งนายสุทินก็บอกว่าจะพูดในวันสุดท้าย ซึ่งก็ต้องรอฟัง ทั้งนี้ยอมรับว่าถ้อยคำที่ฝ่ายค้านอภิปรายในสภาค่อนข้างใช้คำที่รุนแรง หากเกิดเหตุการณ์ เช่นกรณีเสียงไว้วางใจของนายกรัฐมนตรีไม่ถึงครึ่งหนึ่งตามที่มีข่าว นายกฯ ก็ต้องพ้นจากตำแหน่งไป รัฐบาลก็ต้องล้มทั้งหมด
    นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ทีมวอร์รูมนอกสภาได้ติดตามการอภิปรายของฝ่ายค้านตลอดวันแรก เห็นว่าภาพรวมเป็นการอภิปรายที่จืดชืดไม่เหมือนราคาคุย ใช้วาทกรรมโจมตีเพื่อจ้องล้มนายกฯ และเอาใจนายใหญ่เท่านั้น เห็นได้ตั้งแต่อภิปรายเปิดหัวของนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ ที่เหมือนผู้นำขายหัวเราะพูดนามสกุลของนายกฯ ผิดพลาดถึงสองครั้ง แสดงให้เห็นถึงความไม่ตั้งใจ
ยังเล่นเกมนอกสภา มี ส.ส.มุกดาหารของพรรคเพื่อไทย ให้หัวคะแนนประชาชนขับไล่นายกฯ เป็นการทำการเมืองนอกสภา บวกกับวอร์รูมของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ดูไบ เพื่อล้มรัฐบาลกลับมามีอำนาจ 
พท.อัดล็อกดาวน์ทำหนี้ท่วม
    ด้านนายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย (พท.) และประธานวิปฝ่ายค้าน ให้สัมภาษณ์ถึงภาพรวมการอภิปรายวันแรกว่า ถือว่าพอใจการทำงานของฝ่ายค้าน แต่ยังไม่สูงสุดเนื่องจากข้อบังคับของสภาทำให้เกิดปัญหา มีข้อมูลลึกๆ ที่เราอยากเปิดเผยแต่ไม่สามารถอภิปรายเบื้องหลังได้ เช่น คนอยู่เบื้องหลังวัคซีนยี่ห้อซิโนแวคเป็นใคร พอจะบอกชื่อและไล่เรียงโครงสร้างความเชื่อมโยงระหว่างรัฐบาลกับบริษัทเอกชน ประธานที่ประชุมจะตัดบทอยู่ตลอด คิดว่าควรมีการทบทวนข้อบังคับของสภา เกี่ยวกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถทำได้เต็มที่ จึงจะลองบอกผู้อภิปรายให้ปรับกลยุทธ์นำเสนอข้อมูลแบบใหม่ให้ใช้อักษรย่อ 
    เมื่อถามว่า นายกฯ ยืนยันว่าจะไม่มีการยุบสภา นายสุทินกล่าวว่า แบบนี้เป็นการดื้อ โอหังบ้าอำนาจชัดเจน เพราะยังฟังฝ่ายค้านอภิปรายไม่จบ ทำไมไม่ฟังให้จบก่อน แสดงว่าวันนี้นายกฯ ปิดฉากการรับรู้แล้ว นายกฯ กำลังเป็นโรคที่น่าเป็นห่วงมากสำหรับคนเก่งๆ คือโรคแพ้ไม่เป็น อันตรายมาก มันจะส่งผลสองทางคือไปทำลายผู้อื่นกับฆ่าตัวตาย จุดจบมีสองอย่าง เมื่อท่านไม่ออกจะมีคนปลดท่านหรือจบแบบอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ คือฆ่าตัวตาย นายกฯ ยืนยันว่าจะไม่ออกใช่หรือไม่ แต่ผมสังหรณ์ว่าจะมีคนปลดท่าน
    ในการประชุมสภา เริ่มขึ้นเมื่อเวลา 09.00 น. มีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯ คนที่ 2 เป็นประธานการประชุม มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลเป็นวันที่สอง โดยนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย เป็นผู้อภิปรายคนแรกว่า มาตรการล็อกดาวน์ที่ผ่านมาสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจ 2-3 แสนล้านบาทต่อเดือน เป็นการล็อกดาวน์ไม่มีแบบแผน เยียวยาเหมือนจับสลากชิงโชค ทำให้มีตัวเลขว่างงานในระบบเกือบล้านคน สูงสุดเป็นประวัติการณ์ เด็กจบใหม่หลายล้านคนหางานทำไม่ได้ ไม่แปลกใจที่เด็กออกมาขับไล่รัฐบาล ความเสียหายเหล่านี้ต้องใช้เวลาหลายสิบปีฟื้นความสามารถการแข่งขันกลับมา การบริหารของ พล.อ.ประยุทธ์ทำให้หนี้ครัวเรือนสูงที่สุดกว่า 90% ทุกครัวเรือน ทุกหมู่บ้านมีแต่หนี้นอกระบบเต็มไปหมด ไม่ต่างอะไรกับการเอาถุงดำมาคลุมหัวคนไทยให้ตาย การมีผู้นำผิดสักคน นำประเทศลงเหว คนไทยยากจน แต่เจ้าสัวกลุ่มหนึ่งรวยขึ้นๆ คนไทยชอกช้ำการโกหกของ พล.อ.ประยุทธ์ นายกฯ หลายประเทศประกาศลาออกเพราะบริหารโควิดผิดพลาด แต่นายกฯไทยบอกมึงมาไล่ดูซิ นี่คือความโอหังคลั่งอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ 
     จากนั้นเวลา 11.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ ชี้แจงยืนยันว่า ทำเพื่อประเทศชาติตลอด แต่ฝ่ายค้านไม่มองแง่มุมดีๆ ไม่เคยเปรียบเทียบกับรัฐบาลก่อนหน้านี้ ขอความเป็นธรรมให้รัฐบาลชุดนี้และตนด้วย ส่วนที่มีการกล่าวถึงจีดีพีของประเทศตกต่ำนั้น ฝ่ายค้านฉวยโอกาสช่วงโควิด ตอนนี้ไม่มีประเทศใดที่จีดีพีสูง ถ้าเก่งจริง ฝ่ายค้านน่าจะทำให้จบตั้งแต่เป็นรัฐบาล ตนยิ่งฟังที่ฝ่ายค้านพูดก็รู้สึกอเนจอนาถใจ เพราะไม่มีข้อเท็จจริงและบิดเบือน ในฐานะที่พวกท่านเป็น ส.ส.ต้องช่วยกัน อย่าทำให้คนแตกแยกเป็นสองฝ่าย และไม่เห็นเป็นการสมควรที่มี ส.ส.อยู่เบื้องหลังการชุมนุม อย่าลืมกฎหมาย ตนก็กลัวกฎหมาย กลัวการทุจริต เพราะมีตัวอย่างถูกลงโทษให้เห็นเรื่องการหนีคดี ไม่ต้องมาขู่ ตนเคารพกระบวนการยุติธรรม อย่าขู่บ่อยนัก
     พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า หลายอย่างอย่าให้ดรามามากนัก เอาข้อมูลโชเซียลมาพูด ต้องวิเคราะห์ข้อมูลให้ดี ขอให้เข้าใจการทำงานว่ารัฐบาลต้องทำงานแก้ปัญหาเดิมที่หมักหมมยาวนาน วันนี้มาเจอโควิด ก็ต้องแก้โควิดด้วย จะบอกไม่มีอนาคตได้อย่างไร อย่าทำลายความเชื่อมั่นไปหมด อย่าฉวยโอกาสช่วงสถานการณ์วิกฤตในเรื่องขบวนการประชาธิปไตย ตนฟังเสียงประชาชน สำหรับเรื่องวัคซีนอย่าทำให้เป็นเรื่องการเมือง ด้อยค่าไปเรื่อยๆ ถามว่าวันหน้าจะได้อีกไหม เราเอาเข้ามาหมด แต่ไม่ใช่ผลีผลาม มีให้ฉีดก็ด้อยค่า มีใหม่มาก็หวาดระแวง อย่าเอาโซเชียบมาสู้กับตน เอาข้อเท็จจริงมาสู้กับตนดีกว่า    
    “การเมืองก็คือการเมือง ผมเข้าใจ บอกว่าพวกผมบริหารไม่ดี เพราะโควิด แล้วประเทศอื่นๆ มีโควิดไหม มีการบาดเจ็บล้มตายมากกว่าเราบ้างหรือไม่ ผมเสียใจ และผมก็ขอโทษ ถ้าทำอะไรแล้วไม่พอใจ ผมลูกผู้ชายพอ ไม่ใช้วิธีแยบยลบ่อนทำลาย ผมเคารพนับถือหลายท่าน หลายคนดี หลายคนรับใช้ประเทศชาติ” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว  
    จากนั้น เวลา 12.18 น. พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม ชี้แจงกรณีที่นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล อภิปรายไม่ไว้วางใจเรื่องประเด็นเอกสารปฏิบัติการข้อมูลข่าวสาร (ไอโอ) ของกองทัพภาคที่ 2 ว่า เรื่องเหล่านี้ตนได้ชี้แจงในสภามา 2-3 ครั้งแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ไม่เคยมีนโยบายสั่งการให้หน่วยงานใดของกองทัพหรือใน กอ.รมน.ไปปฏิบัติการข่าวสารในลักษณะบิดเบือนหรือไปให้ร้ายกับบุคคลใด แต่ปัจจุบันในโซเชียลมีการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่บิดเบือนและมีเฟกนิวส์มีข่าวลวงข่าวปลอม หน่วยงานความมั่นคงจำเป็นต้องก้าวทันต่อสถานการณ์มีการติดตามข้อมูลที่เผยแพร่เพื่อสร้างการรับรู้ให้กำลังพลของหน่วยรวมถึงครอบครัวและประชาชนทั่วไป สำหรับเอกสารที่ ส.ส.นำมาอภิปรายนั้น ทางกองทัพและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าไม่เป็นเอกสารจริง พบจุดพิรุธต่างๆ อาทิ ลายเซ็นของแม่ภาคที่ 2 ก็ไม่ตรงกับของจริง นามสกุลรองแม่ทัพภาคที่ 2 ก็พิมพ์ไม่ถูกต้อง เลขที่หนังสือที่ออกหนังสือนั้นถึงวันที่ 31 ส.ค. 2564 มีเพียง 815 ฉบับ และยังไม่ถึงเลขที่ 1148 ตามหนังสือที่พรรคก้าวไกลนำเสนอ
"งูเห่าก.ก."สวมบทองครักษ์
     กระทั่งเวลา 14.45 น. นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม.พรรคก้าวไกล ลุกขึ้นสอบถาม พล.อ.ชัยชาญ ว่าอยากให้ตอบให้ชัดอีกครั้งว่าคลิปวิดีโอ และรูปต่างๆ ที่ตนใช้อภิปรายถึงปฏิบัติไอโอนั้นจริงหรือไม่ การที่บอกว่าลายเซ็นไม่เหมือนบ้าง พิมพ์ชื่อผิดบ้าง ตนไม่อาจไปสอนภาษาไทยในกองทัพได้ ส่วนเอกสารที่ท่านบอกไม่จริง แต่ตนบอกว่าจริง ขอให้ไปว่ากันในชั้นศาล ตนยินดีรับผิดชอบทุกเอกสารที่นำมาเสนอในที่นี่ ยินดีให้ศาลตัดสิน และขอเชิญพยานทั้งกว่า 100   คนในบัญชีรายชื่อ และ กอ.รมน.กว่า 20 คน เพราะยกหูโทรแล้ว 
     ด้าน พล.อ.ชัยชาญชี้แจงว่า ตอบไปชัดเจนแล้ว เอกสารหลักฐานที่ให้มาเป็นการตรวจสอบเบื้องต้นว่าเป็นเอกสารที่ไม่จริง ซึ่งตอนนี้กองทัพบกและกองทัพภาคที่ 2 ที่ได้รับความเสียหายกำลังตรวจสอบเอกสารทั้งหมด รวมถึงคลิปที่นำมาอภิปรายนั้นเป็นจริงหรือไม่ เพื่อดำเนินการต่อไป
    เวลา 15.40 น. นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายโจมตีการจัดหาวัคซีน การบริหารจัดการวัคซีนของ พล.อ.ประยุทธ์ และ นายอนุทิน แต่บรรยากาศตลอดการอภิปรายเต็มไปด้วยการประท้วงจากอดีต ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ เนื่องจากนายวิโรจน์ใช้ถ้อยคำรุนแรงเสียดสี พาดพิงบุคคลภายนอกบ่อยครั้ง โดยนายวิโรจน์อภิปรายว่า นายอนุทินเคยพูดว่า ในไตรมาส 3 จะมีวัคซีนเต็มแขนคนไทย ไม่คิดว่าคนเป็นรัฐมนตรีจะมาโกหก การฉีดวัคซีนเป็นไปอย่างกระท่อนกระแท่น มีการเลื่อนฉีดวัคซีนเป็นระยะๆ ขณะที่นายกฯ ก็จัดหาวัคซีนลวงโลก 
    เมื่อถึงช่วงนี้ นายคารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ที่ไปนั่งในที่นั่งพรรคภูมิใจไทย ลุกขึ้นประท้วง ทำให้นายวิโรจน์พูดขึ้นมาทันที เชิญครับงู นายคารมประท้วง ประธานที่ควบคุมการประชุม เพิกเฉยต่อที่ผู้อภิปรายบอกว่า ลวงโลก เมื่อนายสุชาติ ตันเจริญ ที่ทำหน้าที่ประธานการประชุมวินิจฉัย การอภิปรายยังอยู่ในญัตติ ทำให้นายวิโรจน์ ระบุกลับมาว่า ขอบคุณท่านประธาน ท่านเก่งนะครับ ฟังภาษางูรู้เรื่อง 
    นายวิโรจน์ยังกล่าวถึง พล.อ.ประยุทธ์ว่าไม่สามารถจัดหาวัคซีนมาได้ทันในเดือนสิงหาคมตามที่เคยพูดเอาไว้ ถือเป็นการจัดหาวัคซีนลวงโลก จากนั้นได้เปิดคลิปช่วงหนึ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์พูดถึงบริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ฯ ที่ทำหน้าที่ผลิตวัคซีน และพูดไปถึง ร.9  ร.10 หลังจากเปิดคลิป นายวิโรจน์อภิปรายต่อไปอีกว่า พล.อ.ประยุทธ์นำสถาบันมาอ้าง มาวันนี้ไม่รู้จะเกิดความเสียหายกับสถาบันไปถึงไหน 
    ทำให้ พ.ต.ท.ฐนภัทร กิตติวงศา ส.ส.จันทบุรี พปชร. ซึ่งเป็นอดีต ส.ส.ที่ถูกขับออกจากพรรคอนาคตใหม่ ลุกขึ้นเตรียมประท้วง นายวิโรจน์พูดสวนมาว่า ขอให้ประธานนำกำมะถันมาโรยในที่นี้ด้วย รู้สึกงูจะเพ่นพ่านเหลือเกิน พ.ต.ท.ฐนภัทรกล่าวว่า ผู้อภิปรายเสียดสี ผมรักสถาบัน ปกป้องสถาบัน เทิดทูน ไม่ควรนำสถาบันมาพูดเล่นๆ ในที่นี้ อย่ามาพูดเล่นๆ กัน สำเนียงส่อภาษา กิริยาส่อสกุล 
    ต่อมานายวิโรจน์ยังคงอภิปรายโจมตี ยังคงเสียดสี ใช้ถ้อยคำกล่าวหาการไม่ยอมเข้าร่วมโครงการโคแวกซ์ กระบวนการจัดหาวัคซีนล่าช้า พาดพิงบางบริษัทที่ทำหน้าที่ผลิตวัคซีน ทำให้ ส.ส.พลังประชารัฐ ส.ส.ภูมิใจไทย ลุกขึ้นประท้วงอยู่เป็นระยะๆ เพราะเห็นว่าผู้อภิปรายมีความจงใจ บิดเบือนใส่ร้าย ทำให้คนเข้าใจผิดอย่างร้ายแรง ทำให้นายสุชาติที่ควบคุมการประชุมต้องขอให้ถอนคำพูด เพราะในสภาไม่มีงู . 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"