สถานการณ์โควิด-19 ยังเรียกว่ามาแรงดีไม่มีตก โดยล่าสุดทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อไปแล้ว 218,567,442 คน และเสียชีวิต 4,534,151 ราย โดยคุณพี่สหรัฐอเมริกาก็ทำลายสถิติทะลุ 40 ล้านคนไปแล้ว โดยอยู่ที่ 40,114,099 ราย ในขณะที่ คุณน้องไทยแลนด์ก็ใช่ย่อย ไต่มาเรื่อยๆ ตอนนี้ก็ขึ้นมาอยู่อันดับท็อป 30 แล้ว โดยอยู่ที่อันดับ 29 ซึ่งมีผู้ติดเชื้อ 1,219,531 คน เพิ่มขึ้น 14,802 คน และเสียชีวิต 11,841 คน เพิ่มขึ้น 252 คน ส่วนจะแซง “แดนปลาดิบ” ในอันดับที่ 28 ซึ่งยังคงได้รับผลพวงจากการจัดโอลิมปิกหรือไม่ ต้องติดตามกันแบบตาไม่กะพริบทีเดียว ...๐

เรียกว่าหลายคนมองโลกในแง่ดีอย่างมาก ที่ตัวเลขของพี่ไทยลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากซีกกระทรวงสาธารณสุขอย่าง “นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต” ปลัด สธ. ที่ระบุว่า 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาตัวเลขผู้ป่วยใหม่ลดลง ดูได้จาก รพ.สนามต่างๆ แต่ก็ใช่จะวางใจได้ ขณะเดียวกัน “หมอเบิร์ท” หรือ พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษก ศบค.ก็บอกไว้ในการแถลงข่าวว่ายังให้คงสภาพของโรงพยาบาลสนามไว้ก่อน อย่าเพิ่งรื้อหรือยุบทิ้ง!!! นั่นก็หมายความว่ามีโอกาสที่ “โควิดสายพันธุ์เดลตา” อาจคัมแบ็กมาได้จากมาตรการผ่อนคลายล็อกดาวน์ทั้งการเปิดห้างและการให้นั่งทานในร้านอาหารนั่นเอง ซึ่งตัวเลขจะกลับมาโดดเด้งอีกครั้ง หรือจะทรงตัวและลดลงนั้น คงต้องจับตาในช่วงต้นสัปดาห์หน้าเป็นต้นไป ...๐

พูดถึงเรื่องตัวเลขผู้ติดเชื้อแล้วก็ได้แต่ส่ายหัวกับข้อมูลของพรรคฝ่ายค้าน โดยเฉพาะจาก “นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว” ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ที่ประโคมโหมด่ามาตั้งแต่ก่อนกฐินอภิปรายจนมาถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่ารัฐบาลอาจมีการตกแต่งตัวเลขให้ดูต่ำกว่าความเป็นจริง แหม! นี่ถ้าเป็น ส.ส.ที่ไม่ใช่หมอ และไม่เคยเป็น “ดาวเด่นสภา” ในปี 2552 ก็ต้องอาจทำใจได้ แต่นี่เป็นทั้งหมอและอดีตดาวเด่น งานนี้บอกเลยว่าผิดหวังอย่างมาก หรือเพราะอยู่กับพรรคที่มี “สัมภเวสี” เป็นเจ้าของมานานเลยทำให้เลอะเทอะเปรอะเปื้อนเหมือนตอนฆ่าตัดตอนยาเสพติดที่นับตับเลขไม่ถูกกันจ๊ะ ...๐

งานนี้หมอชลน่านต้องไม่ลืมว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อนั้นต้องเปิดเผยในระดับสากล ไม่ใช่แค่มุบมิบในประเทศเท่านั้น หากมีการตบแต่งตัวเลขจริงมันไม่ใช่เรื่องฉิบหายแค่รัฐบาลเท่านั้น แต่มันจะพากันซวยทั้งประเทศ ที่ทั่วโลกจะบอยคอตและไม่เชื่อถือสถานะของประเทศไทยอีกต่อไป การจะด่าว่ารัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ เพราะไม่ชอบหรือเกลียดชังอะไรคงไม่มีใครว่า แต่การเป็นถึงหมอและอดีตดาวเด่นก็น่าจะเหลือพื้นที่แห่งความยุติธรรมในจิตใจบ้างก็น่าจะดี ...๐

งานนี้จึงไม่น่าแปลกที่ “บิ๊กตู่” ที่วันแรกของศึกอภิปรายจะตอบแบบถ้อยทีถ้อยอาศัย แต่ดูเหมือนวันที่สองแล้ว “ลุงตู่” ก็คงเกิดอาการรมณ์บ่จอยนั่นแล จึงได้เริ่มตอบโต้ในหลายดอก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่บอกว่าอเนจอนาถใจกับข้อมูลของฝ่ายค้านที่เอาเรื่องโซเชียลมาโจมตีบ้าง หรืออย่าดรามามากนักโดยเฉพาะเรื่องการเอาข้อกฎหมายมาขู่ รัฐบาล แต่ที่น่าจะเป็นไฮไลต์ประจำวันคือการกล่าวเสียใจและขอโทษกลางสภา ก่อนจะยิงตรงไปยังฝ่ายค้านว่า “บางคนรักตัวเองมากกว่า ขอให้เลิกซะที ขอให้นึกถึงประเทศ อย่าคิดจ้องทำลายกันทุกวัน” แหม! ลุงตู่อาจเข้าใจผิดจริงๆ ก็ได้ เพราะจริงๆ ก็ไม่ได้รักตัวเองเท่าไหร่หรอก แต่รัก “นายเหนือ” มากกว่าต่างหาก ...๐

แล้วที่ขำไม่ออกอีกกรณีในศึกไม่ไว้วางใจของ “พรรคก้าวไกล” ในอุ้งมือ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” เพราะหลัง “ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์” ส.ส.กทม.พรรคก้าวไกล ในช่วงค่ำวันอังคารว่าด้วยไอโอ บรรดาเครือข่ายของพรรคต่างก็ส่งคลิป แชร์ข้อมูลกันอย่างเมามันในเรื่องดังกล่าว แต่เมื่อ “พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล” รมช.กลาโหม ออกมาชี้แจงเอกสารดังกล่าว พร้อมจับโป๊ะทั้งเรื่องลายเซ็นและเลขที่หนังสือ  ส.ส.ก้าวไกลกลับเงียบฉี่ มีเพียง “วิโรจน์ ลักขณาอดิศร” ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ลุกประท้วงว่าชี้แจงไม่ตรงประเด็น เพราะถามเรื่องอมเบี้ยงเลี้ยงเจ้าหน้าที่ไอโอ พิโธ่! วิโรจน์จ๋า ลองหันไปปรึกษา “หัวหน้าพิธา” เจ้าของทฤษฎีกระดุม 5 เม็ดก่อนไหม เพราะทฤษฎีที่ทำให้ชาวประชาจดจำนั้นก็บอกว่า ถ้ากลัดกระดุมเม็ดแรกผิดมันก็ผิดต่อไป แล้วนี่เอาเอกสารไม่จริงมาอภิปรายก็เท่ากับกลัดกระดุมเม็ดแรกมั่วซั่วแล้วพ่อคุณ ...๐

ทิ้งท้ายด้วยข่าวดีสำหรับมนุษย์เงินเดือน เมื่อสำนักงานประกันสังคม (สปส.) เปิดให้ผู้ประกันตนยื่นขอทบทวนสิทธิรับเงินเยียวยา ได้ตั้งแต่วันที่ 1-30 ก.ย. และสามารถตรวจสอบสิทธิได้ที่ www.sso.go.th โดยใช้เพียงเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก และหากตรวจสิทธิผ่านก็จะได้รับเงินในวันที่ 15 ก.ย.นี้ แหม! ในเมื่อทบทวนสิทธิแล้วทั้งทีก็ควรที่จะจ่ายเงินให้เร็วกว่านี้ซักหน่อยนะทั่นรัฐมนตรีแรงงานสุชาติ ชมกลิ่น ...๐

ท.ศักดิ์