ฮื่ออ์อ์อ์...ท่าทางน่าจะหนักไปทางวืดๆ วาดๆ ฟืดๆ ฟาดๆ ไม่ต่างไปจากเดิมๆ สำหรับการอภิปรายไม่ไว้วางใจเที่ยวนี้ เท่าที่มีโอกาสได้ดูช่วงยกแรกๆ เรียกว่า...ดูไป-ดูมา เลยหนีไม่พ้นต้องกดปุ่ม หันไปดูไอ้เด็กเกรียน อย่าง นิก เคียร์อีออส นักเทนนิสชาวออสเตรเลีย ถูกนักเทนนิสสเปน เบาติสตา อากุต หวดทิ้งจนแทบไม่เหลือราคา ในศึก ยูเอส โอเพน กันไปแทนที่...
              -----------------------------------------------
    คืออย่างที่ว่าเอาไว้แล้วนั่นแหละว่า...ด้วยเหตุเพราะสิ่งที่เรียกว่า หิริ และ โอตตัปปะ ของบรรดา นักการเมือง ยุคนี้ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล ก็แล้วแต่ มันแทบไม่เหลือติดปลายนวมซักเท่าไหร่ การ อภิปรายไม่ไว้วางใจ หรือการประหารชีวิตกันในทางการเมือง มันเลยออกจะหนักไปทาง ดิเกร์ (ลิเก) ซะเป็นหลัก ไม่ว่าจะใช้คำพูด คำจา ในระดับดุเดือด รุนแรงกันไปถึงขั้นไหน หรือไม่ว่าจะยกช้ง ยกชาร์ต ฉายสไลด์ แพร่วิดีโอคลิป ให้เห็นกันแบบจะจะคาตา แต่สุดท้าย...มันคงไม่ได้ก่อให้เกิดอะไรใหม่ หรือออกไปทาง งั้นๆ ไม่ได้ก่อให้เกิดความตื่นเต้น เร้าใจ เกิดความจำเป็นที่จะต้อง ตามไปดู อะไรกันมากมาย...
                 ---------------------------------------------------
    และโดยความน่าเบื่อ น่าหน่าย ทำนองนี้ เผลอๆ...อาจลุกลามไปไกลถึง ระบบรัฐสภา ทั้งระบบเอาเลยก็ไม่แน่!!! ที่ออกจะเป็นอะไรที่เรื่อยๆ เฉื่อยๆ ยากที่จะเป็นที่พึ่ง ที่พิง ที่หวัง ที่คาด ได้ยิ่งเข้าไปทุกที คือไม่เพียงแต่จะกลายเป็นระบบ วินเนอร์ เทก ออล หรือผู้ชนะ ผู้ที่เป็นรัฐบาล กลายเป็นผู้กินรวบในทุกสิ่งทุกอย่าง แต่บรรดาพวก ลูเซอร์ หรือผู้ที่ตกเป็นฝ่ายแพ้ เป็นฝ่ายแค้น ฝ่ายค้าน ก็ดูจะไม่ได้พยายามรักษาเครดิต รักษามาตรฐาน ในการถ่วงดุล ตรวจสอบ อย่างเท่าที่ควรจะเป็นเอาเลยแม้แต่น้อย เผลอเมื่อไหร่ต้องเรียกหา กล้วย แอบไปกินกล้วย แปลงสภาพตัวเองไปเป็น งูเห่ากินกล้วย หรือเป็นสัตว์ประหลาดกันไปเป็นรายๆ...
           --------------------------------------------------------
    ด้วยความเป็นไปของ ระบบ ที่มันค่อนข้างเป็นไปในลักษณะดังกล่าว ก็เลยอาจส่งผลไปถึง ระบอบ ให้ดูน่าเบื่อ น่ารำคาญ ยิ่งเข้าไปทุกที ความเป็นประชาธิปไตย อันเคยเป็นอะไรที่ดูสูงส่ง วิเศษวิเสโส ไปกว่าทุกๆ ระบอบ ชนิดแทบไม่ต่างไปจาก ยาสารพัดโรค ผัวกิน-เมียหาย พ่อตาใช้-แม่ยายฟื้น ทาก็ได้ ดมก็ได้ อม-หยอด-สอด-เสียบ ได้ในทุกลักษณาการ ทุกๆ สถานการณ์ แต่ตลอดช่วงระยะ 80 เกือบ 90 ปี ใกล้จะครบหนึ่งศตวรรษเข้าไปแล้ว ก็ยังไม่คิดจะไปไหน ยังวนไป-วนมาอยู่ภายในอ่าง แถมไม่ว่า คุณภาพ หรือ คุณธรรม ของบรรดา นักการเมือง ก็ดูจะถอยหลังเข้าคลอง มุดคู มุดคลอง ดำน้ง ดำน้ำ แบบไม่คิดจะโผล่เอาเลยก็ว่าได้...
             ---------------------------------------------------------
    แต่คงไม่ต่างไปจาก ความเป็นประชาธิปไตย ของพวกฝรั่งทั้งหลายเขานั่นแหละ ไม่ว่าประเภทแม่แบบ พ่อแบบ แต่ละราย ก็ชักทำท่าว่าน่าจะอับตันยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ไม่งั้น...คงไม่มีความคิดที่จะ ยกเครื่อง คิดปรับปรุง เปลี่ยนแปลง กันขนานใหญ่ ระดับ The Great Reset หรือ Build Back Better อะไรไปโน่น เพื่อให้สิ่งที่เรียกว่า ประชาธิปไตย มันยังคงมีโอกาสเป็น ของประชาชน-เพื่อประชาชน-และโดยประชาชน ได้ดังเดิม ไม่กลายไปเป็น ของพ่อค้า-เพื่อพ่อค้า-และโดยพ่อค้า อย่างเท่าที่เป็นไปและกำลังเป็นอยู่ในปัจจุบัน ส่วนจะสามารถบรรลุเป้าหมายไปได้ถึงขั้นไหน อย่างไร อันนั้น...คงต้องติดตามกันต่อไปอย่างเป็นขั้น เป็นตอน...
            --------------------------------------------------------
    อย่างไรก็ตาม...สำหรับพวก เผด็จการ ช่วงนี้ ก็คงไม่ใช่ เป้านิ่ง ที่จะรอคอยให้พวก ประชาธิปไตย สามารถยกเครื่องแล้วแซงหน้าตัวเองไปได้ง่ายๆ ความพยายามปรับปรุง เปลี่ยนแปลงตัวเอง ในระดับ ปฏิวัติ เอาเลยก็ว่าได้ ไม่ใช่แค่ระดับ ปฏิรูป แบบ 7 ปี 8 ปีแล้วยังไม่คิดจะไปไหน ดูน่าจะเริ่มๆ ขึ้นมาบ้างแล้ว ในประเทศคอมมิวนิสต์อย่างคุณพี่จีน ไม่ว่าจะเป็นการตอกย้ำความสำคัญของ การต่อต้านการผูกขาด และ การค้าที่ไม่เป็นธรรม ในการประชุมพรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 21 เมื่อไม่นานมานี้ บรรดา นายทุน ที่เคยยิ่งใหญ่ เกรียงไกร ไม่ว่าจะยักษ์ใหญ่ระดับ Alibaba หรือเจ้าของกิจการแท็กซี่ยอดนิยมที่เพิ่งเอาหุ้นเข้าตลาดสหรัฐเร็วๆ นี้ อย่างนาย Didi Chuxing ฯลฯ เห็นว่าเริ่มอ้วกแตก อ้วกแตน รากเขียว รากเหลือง กันมั่งแล้ว...
           ---------------------------------------------------------
    แถมไปไกลถึงขั้น...ไม่ว่าดารง ดารา ที่ถือเป็น แบบอย่าง เป็น ตัวอย่าง ให้กับเยาวชนในแต่ละราย ถ้าหากดันทำอะไรที่ไม่เข้าท่า-เข้าทางขึ้นมา ไม่คิดจะจ่ายภาษี หลบเลี่ยงภาษี หรือสร้างวัฒนธรรมที่ไม่ดี-ไม่งาม เห็นว่ากำลังโดน ล้างบาง กันไปเป็นแถบๆ ส่วนบรรดาเด็กและเยาวชนที่ควรเติบโตขึ้นมาอย่างมีคุณภาพและคุณธรรม ไม่ใช่กลายเป็นเด็กเกรียน เด็กแว้น เด็กฮ่องกง หรือเด็กทะลุแก๊ส ทะลุฟ้า อย่างบ้านเรา ก็ได้ถูกความเป็นเผด็จการสั่งห้ามเอาดื้อๆ ห้ามไม่ให้เล่นเกมออนไลน์เกินวันละชั่วโมง ในเฉพาะวันหยุดเท่านั้น พร้อมกับการปลดภาระของพวกเด็กๆ ไม่ให้ต้องเสียเวลาเรียนมากมายเกินความจำเป็น ไม่ต้องบังคับสอบโน่น สอบนี่ ตั้งแต่ ป.1-ป.2 ฯลฯลฯ...
              ----------------------------------------------------------
    คือพูดง่ายๆ ว่า...ไม่ว่าทั้ง ประชาธิปไตย หรือ เผด็จการ ช่วงนี้ ต่างพยายามหันมาปรับตัว-ปรับระบบ โดยพยายามยึดเอา ประชาชน เป็นศูนย์กลาง หรือเป็นที่ตั้ง ไม่ว่าจะในระดับ ปฏิรูป หรือ ปฏิวัติ ก็แล้วแต่ โดยใครจะไปถึงดวงดาวก่อนกัน คงต้องคอยติดตามไปเป็นระยะๆ ต่างไปจากประเทศไทยแลนด์ แดนสยาม ของหมู่เฮา ที่ไม่ว่าจะประเภท ประชาธิปไตย หรือ เผด็จการ ก็ตามที ล้วนหนักไปทาง หลังเขา ไปด้วยกันทั้งคู่ ทั้งปวกเปียก ป้อแป้ ปลิ้นปล้อน ไม่ได้ผิดแผก แตกต่าง ไปจากกันมากมายซักเท่าไหร่ ไม่ว่าจะไปลอกแบบประชาธิปไตย หรือลอกเลียนเผด็จการ มาจากที่ไหนต่อที่ไหน ผลสรุปมันเลยออกไปทางวนไป-วนมา หวิดจะครบ 1 ศตวรรษเข้าไปแล้ว...ก็ยังไม่คิดจะไปไหนซักกะที!!!
             ---------------------------------------------------------
    ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้จาก Michael Cibenko (อีกครั้ง)... “One problem with gazing too frequently into the past is that we may turn around to find the future has run out on us.- ปัญหาของการมัวแต่เหลียวหลังมองอดีต ก็คือ เมื่อหันกลับมาปรากฏว่าอนาคตได้ผ่านเลยเราไปแล้ว...”.
         -------------------------------------------------------------