จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งส่งผลกระทบวงกว้างในทุกด้าน รวมถึงด้านการท่องเที่ยว ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งล่าสุดที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มี “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุม ได้เห็นชอบ “แผนฟื้นฟูการท่องเที่ยวของภูมิภาคอาเซียน” ภายหลังการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)
และถ้อยแถลงร่วมรัฐมนตรีท่องเที่ยวอาเซียนว่าด้วยเรื่องแผนฟื้นฟูดังกล่าว พร้อมอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาให้การรับรองผลการศึกษาฉบับสุดท้ายของแผนฟื้นฟู และถ้อยแถลงร่วมรัฐมนตรีท่องเที่ยวอาเซียน
สำหรับผลการศึกษาฉบับสุดท้ายของแผนฟื้นฟูการท่องเที่ยวของภูมิภาคอาเซียน ภายหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นหนึ่งในผลลัพธ์สำคัญทางเศรษฐกิจในช่วงการดำรงตำแหน่งประธานอาเซียน ปี 2564 ของบรูไนดารุสซาลาม รวมทั้งเป็นแผนฟื้นฟูการท่องเที่ยวของภูมิภาคอาเซียน ซึ่งจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการฟื้นคืนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของภูมิภาคอาเซียน ภายหลังการแพร่ระบาดของโควิด
และได้มีการพัฒนาสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ด้านการท่องเที่ยวอาเซียน ปี 2559-2564 และปฏิญญาพนมเปญมุ่งสู่การท่องเที่ยวอาเซียนที่ยั่งยืน ครอบคลุม และฟื้นตัวได้เร็ว โดยผลการศึกษาดังกล่าวประกอบด้วยข้อเสนอแนะและแนวปฏิบัติ 5 เสาหลัก ประกอบด้วย
เสาหลักที่ 1 สนับสนุนธุรกิจการท่องเที่ยวด้วยการฟื้นฟูและการปรับตัว เช่น สนับสนุนทางการเงินเพื่อรักษาสภาพคล่องของธุรกิจท่องเที่ยวในระยะสั้น การจัดฝึกอบรมและพัฒนาทักษะที่เหมาะสม เป็นต้น
เสาหลักที่ 2 ฟื้นฟูการเดินทางภายในภูมิภาคและระหว่างประเทศอย่างปลอดภัยและไร้รอยต่อ เช่น ส่งเสริมภูมิภาคอาเซียนในวงกว้างเพื่อเปิดการเดินทางอีกครั้ง ส่งเสริมมาตรฐานและแนวปฏิบัติด้านสุขภาพและความปลอดภัยในภูมิภาคอาเซียน เป็นต้น
เสาหลักที่ 3 สร้างความมั่นใจในการฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยวให้เป็นไปตามหลักการของความยั่งยืนและมีความครอบคลุม เช่น สร้างมาตรฐานใหม่ที่มุ่งสู่ความสำเร็จของภาคการท่องเที่ยว โดยศึกษาพัฒนาตัวชี้วัดด้านการท่องเที่ยวอาเซียน และการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยว วางรากฐานการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนให้สอดคล้องกับมาตรฐานและแนวทางความยั่งยืนของอาเซียนด้านการท่องเที่ยวที่มีอยู่เดิม ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญในแหล่งท่องเที่ยว เป็นต้น
เสาหลักที่ 4 นำเสนอรูปแบบใหม่ของการบริการด้านการท่องเที่ยว เพื่อขับเคลื่อนการแข่งขัน เช่น ส่งเสริมและพัฒนาสินค้าด้านการท่องเที่ยวของอาเซียน เพื่อตอบสนองแนวโน้มการท่องเที่ยวใหม่ๆ ผ่านกองทุนพิเศษสำหรับธุรกิจ Start-up การเสริมสร้างศักยภาพ และการสนับสนุนทางการตลาดสำหรับภาคธุรกิจ รวมทั้งการเปิดตัวโครงการส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวใหม่ และแหล่งท่องเที่ยวที่ยังมีการเข้าถึงน้อย เป็นต้น
และ เสาหลักที่ 5 สนับสนุนการฟื้นฟูด้านการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวได้เร็วในระยะยาว และการเตรียมความพร้อมในภาวะวิกฤต เช่น จัดทำโครงการสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับภาคการเดินทางและการท่องเที่ยว ผ่านการติดตามและสนับสนุนการจัดทำรายงานสรุปผลประจำปีของผลกระทบด้านการเดินทางและการท่องเที่ยวในอาเซียน และการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่คณะสื่อสารในภาวะวิกฤตการท่องเที่ยวอาเซียน
รวมถึงยกระดับการใช้งานและความเข้าใจเทคโนโลยีดิจิทัลในภาคการท่องเที่ยว ผ่านการใช้งานและจัดเก็บข้อมูลแบบ Big Data และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เป็นต้น
ทั้งนี้ หลังไทยเห็นชอบและเดินตามแนวปฏิบัติดังกล่าว คาดว่าจะทำให้การฟื้นตัวด้านการท่องเที่ยวทั้งของไทยและในอาเซียนหลังโควิด-19 สามารถเดินไปได้เร็วยิ่งขึ้น.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |