31 ส.ค.64 - เวลา 16.10 น. นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ อภิปราย โจมตีการบริหารของรัฐบาลโดยช่วงท้ายใช้ถ้อยคำรุนแรงโดยระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ บริหารประเทศรอบสอง ปล่อยประชาชนรอความตายอย่างทรมาน ตายคาบ้าน ทำงานเวิคฟอร์มโฮมระหว่าง 21 ก.ค.-18 ส.ค. เป็นสิ่งน่าทุเรศสิ้นดี วัคซีนคุณภาพก็มาช้าที่มาไวก็เป็นวัคซีนเกรดดีคุณภาพต่ำ ค่าคอมมิดชันคงสูง วัคซีนเกรดเอก็รอรับบริจาคหรือเสียเงินซื้อเอง นายกฯเป็นคนวิปริตชอบใช้กำลังติดอาวุธ ตำรวจทหารกว่า 6 พันนายปกป้องบ้านตัวเอง

เมื่อถึงช่วงนี้ นายคารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล นายรังสิกร ทิมาตฤกะ ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย ลุกขึ้นประท้วง โดยนายรังสิกรกล่าวว่า พูดดูหมิ่นดูแคลนใส่ร้ายนายกฯ ที่เป็นผู้บริหารผู้นำประเทศด้วยการกล่าวว่า นายกฯมีพฤติกรรมทุเรศ และนายมงคลกิตติก็เคยโหวตเลือกนายกฯมา นายมงคลกิตติ์ ถอนคำพูดดังกล่าวว่า “นายกฯทำงานเวิคฟอร์มโฮม น่าบัดสีสิ้นดี”

จากนั้นนายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ประท้วงว่า ญัตติไม่ไว้วางใจแต่ต้องอยู่ในระเบียบ แม้แต่จริยธรรมประธานก็ต้องควบคุมการประชุม ประธานทำผิดจริยธรรม ทำให้นายสุชาติ ตันเจริญ ประธานในที่ประชุมระบุว่า ถ้าเห็นว่าทำผิดจริยธรรมให้ตั้งกรรมการสอบอย่ามากล่าวหา นายมงคลกิตติ์ จึงระบุว่า “ไม่มีผู้ประท้วงแล้วนะครับ อย่าให้ผมอารมณ์ขึ้น” นายนิโรธ จึงสวนมาว่า ขึ้นได้นะครับมวย จากนั้น นายมงคลกิตติ์ อภิปรายต่อว่า นายกฯรู้ไหมว่าประชาชน 99.99% รังเกียจนายกฯเข้าไส้ขยะแขยง ถ้าไม่เชื่อลงไปเดินตลาดคนเดียวแล้วจะรู้ว่าประชาชนคิดอย่างไร ยังหน้าด้านหน้าไม่มียางอายบริหารประเทศแบบตัดสินใจพลาด

นายสุชาติ ขอถอนคำพูดที่ว่า “หน้าด้านหน้าไม่มียางอาย” เพราะเป็นการใส่ร้าย นายมงคลกิตติ์ ได้ถอนคำพูดดังกล่าวโดยเปลี่ยนเป็นคำว่าหน้าที่มีอายุ 67 ปี พร้อมกับอภิปรายอีกว่า ท่านนายกฯบริหารประเทศแบบตัดสินใจผิดพลาดเพราะโง่เขลาหรือแกล้งโง่ ทำให้คนลำบาก เหตุการณ์แบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นในประเทศไทยมาก่อน น่าจะเป็นความวิบัติของบ้านเมืองที่มี พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ ท่านน่าจะเป็นตัวกาลีบ้านกาลีเมือง หรือตัวเสนียดจัญไร ประธานในที่ประชุม ขอให้ถอนคำพูด โดยนายมงคลกิตติ์ ถอนคำพูดเป็นตัวเสนียด เป็นน้องของจระเข้น้อย ประธานจึงตัดบท ไม่ให้อภิปรายต่อ นายมงคลกิตติ์ ได้อภิปรายให้จบว่า “จากความในใจถึงนายกฯ ท่านพอเถอะครับ ท่านลาออกได้แล้ว”