"อลงกรณ์"หวังพรรคการเมืองหนุนระบบไพรมารี


เพิ่มเพื่อน    

“อลงกรณ์”หวังพรรคการเมืองเก่า-ใหม่ยึดแนวทางปฏิรูปเร่งขับเคลื่อนระบบไพรมารีชี้แม้ยากแต่ต้องทำเพื่อยกระดับเป็นสถาบันทางการเมือง ชี้หากมาสมาชิก50คน และ100 คนในเขตเลือกตั้งไม่ได้ให้เลิกทำพรรคการเมือง

วันที่17 มิ.ย. 61 นายอลงกรณ์ พลบุตร อดีตรองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.)แสดงความเห็นกรณีหลายพรรคการเมืองกังวลเรื่องการเลือกตั้งขึ้นต้น(ระบบไพรมารี่)ว่า จากประสบการณ์กว่า20ปีที่อยู่ในพรรคการเมืองและผ่านการเลือกตั้งมาหลายครั้งเห็นว่าการเลือกตั้งขั้นต้นที่เรียกว่าไพรมารีเป็นกุญแจสำคัญของการปฏิรูปพรรคการเมืองและการพัฒนาประชาธิปไตยโดยการเพิ่มสิทธิหน้าที่และความรับผิดชอบของสมาชิกพรรคให้มีส่วนร่วมในการคัดเลือกผู้สมัครส.ส.เพื่อให้สมาชิกพรรคมีความเป็นเจ้าของพรรคและส.ส.ของพรรคมากขึ้นเมื่อนั้นพรรคการเมืองจะเป็นสถาบันทางการเมืองของประชาชนโดยประชาชนเพื่อประชาชนอีกทั้งยังเป็นการช่วยให้พรรคการเมืองพ้นจากการถูกครอบงำของกลุ่มผลประโยชน์และนักการเมืองกังฉินที่ใช้พรรคการเมืองแสวงหาประโยชน์ทุจริตคอรัปชั่นงบประมาณแผ่นดินและโครงการของรัฐดังที่เกิดขึ้นในอดีต

“หากต้องการปฏิรูปการเมืองให้บังเกิดผลต้องเริ่มจากระบบไพรมารีซึ่งหวังว่าพรรคการเมืองทั้งเก่าและใหม่จะช่วยกันขับเคลื่อนระบบไพรมารีในการเลือกตั้งครั้งหน้าแม้จะยากและตัองสละอำนาจของผู้บริหารพรรคหรือกลุ่มผลประโยชน์ให้กับสมาชิกพรรคก็ต้องทำเพื่อยกระดับพรรคการเมืองเป็นสถาบันทางการเมืองและพัฒนาประชาธิปไตยแบบผู้แทน(representative democracy)ที่ใช้มา80กว่าปีเป็นประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม(participatory democracy)”

ระบบไพรมารี่ริเริ่มเสนอโดยสภาปฏิรูปแห่งชาติและสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศโดยคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญและสภานิติบัญญัติแห่งชาติเห็นพ้องต้องกันโดยบรรจุระบบไพรมารีในพรบ.พรรคการเมืองเป็นครั้งแรกและคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ซึ่งเป็นนายทะเบียนพรรคการเมืองและเป็นผู้รับผิดชอบการจัดการเลือกตั้งยืนยันว่าสามารถปฏิบัติได้จึงไม่มีเหตุผลใดที่จะเลื่อนระบบไพรมารี่ออกไปไม่เช่นนั้นการปฏิรูปการเมืองก็ไม่สามารถนับหนึ่งได้และหากติดขัดเรื่องเวลาหรือแนวปฏิบัติใดๆก็ควรหารือร่วมกันระหว่างพรรคการเมืองและกกต.                                

ส่วนประเด็นที่อ้างว่าการเลือกตั้งขั้นต้นจะทำให้เกิดความแตกแยกในพรรคนั้นฟังไม่ขึ้นเพราะการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคก็ใช้ระบบการเลือกตั้งเหมือนกัน หรือประเด็นที่กังวลว่าผู้สมัครส.ส.จะไปรวมสมาชิกเป็นกลุ่มก้อนเพื่อสนับสนุนตนเป็นผู้สมัครส.ส.นั้นตนเห็นว่าเป็นการดีกว่าที่ผู้สมัครส.ส.จะมุ่งหน้าหาสมาชิกมากกว่ามุ่งหน้าหาผู้ใหญ่ในพรรคหรือกลุ่มทุน อีกประเด็นคือปัญหาเรื่ององค์ประชุมของการเลือกตั้งขั้นต้นที่ต้องมีสมาชิกไม่น้อยกว่า100คนในเขตเลือกตั้งที่มีสาขาพรรคหรือจะมีสมาชิกไม่ถึง50คนในจังหวัดที่ไม่มีสาขาในเขตเลือกตั้งแล้วจะดำเนินการไพรมารี่ไม่ได้ซึ่งหากพรรคการเมืองหาสมาชิกแค่50คนใน1จังหวัดหรือ100คนในเขตเลือกตั้งที่มีสาขาพรรคก็อย่าตั้งเป็นพรรคการเมืองให้เสียเวลาเพราะถ้าคิดจะส่งส.ส.เพื่อให้ได้รับเลือกตั้งต้องมีคะแนนหลายหมื่นคะแนนแค่50คน100คนยังบอกทำไม่ได้จึงเป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"