31 ส.ค. 2564 นายกวิน กาญจนพาสน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือกลุ่ม BTS และนายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือJMART ร่วมแถลงข่าวการเข้าร่วมลงทุนในกลุ่มเจมาร์ทของบริษัท วีจีไอ จํากัด (มหาชน) หรือ VGI และบริษัท ยู ซิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ U City ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มบีทีเอสกรุ๊ป เพื่อสร้างการเติบโตของธุรกิจในระยะยาว
นายกวิน เปิดเผยว่า VGI และ U CITY จะร่วมลงทุนในบริษัทของกลุ่ม JMART จำนวน 1.75 หมื่นล้านบาท โดย U City จะลงทุน 24.9% ในบริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) ด้วย ซึ่งบีทีเอสกรุ๊ป ต้องเดินไปข้างหน้าไม่ใช่ทำแค่รถไฟฟ้า โดยการร่วมลงทุนครั้งนี้บีทีเอสกรุ๊ปตั้งใจร่วมเป็นพันธมิตรในระยะยาว เพื่อช่วยสร้างมูลค่าทางธุรกิจ และพร้อมต่อยอดธุรกิจร่วมกัน นอกจากนี้ยังวางแผนรวมเทคโนโลยีทางการเงิน (ฟินเทค) ที่เข้มแข็งของ JMART รวมทั้งศึกษาด้านดิจิทัลโทเคน ในการนำเหรียญดิจิทัลโทเคน JFin มาใช้ในเครือข่ายของกลุ่ม BTS เพื่อใช้งานแทนเงินสดด้วย ซึ่งจะสร้างประสบการณ์ใหม่ และความสะดวกสบายให้ลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น เบื้องต้นคาดว่าโครงการแรกที่จะร่วมมือกันคือ การนำเหรียญโทเคน JFin มาใช้ในกลุ่มบีทีเอส โดยจะเริ่มประมาณไตรมาสที่ 1 ปี 65 ถือเป็นการผลักดันให้มีการปรับเปลี่ยน เพื่อเข้าสู่การเป็นองค์กรดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบต่อไป
นายกวิน กล่าวต่อว่า แผนการทำงานร่วมกันหลังจากนี้ จะได้เห็นการขยายฐานลูกค้า ขยายผลิตภัณฑ์ และบริการในเครือของ JMART ร่วมกันไปสู่สินค้าสำหรับผู้บริโภค การประกันภัย รวมถึงเทคโนโลยี และการให้บริการ Offline-to-Online (O2O) โซลูชั่นส์ ของ VGI ผ่านแพลตฟอร์มธุรกิจสื่อโฆษณา ธุรกิจบริการชำระเงิน และธุรกิจโลจิสติกส์ ซึ่ง Jaymart Mobile จะสามารถนำเสนอสินค้าผ่านแพลตฟอร์มของ VGI และเพิ่มจุดให้บริการ (Service Point) บนสถานีรถไฟฟ้า รวมถึงการใช้เครือข่ายสื่อโฆษณา และการขนส่งสินค้าผ่านบริษัทในกลุ่ม VGI ขณะที่ VGI สามารถขยายช่องทางการจําหน่ายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของ Fanslink ผ่านพื้นที่ค้าปลีกของกลุ่ม JMART มากยิ่งขึ้น
ด้านนายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ มาร์ทฯ กล่าวว่า การร่วมเป็นพันธมิตรกับ VGI และ U City บริษัทในกลุ่มบีทีเอสครั้งนี้ ถือเป็นการเติบโตครั้งสำคัญของกลุ่ม JMART โดยเราได้ผนึกกำลังร่วมกับผู้นำที่มีศักยภาพในการดำเนินธุรกิจด้าน O2O โซลูชั่นส์ ที่มีธุรกิจสื่อโฆษณา ธุรกิจบริการชำระเงิน และ ธุรกิจโลจิสติกส์ ผสานด้านความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลที่ทำให้บริษัทสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น ซึ่งการเพิ่มทุนครั้งนี้จะเสริมความแข็งแกร่งด้านเงินทุนของกลุ่ม JMART ตั้งเป้าภาพรวมกำไรเติบโตไม่น้อยกว่า 50% ต่อปี ต่อไปอีก 3 ปีข้างหน้า ซึ่งยังไม่นับรวมการผนึกพันธมิตรต่อยอดธุรกิจใหม่ๆ เพิ่มเติมร่วมกับ VGI และ U City ของกลุ่มบีทีเอสด้วย
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |