31 ส.ค.64- เพจ Sulak Sivaraksa ของ นายสุลักษณ์ ศิวรักษ์ หรือ ส.ศิวรักษ์ โพสต์ข้อความว่า คำว่า “สวะสังคม” (Social Scum) นายปรีดีให้ความหมายไว้ว่า “เศษโสมม (Rottenmass) ซึ่งสังคมเก่าได้โยนทิ้งไป แต่ตกค้างอยู่ในสังคมใหม่ … เป็นชนชั้นอันตราย (Dangerous Class) … เห็นแก่ตัว (Egoist) เป็นสำคัญ ซึ่งแสดงด้วยอาการอวดดี ยกตัวว่าวิเศษกว่าคนอื่น”
.
นายปรีดีอธิบายความหมายของคำนี้ผ่านการยกตัวอย่างในหลายประเด็น แต่มุ่งหมายถึง ส. ศิวรักษ์ โดยเฉพาะ ในที่นี้จึงขอยกมาเพียงข้อเดียว คือ
“(ซ) “สวะสังคม” บางคนอ้างตนเองเป็นตัวแทนของชนรุ่นใหม่ชี้ขาดเอาว่าเอาคนนั้นไม่เอาคนนี้ โดยสายตาคับแคบตามลักษณะอวดดี และเห็นแก่ตัว ตนเองมองชนรุ่นใหม่จำนวนมหาศาลว่าเหมือนตนเองไปทั้งหมด ซึ่งเป็นการดูหมิ่นเหยียดหยามชนรุ่นใหม่ทั้งหมด นอกจากตัวเขากับเพื่อนสวะสังคมจำนวนหยิบมือเดียว ชนรุ่นใหม่จำนวนมหาศาลมิใช่สวะของสังคม แต่เป็นคนไทยที่เป็นพลังใหม่ที่กำลังพัฒนาก้าวหน้าทั้งทางกายและทางจิตใจ ปราศจากวิญญาณปฏิกิริยาและวิญญาณแห่งสวะของสังคม”
.
กล่าวคือ นายสุลักษณ์เคยเขียนตอนท้ายของบทวิจารณ์หนังสือ The Devil’s Discus เมื่อ พ.ศ. 2507 ว่า
.
“ในตอนท้าย ผู้เขียน [Rayne Kruger] สรุปว่า ‘ในบรรดาคนหนุ่มในเมืองไทยปัจจุบันนี้ โดยเฉพาะผู้ที่สำเร็จจากมหาวิทยาลัย ต่างก็พากันรู้สึกอัดอั้นตันใจที่ขาดโอกาสทางประชาธิปไตย สำหรับบุคคลเหล่านี้ ชื่อนายปรีดียังคงเป็นประดุจเสียงกังวาน อันเรียกร้องเสรีภาพและความยุติธรรมทางสังคม แม้เขาผู้นั้นจะถูกหาว่าเป็นคอมมูนิสต์ก็ตาม’ ข้าพเจ้าถือตัวว่าเป็นบุคคลในกลุ่มนี้ และก็ยอมรับว่าต้องการ ‘เสรีภาพและความยุติธรรมทางสังคม’ แต่หาต้องการนายปรีดีไม่ ในกรณีนี้ข้าพเจ้ากล่าวได้ว่า ข้าพเจ้าพูดแทนคนรุ่นข้าพเจ้าเกือบทั้งหมด”
.
และถ้าใครได้อ่านในข้อ (ก)-(ช) ของบทความ “บางเรื่องเกี่ยวกับการก่อตั้งคณะราษฎรและระบบประชาธิปไตย” ฉบับพิมพ์ครั้งแรก พ.ศ.2515 ก็คงจะเดาจากคุณสมบัติได้ไม่ยากว่า นายปรีดีมุ่งจะ ‘ด่า’ ส.ศิวรักษ์ นั่นเอง.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |