จับตาอย่ากะพริบ     
    ที่รัฐสภาเขามีงานครับ 
    อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล โต้วาที ลิเกการเมือง หรือจะเป็นเวทีหาเสียง รอชม 
    มาจับอุณหภูมิการเมืองก่อนเริ่มศึกซักฟอกกันหน่อย 
    รัฐบาล ฝ่ายค้าน ม็อบ คือตัวละครเอก 
    วานนี้ (๓๐ สิงหาคม) มีประชุมคณะรัฐมนตรี "ลุงตู่" ขอให้คณะรัฐมนตรีทุกคนรักและสามัคคีกัน ให้ทุกคนได้ติดตามญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจ 
    และให้ชี้แจงข้อเท็จจริงให้ประชาชนได้รับทราบ
    ที่จริงก็ไม่มีนัยสำคัญอะไร แค่โหวตซักฟอกคราวที่แล้ว รัฐมนตรีบางคนได้คะแนนไว้วางใจมากกว่านายกฯ ไปหน่อย 
    มาคราวนี้เหมือน "ลุงตู่" เตือนล่วงหน้า 
    ห้ามเอาตัวรอด ให้ทุกคนรักกัน 
    หันไปที่ฝ่ายค้าน ดูทุลักทุเลอยู่เหมือนกัน หลังจากเปิดศึกไม่ไว้วางใจกันเองระหว่าง พรรคเพื่อไทยกับก้าวไกล แม้สัญญาณตอนนี้ดูเหมือนสงบ แต่ลึกๆ ใต้น้ำ คลื่นลูกมหึมารอถาโถมอยู่ 
    ก้าวไกลดูจะมีทั้งศึกนอกศึกใน ศึกหน้าศึกหลัง ยุบยิบไปหมด
    ปัญหาในพรรคยังต้องปาดเหงื่อ เมื่อ "คารม พลพรกลาง" ส.ส.บัญชีรายชื่อ จะไปร่วมทีมเป็นองครักษ์พิทักษ์ "เสี่ยหนู-ศักดิ์สยาม"  
    สวิงข้ามฟากไม่พอ ดันจะไปช่วยศัตรูทางการเมืองของพรรคอีก 
    แต่ฟังเสียงก่นด่าจากพรรคก้าวไกลแล้ว ทำให้เห็นปฏิกิริยาการเมืองชั้นอนุบาล คือไม่รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองต้องทำคืออะไร
    "...ที่ผ่านมาสื่อมวลชนและพี่น้องประชาชนก็ทราบดีอยู่แล้วว่า บุคคลคนนี้ได้ทรยศต่อคะแนนเสียงของพี่น้องประชาชนที่เลือกพรรคอนาคตใหม่เข้ามา 
    และคงเป็นตัวคุณคารมเองที่ต้องไม่ลืมว่าเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ ทุกคะแนนมาจากความนิยมต่อพรรค ไม่ใช่เสียงสนับสนุนตัวคุณคารมเอง..."
    นั่นคือเสียงจากโฆษกพรรคก้าวไกล 
    ในทางกลับกัน ส.ส.บัญชีรายชื่อหลายคนในพรรคก้าวไกล ทำตัวเป็นนายประกันให้ม็อบ ๓ นิ้ว  
    หลายคดีคือความผิดตาม ม.๑๑๒  แต่สิ่งที่พรรคก้าวไกลอ้างคือ ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคคือตัวแทนของประชาชน เพราะประชาชนเลือกมา ดังนั้นไม่แปลกที่ ส.ส.เหล่านี้ จะช่วยเหลือประชาชนทางคดี 
    ลองกลับไปอ่านข่าวเก่าๆ ดูครับ พรรคก้าวไกลจะอ้างทำนองนี้เสมอ 
    แต่กรณี "คารม พลพรกลาง" กลับให้เครดิตกับพรรค 
    ไม่ให้ความสำคัญ ส.ส.ของพรรค 
    ก็ธรรมดา คนมันไม่ชอบขี้หน้ากันแล้ว ต้องเป็นผู้ทรยศเท่านั้น ห้ามเป็นอย่างอื่น 
    ที่จริงก็ไม่มีอะไรใหม่ "คารม พลพรกลาง" เป็นงูเห่าฝักใฝ่ภูมิใจไทยมานานแล้ว ขู่จะไล่ออกมาตั้งแต่ต้นปีแล้ว หลังลงมติไว้วางใจ "เสี่ยหนู-ศักดิ์สยาม" ในการซักฟอกคราวก่อน  
    แต่ชื่อของ "คารม พลพรกลาง" ก็ยังอยู่ในพรรคก้าวไกล 
    ทำไมไม่ขับออกจากพรรค? 
    ประเด็นนี้ดูเหมือนไม่มีอะไร
    แต่ลึกๆ แล้วมันซ่อนความล้มเหลวในการบริหารจัดการอยู่
    เป็นหนึ่งในความล้มเหลวการบริหารจัดการภายในของพรรคการเมือง ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญสำหรับพรรคการเมือง
    ขณะที่หัวหน้าพรรคอย่าง "พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" คุยโม้โอ้อวดจะแก้ปัญหาระดับชาติ 
    โควิดต้องแก้แบบนี้ เศรษฐกิจต้องแก้แบบนั้น 
    แต่กลับไม่มีปัญญาแก้ปัญหา ๔ ส.ส.งูเห่าในพรรค 
    คารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อ 
    เอกภพ เพียรพิเศษ ส.ส.เชียงราย 
    ขวัญเลิศ พานิชมาท ส.ส.ชลบุรี 
    พีรเดช คำสมุทร ส.ส.เชียงราย 
    ๔ คนนี้ โหวตสวนมติพรรคก้าวไกลต่อเนื่อง 
    ล่าสุดคือร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี ๒๕๖๕ 
    สาเหตุที่พรรคก้าวไกลจัดการกับ ๔ ส.ส.งูเห่าไม่ได้ สาเหตุแทบไม่มีอะไรเลย
    แค่กลัวว่า หากพรรคมีมติขับออกแล้ว ๔ ส.ส.สามารถย้ายพรรคได้ทันทีใน ๓๐ วัน ซึ่งสมใจ ๔ ส.ส. ที่ว่านี้ 
    พรรคก้าวไกลกลับใช้วิธี รอให้ ๔ ส.ส.ออกเอง เพื่้อจะได้พ้นสมาชิกภาพ
    นั่นคือเหตุผล 
    แต่พรรคก้าวไกลลืมไปว่ามีสิ่งที่สำคัญกว่า ศักดิ์ศรี คือการบริหารพรรคที่ต้องยึดกฎเกณฑ์ และตรงไปตรงมา 
    เมื่อมี ส.ส.ไม่ปฏิบัติตามมติ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า 
    หลายมติเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย เช่นการโหวตญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่พรรคก้าวไกลเลือกที่จะไม่ขับ ส.ส.ที่ทำความผิดร้ายแรง เพียงเพราะกลัวว่าส.ส.ที่ถูกขับจะไปเพิ่มที่นั่งให้พรรคการเมืองฝ่ายตรงข้าม 
    ขณะที่ข้อเท็จจริง ส.ส.งูเห่าเหล่านี้ ตบหน้าพรรคตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่า ด้วยการโหวตสวนมติพรรค 
    พรรคก้าวไกลได้แต่มองตาปริบๆ ทำอะไรไม่ได้ 
    ก็ได้แค่แก้ตัวไปวันๆ ว่าจะตัดสิทธิ์โน่นนี่นั่น  
    สุดท้าย ๔ ส.ส.งูเห่า ทำอะไรตามใจฉัน 
    ครับ...เรื่องนี้บางคนอาจมองว่าเป็นเรื่องเล็กๆ 
    แต่ในแง่ความเป็นมืออาชีพแล้ว พรรคก้าวไกล โดยการนำของ "พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" สอบตก อย่างสิ้นเชิง
    ติดกระดุมเม็ดแรกยังผิด
    คิดจะติดเม็ดต่อไป 
    และคุยโม้โอ้อวดว่า ติดกระดุมเก่งกว่าใคร 
    จับตาดูครับ...ศึกซักฟอกคราวนี้ จะเป็นการตั้งกระทู้ถาม หรืออภิปรายไม่ไว้วางใจ 
    เพราะเห็น ส.ส.ฝ่ายค้านหลายคนเริ่มพูดประเด็นที่ตัวเองจะอภิปรายแล้ว ดูคล้ายข่าวตัดแปะเสียมากกว่า 
    ส่วนนอกสภาก็มาตามนัด 
    "ม็อบ" ครับ
    ยื่นหนังสือขอใช้พื้นที่หน้าอาคารรัฐสภาเพื่ออภิปรายคู่ขนานแล้ว 
    ก็ต้องรอดูอีกเช่นกันว่า ม็อบทะลุแก๊ส ม็อบช่างกล ม็อบเผาเลยครับพี่น้องผมรับผิดชอบเอง จะย้ายสนามรบไปหน้ารัฐสภาหรือไม่ 
    ถ้าย้ายก็ครื้นเครงครับ ไม่เหงา 
    ฝนตกขี้หมูไหลไปกองกันครบทีม 
    แต่ต้องทำใจ หากผลที่ออกมา "ลุงตู่" ไม่ยุบ ไม่ออก เพราะไม่มีเหตุให้ต้องทำ 
    อยู่ครบเทอม 
    ไปว่ากันในการเลือกตั้งครั้งถัดไปครับ.