สภากาชาดจีนถวายวัคซีนซิโนฟาร์ม 1 แสนโดสแด่กรมสมเด็จพระเทพฯ เพื่อใช้ในกิจการของสภากาชาดไทย ครม.อนุมัติ 4,745 ล้านบาท จัดซื้อ ไฟเซอร์ 9.9 ล้านโดส สธ.เผยอัตราการฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้น ทำให้อัตราป่วยหนัก-เสียชีวิตลดลง สิ้นปีมีวัคซีนรวม 140 ล้านโดส เพียงพอประชาชนได้รับครบ 2 เข็ม รวมเข็ม 3 เป็น 70% นายก อบต.ปัตตานีรอไม่ไหว ควักเงินส่วนตัวซื้อซิโนฟาร์ม 3 พันโดสฉีดให้ชาวบ้าน
เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2564 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร มหาวชิราลงกรณวรราชภักดี สิริกิจการิณีพีรยพัฒนรัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี เสด็จออก ณ วังสระปทุม พระราชทานพระราชวโรกาสให้นายเตช บุนนาค เลขาธิการสภากาชาดไทย นำนายหยาง ซิน (Mr. Yang Xin) อัครราชทูตที่ปรึกษา สถานเอกอัครราชทูต สาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย เป็นผู้แทนสภากาชาดจีน เฝ้าฯ น้อมเกล้าฯ ถวายวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ซิโนฟาร์ม จำนวน 100,000 โดส เพื่อใช้ในกิจการของสภากาชาดไทย
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติวงเงิน 4,745 ล้านบาท สำหรับการจัดซื้อวัคซีนไฟเซอร์ จำนวน 9,998,820 โดส เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคแก่กลุ่มเป้าหมายหลัก 6 กลุ่ม ได้แก่ เด็กอายุ 12-17 ปี, หญิงตั้งครรภ์ที่มีอายุครรภ์ตั้งแต่ 12 สัปดาห์ขึ้นไป, บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้า (ฉีดกระตุ้นภูมิเข็มที่หนึ่ง), ผู้สูงอายุและผู้มีและกลุ่ม 7 โรคเสี่ยง, ชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย เน้นผู้สูงอายุและโรคเรื้อรัง และผู้ที่มีความจำเป็นต้องการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ก่อนเดินทางไปต่างประเทศ เช่น นักเรียน นักศึกษา นักกีฬานักการทูต เป็นต้น ทั้งนี้ กลุ่มเป้าหมายสามารถปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคได้
นายธนกรกล่าวว่า ที่ผ่านมา ครม.ได้อนุมัติให้ดำเนินการจัดซื้อจัดหาวัคซีนโควิด-19 แล้วจำนวน 80 ล้านโดส วงเงิน 22,990 ล้านบาท แบ่งเป็นการจัดซื้อจัดหาวัคซีนจากบริษัท แอสตร้าเซนเนก้าฯ 61 ล้านโดส, ซิโนแวค จำนวน 19 ล้านโดส และบริษัทไฟเซอร์ จำนวน 20 ล้านโดส ซึ่งการจัดซื้อไฟเซอร์ จำนวน 9.9 ล้านโดสนี้ ช่วยให้ไทยสามารถบรรลุเป้าหมายการจัดหาวัคซีนให้กับประชาชนจำนวนอย่างน้อย 100 ล้านโดส ภายในปี 2564 เพื่อช่วยประชาชนให้เข้าถึงวัคซีนโควิด-19 ตามนโยบายของรัฐสร้างภูมิคุ้มกันโรค ลดอัตราการป่วยและการเสียชีวิต รวมทั้งเป็นการลดผลกระทบด้านเศรษฐกิจและสังคมให้กลับสู่สภาพปกติโดยเร็วด้วย
นายธนกรตอบคำถามสื่อมวลชนตามที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย ถึงความคืบหน้าการจัดหาวัคซีนช่วงเดือน ก.ย. จะมีการนำเข้าวัคซีนไฟเซอร์มาในเดือนนี้หรือไม่ ว่าทาง ศบค.รายงานแล้ว โดยกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ประมาณการวัคซีนตั้งแต่เดือน ก.ย.-ธ.ค. จะมีวัคซีนไฟเซอร์เข้ามาประมาณ 30 ล้านโดส
ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค แถลงว่า ในส่วนภาพรวมการฉีดวัคซีนวันที่ 29 ส.ค.64 รวมจำนวน 2.7 แสนคน ยอดรวมสะสมอยู่ที่ 30.9 ล้านโดส แบ่งเป็นเข็ม 1 จำนวน 23 ล้านคน คิดเป็น 32% และเข็ม 2 จำนวน 7.3 ล้านคน คิดเป็น 10.2% หากหลังจากนี้ประเทศไทยใช้สูตรฉีดวัคซีนไขว้เป็นหลัก คือซิโนแวคเป็นเข็ม 1 และแอสตร้าเซนเนก้าเป็นเข็ม 2 มีระยะเวลาห่างกันเพียง 3 สัปดาห์ก็จะทำให้มีจำนวนผู้ได้รับวัคซีนเข็ม 1และ 2 ใกล้เคียงกัน เมื่อแยกการฉีดวัคซีนเข็ม 1 ในกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ส่วนปริมาณและขีดความสามารถในการฉีดวัคซีนได้ตามเป้าหมายปี 64 รวมวัคซีนที่มีแผนส่งมอบจนถึงปลายปี 64 มี 124 ล้านโดส เมื่อรวมกับวัคซีนซิโนฟาร์มและโมเดอร์นา เป็น 140 ล้านโดส ซึ่งในช่วงต่อจากนี้จะสามารถฉีดวัคซีนได้ในจำนวนมากและต่อเนื่อง
ส่วนแนวทางการฉีดวัคซีน ควบคู่ไปกับมาตรการควบคุมโรค โดยเดือน ส.ค.ต้องฉีดเข็ม 1 ในกลุ่ม 608 ใน 12 จังหวัด ให้ได้ 70% และเดือน ก.ย.เพิ่มอัตราการฉีดเข็ม 1 ในกลุ่ม 608 ทุกจังหวัดให้ได้ 70% ซึ่งเดือน ต.ค. ต้องฉีดครบ 2 เข็มในกลุ่ม 608 และมากกว่า 50% ได้ฉีดเข็ม 1 ทั้งประเทศ รวมเด็กด้วย ซึ่งในเดือน พ.ย.ประชาชนทั้งประเทศต้องได้รับวัคซีนเข็ม 1 70% และเข็ม 3 กระตุ้นในพื้นที่เสี่ยง และเดือน ธ.ค. ต้องฉีดวัคซีนได้ครอบคลุมทั้งประเทศ 2 เข็ม รวมเข็ม 3 ด้วยเป็น 70%
นพ.เฉวตสรรอธิบายถึงการฉีดวัคซีนในกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปในพื้นที่ต่างๆ พบว่า ภาพรวมจากกราฟในช่วงสัปดาห์ 22 อัตราการฉีดวัคซีนค่อยๆ ไต่ระดับขึ้นมาเรื่อยๆ จาก 0.8% จนในสัปดาห์ที่ 34 อยู่ที่ 34% และเมื่อเปรียบเทียบกับอัตราการเสียชีวิตในสัปดาห์ 25 ขึ้นไปสูงสุดอยู่ที่ 18.34% หรือประมาณ 1 ใน 5 จนเมื่อมีอัตรการฉีดวัคซีนสูงทำให้ในช่วงสัปดาห์ 30 อัตราการเสียชีวิตลดลงมาเหลือ 9.27% และในสัปดาห์ที่ 31-34 ก็อยู่ในช่วงเก็บข้อมูล ในขณะเดียวกันอัตราการป่วยหนักก็ลดลงในสัปดาห์ 29 อยู่ที่ 11.56% ซึ่งมีแนวโน้มลดลงตามอัตราการฉีดวัคซีนที่ครอบคลุมมากขึ้น ส่วนจังหวัดควบคุมสูงสุดเข้มงวด 19 จังหวัด อัตราการฉีดวัคซีนในผู้สูงอายุก็มีทิศทางเพิ่มขึ้นใกล้เคียงกับจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทำให้ยอดการเสียชีวิตในอัตราที่สูงสุดของเพดานยังคงระดับอยู่และค่อยๆ ลดลงหลักจากนี้
เมื่อถามถึงกรณีวัคซีนสามารถต้านสายพันธุ์เดลตาได้หรือไม่นั้น นพ.เฉวตสรรกล่าวว่า สายพันธุ์เดลตาระบาดได้รวดเร็วกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิมถึง 2.5 เท่า และด้วยการระบาดที่รวดเร็วทำให้ในหลายประเทศที่มีฉีดวัคซีนไปแล้วกลับมาระบาดอีกครั้ง ดังนั้นการฉีดวัคซีนอย่างเดียวไม่สามารถหยุดการแพร่เชื้อได้ ต้องอาศัยมาตรการด้านสาธารณสุขร่วมด้วย ในส่วนของเข็ม 3 ยังคงเน้นที่กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ ส่วนสำหรับประชาชนทั่วไปคาดว่าจะได้เริ่มฉีดในพื้นที่เสี่ยงก่อน แต่จะเป็นยี่ห้อไหน ต้องติดตามความชัดเจนอีกครั้ง และคาดว่าในเดือน ธ.ค. วัคซีนเข็ม 3 จะกระจายทั่วประเทศ
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่ จ.ปัตตานี ตัวเลขยังคงไม่นิ่ง พบผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตรายใหม่ทุกวัน ที่โรงเรียนสูงวัยทักษิณานาเกตุ ม.6 ต.นาเกตุ อ.โคกโพธิ์ นายมาหะมะสอดี มะเด็ง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลนาเกตุ ใช้เงินส่วนตัวจัดหาวัคซีนซิโนฟาร์ม จำนวน 3,000 โดส ซึ่งเป็นวัคซีนทางเลือกของชาวบ้าน โดยวันนี้จะเร่งฉีดให้กับชาวบ้านที่ลงทะเบียน 1,500 คน ในเข็มที่ 1 จำนวน 1,500 โดส ส่วนในรอบต่อไปจะเป็นเข็มที่ 2 อีก 1,500 โดส โดยภายหลังการฉีดวัคซีนยังมีบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 1 แพ็ก และสมุนไพรฟ้าทะลายโจร แจกให้กับชาวบ้านผู้มาฉีดวัคซีนในครั้งนี้ เพื่อสร้างขวัญกำลังใจ ซึ่งบรรยากาศโดยทั่วไปปรากฏว่าเมื่อประชาชนทราบว่าเป็นวัคซีนซิโนฟาร์ม ต่างแห่เดินทางมาฉีดวัคซีนกันอย่างคึกคัก ซึ่งต่างจากก่อนหน้านี้ ประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่ตื่นตัวที่จะรับวัคซีนซิโนแวค เพราะกังวลในเรื่องของคุณภาพวัคซีนอยู่.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |