ตำรวจ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ บุกรวบเจ้าอาวาส-พระสงฆ์วัดปันเสา กลางเมืองเชียงใหม่ และลูกศิษย์ รวม 7 ราย แอบมั่วสุมตั้งวงปาร์ตี้ดื่มสุราและกินหมูกระทะคากุฏิกลางดึกแบบไม่เกรงกลัวกฎหมาย และการแพร่ระบาดโควิด-19 ผกก.สั่งฟัน 2 ข้อหา
วันที่ 30 ส.ค.2564 จากกรณีพระระดับดูแลวัดดังของเชียงใหม่ 3 วัด นัดกันกินหมูกระทะยามค่ำคืนร่วมกับฆราวาสในกุฏิ และดื่มเหล้าเบียร์กระป๋อง จนชาวบ้านสุดทนร้องตำรวจเข้าตรวจสอบและจับกุมคาวง โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 ส.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรภูพิงคราชนิเวศน์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ บุกจับกุมกลุ่มพระสงฆ์ตั้งวงสังสรรค์รับประทานหมูกระทะและดื่มเบียร์กันอย่างเพลิดเพลินมีความสุข ภายในวัดปันเสา ซึ่งเป็นวัดชื่อดังในตัวเมืองเชียงใหม่ โดยพบของกลางจำนวนมาก และทำการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์พบว่ามีแอลกอฮอล์ในร่างกาย จึงได้นัดให้พระสงฆ์ทั้งหมดเดินทางไปสอบสวนที่สถานีตำรวจและดำเนินคดีในตอนเช้าวันนี้ พร้อมประสานพระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่เพื่อพิจารณาโทษทางวินัยของคณะสงฆ์ โดยทางตำรวจชุดเข้าจับกุมได้ทำการให้พระสงฆ์ที่อยู่ในวงหมูกระทะทำการเป่าวัดแอลกอฮอล์ทั้งหมดแล้วในเบื้องต้น ก่อนที่จะให้มาพบกับพนักงานสอบสวนในช่วงเช้า
พ.ต.อ.รณชัย ลอดลอย ผกก.สภ.ภูพิงค์เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.ภูพิงค์เชียงใหม่ ได้รับการร้องเรียนว่า วัดปันเสามีพระสงฆ์ในวัดนำโดยเจ้าอาวาส ล้อมวงกันดื่มเหล้าเบียร์กัน ทั้งพูดคุย กันเป็นทั้งภาษาพูดภาษาสวดกันแบบไม่เกรงกลัวกฎหมาย ขอให้ตำรวจมาดำเนินการ จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.ภูพิงค์เชียงใหม่ เข้าดำเนินการตรวจสอบคืนวันที่ 29 ส.ค. พบว่าพอเปิดประตูเข้าไปพบกลุ่มพระสงฆ์กำลังนั่งล้อมวงกันสนทนาทั้งทางโลกและทางธรรมอย่างมีความสุข เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทุกคนต่างแสดงอาการสำรวม และยอมรับว่าดื่มสุราและ เบียร์กันจริง โดยมีเจ้าอาวาสวัดร่วมด้วย รวมมีพระสงฆ์ 6 รูป ฆราวาส 1 คน
จากการสอบถามสำนักงานพระพุทธศาสนา จังหวัดเชียงใหม่ ได้ยอมรับว่าเกิดเรื่องดังกล่าวขึ้นภายในวัดปันเสา โดยในจำนวนผู้ที่ถูกจับกุมนั้น มีพระสงฆ์ผู้ใหญ่ 3 รูป ที่เป็นระดับเจ้าอาวาส ได้แก่ เจ้าอาวาสวัดปันเสา เจ้าอาวาสวัดยางกวง และเจ้าอาวาสวัดบ้านปิง ซึ่งวัดทั้งหมดตั้งอยู่ในตัวเมืองเชียงใหม่ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินคดีตามกฎหมายความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ควบคุมโรค อย่างไรก็ตาม ในส่วนของคณะสงฆ์จะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงและดำเนินการลงโทษทางวินัยสงฆ์ต่อไป
ทางด้าน พล.ต.ต.บัณฑิต ตุงคะเศรณี รอง ผบช.ภ.5 ได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว โดยทาง พ.ต.อ.รณชัย ลอดลอย ผกก.สภ.ภูพิงค์เชียงใหม่ ได้รายงานไปยังผู้บังคับบัญชาตำรวจตามลำดับชั้น ของกองบังคับการตำรวจภูธรเชียงใหม่ และสำนักงานกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ได้รับทราบดังต่อไปนี้
1.เหตุเกิดที่วัดปันเสา พื้นที่ สภ.ภูพิงค์ โดยมีการร้องเรียนของพลเมืองดี
2.จากการตรวจสอบ พบพระจำนวน 7 รูป และฆราวาสจำนวน 1 คน ตั้งวงดื่มสุรา โดยจากการตรวจวัดแอลกอฮอล์ พบพระมีการดื่มแอลกอฮอล์ จำนวน 3 รูป ฆราวาส 1 คน
3.ได้จับกุมทั้งหมดในข้อหามั่วสุมเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดโรค ตามข้อกำหนดตามมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน (ฉบับที่ 16) และในกรณีผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์ ได้จับกุมตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 2551 มาตรา 31 จำนวน 3 รูป 1 คน อีกข้อหาหนึ่ง
4.กรณีการสึก เจ้าหน้าที่ได้นำไปพบเจ้าอาวาสวัดสวนดอก ได้รับการเจริญพรว่า ไม่ผิดขั้นปาราชิก 4 และสอบถามพระทั้งหมดไม่ประสงค์จะสึก จึงไม่สามารถทำการสึกได้
ส่วนทางคณะสงฆ์ในจังหวัดเชียงใหม่ที่ได้ทราบข่าวต่างไม่สบายใจ และได้ย้ำทุกวัดในการดูแลวินัยสงฆ์และเป็นเรื่องน่าเสื่อมเสียที่เจ้าอาวาสวัดประพฤติผิดเสียเอง แม้ว่าความผิดครั้งนี้ทางสงฆ์ถือว่าอาบัติปาราจิตตรี เป็นความผิดเล็กน้อย ส่วนทางโลก ความผิดเรียกว่า “โลกาวัชชะ” สังคมติเตียน และยังผิด พ.ร.บ.กฎหมายควบคุมโรคด้วย.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |