"สนธิรัตน์"ไฟเขียวใช้มาตรการทวงผลประโยชน์ทางการค้าให้ไทย หลังถูกอินโดนีเซียเล่นแง่ ห้ามนำเข้าลำไย ทุเรียน หอมแดง เวียดนามกีดกันนำเข้ารถยนต์ จ่อใช้มาตรการห้ามหรือจำกัดการนำเข้า "มะพร้าว" หลังพบกระทบต่อราคาภายในประเทศ
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงแนวทางการแก้ไขปัญหากรณีที่ประเทศอินโดนีเซียได้ใช้มาตรการจำกัดการนำเข้าพืชสวนว่า ที่ผ่านมา กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศได้พยายามหารือกับอินโดนีเซีย เพื่อให้ผ่อนคลายการใช้มาตรการกับสินค้าไทย โดยเฉพาะลำไยและทุเรียน แต่ยังไม่สำเร็จ จึงได้สั่งการให้พิจารณาใช้มาตรการต่อสู้กับการค้าที่ไม่เป็นธรรม เช่น การควบคุมการนำเข้าสินค้าบางรายการจากอินโดนีเซีย และให้ดูถึงเวียดนาม ที่ขณะนี้มีมาตรการสร้างอุปสรรคทางการค้ากับสินค้ายานยนต์ ซึ่งทั้ง 2 กรณีได้ส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทย และคาดว่า ในเร็วๆ นี้ จะสามารถใช้มาตรการได้
"ไทยได้พยายามหารือกับทั้ง 2 ประเทศ เพื่อให้ผ่อนคลายการใช้มาตรการมาโดยตลอด แต่จนถึงขณะนี้ ยังไม่ได้รับการแก้ไข ไทยก็ต้องหาทางแก้ไขปัญหา แต่การดำเนินการของไทย ไม่ได้หมายความว่าเป็นการตอบโต้อย่างรุนแรง เพียงแค่สร้างความเป็นธรรมให้กับการค้า การส่งออกของไทย อะไรที่ไม่เป็นธรรม ก็ต้องต่อสู้เพื่อประโยชน์ของชาติ"นายสนธิรัตน์กล่าว
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า ไทยได้หยิบยกเรื่องนี้หารือกับอินโดนีเซียในทุกระดับ ทุกเวที และขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมมาตรการต่อสู้กับการค้าที่ไม่เป็นธรรม น่าจะได้ข้อสรุปเร็วๆ นี้ว่าจะใช้มาตรการใดและใช้กับสินค้าใด ส่วนกรณีที่เวียดนาม ควบคุมนำเข้ารถยนต์ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2561 โดยกำหนดให้รถยนต์ที่นำเข้าทุกล็อต ทุกครั้ง ต้องตรวจสอบมาตรฐานสิ่งแวดล้อม และความปลอดภัยนั้น ล่าสุด ไทยเตรียมเสนอให้เวียดนามจัดทำความตกลงยอมรับร่วม (MRA) มาตรฐานยานยนต์ไทย-เวียดนาม เพื่อทำให้ยานยนต์ที่ส่งออกจากไทย และผ่านการตรวจสอบแล้ว เมื่อไปถึงเวียดนาม ไม่ต้องตรวจสอบซ้ำอีก หากไม่เห็นด้วย ไทยจะยกระดับการกดดันให้มากขึ้นอีก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แนวทางในการแก้ไขปัญหาความไม่เป็นธรรมทางการค้า มีความเป็นไปได้ที่จะใช้มาตรการห้ามหรือจำกัดการนำเข้ามะพร้าวในระยะสั้น หรือเพียง 6 เดือน และเป็นการห้าม หรือจำกัดการนำเข้าเป็นการทั่วไป เพื่อไม่ให้เป็นการเลือกปฏิบัติเฉพาะกับอินโดนีเซีย แต่การใช้มาตรการเป็นการทั่วไปนี้ ผู้ได้รับผลกระทบโดยตรงคือ อินโดนีเซีย เพราะมีส่วนแบ่งตลาดมะพร้าวในไทยถึงกว่า 90% รองลงมา คือ เวียดนาม สัดส่วนประมาณ 5%
สำหรับการใช้มาตรการดังกล่าว จะเป็นการช่วยแก้ปัญหาราคามะพร้าวในประเทศตกต่ำในขณะนี้ จากผลกระทบของการนำเข้าได้อีกด้วย โดยกระทรวงพาณิชย์ จะนำเรื่องดังกล่าวหารือในคณะกรรมการพืชน้ำมันและน้ำมันพืช เพื่อให้ความเห็นชอบก่อน
ที่ผ่านมา อินโดนีเซียได้ใช้มาตรการจำกัดการนำเข้าพืชสวน ทำให้สินค้าจากไทยได้รับผลกระทบ ทั้งลำไย ทุเรียน และหอมแดง โดยลำไย อินโดนีเซีย ห้ามนำเข้าในช่วงเดือนก.ค.-ส.ค. ซึ่งเป็นช่วงที่ผลผลิตลำไยของไทยออกมาก ส่งผลให้ไทยส่งออกลำไยไปอินโดนีเซียไม่ได้ คิดเป็นมูลค่าความเสียหายเกือบ 700 ล้านบาท ส่วนทุเรียน อนุญาตให้นำเข้าได้เฉพาะเดือนก.ค. ซึ่งผลผลิตทุเรียนไทยออกสู่ตลาดน้อย คิดเป็นมูลค่าความเสียหายเกือบ 200 ล้านบาท และหอมแดง ห้ามการนำเข้าตลอดทั้งปี มูลค่าความเสียหายเกือบ 150 ล้านบาท รวมความเสียหายทั้งหมดราว 1,000 ล้านบาท ขณะที่มาตรการคุมนำเข้ารถยนต์ของเวียดนาม ทำให้ในช่วง 5 เดือนของปี 2561 (ม.ค.-พ.ค.) ไทยส่งออกไปเวียดนามได้ประมาณ 5,000 คัน จากเป้าหมายปีนี้ 65,000 คัน
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |