จ่อใช้กม.โรคติดต่อแทนฉุกเฉิน


เพิ่มเพื่อน    

สัญญาณดี! ไทยติดเชื้อลงต่อเนื่อง รายใหม่​ 1.6 หมื่นราย​ เสียชีวิต 264 คน อัตราครองเตียงผู้ป่วยสีเหลือง-เขียว กทม.ลด 50% ศบค.สั่งยังเข้มมาตรการคุมโควิดแม้เพิ่งคลายล็อก จ่อยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินทันที หลัง พ.ร.บ.โรคติดต่อฉบับแก้ไขประกาศใช้ โควิดภูเก็ตพุ่งวันละ 100-200 ราย ผู้ว่าฯ เร่งสกัดประคองแซนด์บ็อกซ์ให้รอด
    เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศไทยว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 16,536 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 16,200 ราย ในจำนวนนี้มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 13,894 ราย มาจากการค้นหาเชิงรุก 2,306 ราย และมาจากเรือนจำ 328 ราย เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 8 ราย​ ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมยืนยันตั้งแต่ปี 2563  รวมทั้งสิ้น 1,174,091 ราย หายป่วยเพิ่มขึ้น 20,927 ราย​ หายป่วยสะสม 985,246 ราย อยู่ระหว่างรักษา 177,702 ราย อาการหนัก 5,093 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 1,067 ราย​ เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 264 ราย เป็นชาย 145 ราย หญิง 119  ราย​ เสียชีวิตที่บ้าน​ 1​ ราย​ อยู่ที่ กทม.​เป็นผู้มีอายุเกิน​ 60  ปี​ 176​ ราย​ มีโรคเรื้อรัง​ 55​ ราย ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตสะสมรวม 9,087 ราย ขณะที่สถานการณ์โลก มียอดผู้ติดเชื้อใหม่ 541,787 ราย เสียชีวิตสะสม 4,507,840 ราย โดยประเทศไทยมียอดติดเชื้อสะสมอยู่อันดับที่ 30 ของโลก
    สำหรับ 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่สูงสุด ได้แก่ กทม. 3,821 ราย,  สมุทรปราการ 984 ราย, สมุทรสาคร 872 ราย, ชลบุรี 762 ราย, นนทบุรี 587 ราย,  ราชบุรี 464 ราย, นครราชสีมา 452 ราย,  นครปฐม 381 ราย, พระนครศรีอยุธยา 376 ราย, ฉะเชิงเทรา 357 ราย 
    รายงานข่าวจากที่ประชุม ศบค.แจ้งว่า หลังจากที่มีข้อกังวลเรื่องของการอนุญาตให้เปิดบริการร้านอาหาร กิจกรรม เพื่อให้เศรษฐกิจเดินหน้า และบรรเทาผลกระทบความเดือดร้อนของผู้ประกอบกิจการ ที่จะเริ่มในวันที่ 1 ก.ย.นี้นั้น ซึ่งห่วงว่าจะเกิดความเสี่ยงในช่วงที่การระบาดยังมีอยู่ แม้ยอดตัวเลขจะลดลง ดังนั้นทุกภาคส่วนต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด และระมัดระวังไม่ให้เกิดการแพร่เชื้อและนำไปสู่มาตรการขั้นสูงสุดคือการปิดหรือควบคุมอย่างช่วงที่ผ่านมา นอกจากนี้ ในพื้นที่ 29 จังหวัดสีแดงเข้ม ยังคงมีการประชุมร่วมกันกับ ศปก.ศบค.เป็นประจำถึงการดำเนินการตามมติของ ศบค. เพื่อให้การแพร่ระบาดลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่วนตัวเลขการติดเชื้อในต่างจังหวัด จากการที่มีผู้ติดเชื้อเดินทางกลับไปรักษาและเยี่ยมญาตินั้น ปัจจุบันระบบการดูแลรักษาผู้ป่วยอยู่ในสถานะที่รับได้ เนื่องจากการดำเนินชีวิตแตกต่างจากกรุงเทพมหานครและปริมณฑลที่ความหนาแน่น 
    อย่างไรก็ตาม แผนในการดูแลแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 ของ ศบค. ยังคงขอให้ทุกส่วนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคของกระทรวงสาธารณสุขและ ศบค. ไปพร้อมกับการเร่งจัดหาวัคซีน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้กับประชาชน โดยเฉพาะการเร่งหาวัคซีนให้กับกลุ่มนักเรียนนักศึกษา ขณะนี้อยู่ระหว่างการพูดคุยถึงความคืบหน้าการแก้ไขพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) โรคติดต่อ เพราะหากแก้ไขเสร็จแล้วประกาศใช้เป็น พ.ร.บ.โรคติดต่อ ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม จะได้ยกเลิกการประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ที่นำมาใช้ควบคุมเพื่อป้องกัน-ระงับยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคอยู่ในขณะนี้ 
    นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สถานการณ์ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ของไทยมีสัญญาณดีขึ้น ยอดผู้ป่วยที่รักษาหายสามารถกลับบ้านได้ตัวเลขอยู่ที่กว่า  2 หมื่นรายติดต่อกันเป็นเวลากว่า 20 วันแล้ว และจำนวนผู้หายป่วยกลับบ้านนั้นมากกว่าจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ติดต่อกันกว่า 10 วันแล้วด้วย ถือเป็นข่าวดี ขณะเดียวกันจำนวนยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่มีแนวโน้มค่อยๆ ลดลงต่อเนื่อง แม้ว่าตัวเลขจะยังสูงอยู่ แต่แนวโน้มในระยะยาวน่าจะค่อยๆ ลดลง ทั้งนี้ต้องขอบคุณคนไทยทุกคนที่ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันอย่างเข้มงวด ขอให้ทุกคนอดทน เพื่อช่วยกันลดโอกาสการติดเชื้อเพิ่ม นำไปสู่การฟื้นฟูประเทศต่อไป
    ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังประชุมศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุขว่า สถานการณ์โควิด-19 ขณะนี้มีแนวโน้มลดลง ส่งผลให้อัตราครองเตียงในพื้นที่ กทม.และปริมณฑลเริ่มผ่อนคลาย โดยเฉพาะกลุ่มผู้ป่วยสีเหลืองและเขียว โดยข้อมูลโรงพยาบาลบุษราคัม ล่าสุด ณ วันที่ 28 ส.ค. มีผู้ป่วยอยู่ระหว่างการรักษาทั้งสิ้น 1,905 ราย ลดลงจากสัปดาห์ก่อนที่มีผู้ติดเชื้อ 3,526 ราย ถึงร้อยละ 54 ส่วนศูนย์แรกรับและส่งต่อนิมิบุตร พบอัตราครองเตียงล่าสุด จำนวน 94 ราย ในจำนวนนี้เป็นผู้ป่วยสีเขียว 54 ราย, สีเหลือง 34 ราย และสีแดง 6 ราย สำหรับสถานการณ์ในภูมิภาค ยังคงพบการระบาดภายในชุมชน สถานประกอบการ ตลาด แคมป์คนงาน ได้กำชับให้ตรวจคัดกรองเชิงรุกด้วยชุดตรวจ ATK และนำผู้ติดเชื้อเข้าสู่ระบบการแยกกักตัวที่บ้านและชุมชน เพื่อลดการแพร่กระจายเชื้อสู่ผู้อื่น 
    นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยว่า กรมวิทย์ได้ฝึกอบรม อสม.วิทยาศาสตร์การแพทย์ชุมชน หรือ อสม.นักวิทย์ทั่วประเทศ เกี่ยวกับการใช้ชุดตรวจ ATK เพื่อเป็นพี่เลี้ยงและสอนวิธีใช้งานชุดตรวจ ATK ด้วยตนเองให้แก่ประชาชน และร่วมมือกับสภาอุตสาหกรรมจัดอบรมการใช้ ATK ที่ถูกต้องให้แก่พนักงานโรงงานอุตสาหกรรมผ่านระบบออนไลน์กว่า 2,000 แห่ง โดยสอนการจัดการขยะติดเชื้อ ช่วยแปลผล ให้คำแนะนำ ช่วยลงผลตรวจ และช่วยประสานระบบการดูแลรักษา ซึ่งนำร่องฝึกอบรมโดยศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 2 จ.พิษณุโลกแล้ว และจะขยายการฝึกอบรม อสม.นักวิทย์ 5,000 คนทุกจังหวัดทั่วประเทศต่อไป 
    กรุงเทพมหานคร (กทม.) ทำระบบแจ้งส่งผู้ป่วยเข้ารักษาในโรงพยาบาล โดยใช้ LINE@BKKCOVID19CONNECT เพื่อเป็นช่องทางในการคัดกรองสำหรับผู้ป่วยที่มีผล RT-PCR เป็นบวก ผู้ป่วยที่มีผล ATK ซึ่งผู้ป่วยหรือญาติผู้ป่วยที่มีข้อมูลส่วนตัวของผู้ป่วย อาทิ ชื่อ-สกุล วันเดือนปีเกิด และหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชนผู้ป่วย สามารถเป็นผู้กรอกข้อมูลในระบบแทนได้ จากนั้นจะมีทีมแพทย์เป็นผู้ประเมินอาการผู้ป่วยเบื้องต้น ให้คำปรึกษาในการดูแลตนเอง และส่งต่อผู้ป่วยไปยังศูนย์พักคอย รพ.สนาม หรือ Hospitel ตามระดับอาการของผู้ป่วย เพื่อให้ผู้ป่วยคลายความกังวลและได้เข้าสู่ระบบการดูแลให้เร็วที่สุด ทั้งนี้ประชาชนสามารถใช้บริการได้โดยกดเพิ่มเพื่อนในโทรศัพท์มือถือผ่านแอปพลิเคชัน LINE @BKKCOVID19CONNECT หรือที่ Link shorturl.asia/afk0S
    ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ในฐานะโฆษก สปสช. เปิดเผยว่า ขอเชิญชวนประชาชนทุกคนให้เข้ามาเพิ่มเพื่อน หรือ add friend ที่ไลน์ สปสช. @nhso เพื่อลงทะเบียนยืนยันตัวตนไว้ก่อน หากในอนาคตมีความจำเป็นต้องเข้ารับการตรวจคัดกรองด้วย ATK หรือตรวจพบว่าติดเชื้อและจำเป็นต้องเข้า Home Isolation เมื่อสามารถจับคู่กับหน่วยบริการได้แล้ว จะได้ไม่ต้องเสียเวลายืนยันตัวตน สามารถสแกน QR code แล้วเข้ารับบริการได้อย่างรวดเร็ว สำหรับบริการที่เปิดให้ยืนยันตัวตนก่อนรับบริการผ่านไลน์ @nhso นั้น เบื้องต้นคือบริการตรวจคัดกรองโควิดด้วย ATK และบริการดูแลผู้ติดเชื้อโควิดแบบ Home Isolation หรือ Community Isolation และในอนาคตจะมีการขยายไปยังบริการอื่นๆ ต่อไป
    ที่ จ.สมุทรสาคร ตัวเลขผู้ติดเชื้อลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 872 ราย เสียชีวิต 18 ราย ทั้งนี้ นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า สิ่งที่มองดูอยู่ในเวลานี้ที่จะต้องเร่งทำคือ 1.การตั้ง CI, FAI  แยกผู้ติดเชื้อออกจากชุมชน ไม่ติดกับดักระบบการรักษา แยกระเบียบขั้นตอนไปเลย 2.การตรวจ ATK เชิงรุกเพิ่มมากขึ้น เน้นจุดเสี่ยงตลาด ตลาดนัด 3.ข้อนี้เน้นย้ำมาก ถือเป็นเรื่องสำคัญ วินัยของคนต้องมีมากขึ้น
    ผู้สื่อข่าวจังหวัดนครพนมรายงานว่า มีผู้ป่วยรายใหม่ 38 ราย ซึ่งหนึ่งในจำนวนนี้เป็นเด็กหญิงวัย 5 ขวบ อยู่ อ.ปลาปาก ซึ่งพบว่าเป็นลูกหลานของผู้ป่วยในคลัสเตอร์คนงานขนถ่ายสินค้าศูนย์กระจายสินค้าเขตเศรษฐกิจพิเศษ โดยวันที่ 22 ส.ค.ที่ผ่านมา ผลตรวจครอบครัวติดเชื้อ 7 ราย ส่วนเด็กหญิงวัย 5 ขวบมีผลเป็นลบ แต่ถือว่าเป็นผู้เสี่ยงสูง แต่ญาติกลับนำตัวไปดูแลที่บ้านเช่าแห่งหนึ่งที่บ้านหนองเซา ต.ขามเฒ่า อ.เมืองฯ ผู้สื่อข่าวเกรงว่าจะทำให้เกิดคลัสเตอร์ใหม่ซ้ำรอยเด็กชายวัย 7 ขวบที่ญาตินำกลับบ้านและติดเชื้อจนต้องปิดตลาดไปก่อนหน้านี้ จึงได้แจ้ง นพ.มานพ ฉลาดธัญญกิจ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนมทราบทันที และนำมากักตัวในสถานกักตัวของรัฐแล้วตรวจรอบ 2 กระทั่งพบผลเป็นบวกดังกล่าว 
    ที่ จ.ภูเก็ต นพ.กู้ศักดิ์  กู้เกียรติกูล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า จากการตรวจเชิงรุกด้วยชุดตรวจ ATK วันละประมาณ 1,000 คน พบว่ามีผู้ติดเชื้อรายใหม่วันละ 100-200 คน  ล่าสุดพื้นที่หมู่ที่ 2 ตำบลราไวย์ อ.เมืองฯ  พบผลบวก  91 คน และตรวจซ้ำรอบสองด้วยชุดตรวจ FIA เป็นผลบวก 88 คน แยกเป็นชายไทยใหม่ (ชาวเล) 85 คน และชาวเมียนมา 3 คน สั่งซีลพื้นที่และเร่งควบคุมโรคแล้ว
    นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ยอมรับว่า จากตัวเลขผู้ติดเชื้อที่สูงขึ้น ทางจังหวัดต้องการควบคุมการระบาดให้อยู่ในวงจำกัดให้ได้โดยเร็ว เพราะทำให้การเข้ามาของภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ไม่น่าสดใสเหมือนตอนเริ่มใหม่ กังวลภาพที่ออกมาในเดือน ก.ย.จะเป็นอย่างไร ช่วงนี้เป็นช่วงที่ชี้เป็นชี้ตาย อนาคตของภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์กับการควบคุมโรคโควิด-19 ของภูเก็ต ถ้าเลวร้ายกว่านี้ ในฐานะผู้ว่าฯ ต้องพิจารณาตัวเอง เราต้องการคลีนแอนด์เคลียร์ภายในต้องจัดระบบกัน ทั้งในวันที่ 30 ส.ค.นี้จะหาข้อสรุปชัดเจนในมาตรการเดิมที่วางไว้ หรือมีประเด็นใดที่เพิ่มขึ้นหรือผ่อนคลายได้ รวมทั้งเรื่องการเข้ามาทางอากาศของสายการบินต่างๆ. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"