รอง ผบ.ตร.เผย มีหลักฐานชุดอดีตผู้กำกับโจ้ 15 นาย ล่อซื้อยาเสพติดจากผู้ต้องหา ทำตามยุทธวิธีและโดยชอบ แต่เป็นคนละส่วนกับกลุ่มใช้ถุงคลุมหัว "มาวิน" ยืนยันว่าคลิปฉาวมีปรากฏอยู่ในพนักงานสืบสวนสอบสวนตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว
วันที่ 28 สิงหาคม 2564 ที่ บก.ภ.จว.นครสวรรค์ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผบ.ตร. ซึ่งติดตามความคืบหน้าของคดีพ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือผู้กำกับโจ้ อดีต ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ ร่วมกับพวกใช้ถุงคลุมศีรษะนายจิระพงศ์ หรือ มาวิน ผู้ต้องหาคดียาเสพติดจนถึงแก่ความตาย เผยว่า จากการตรวจสอบข้อมูล ตำรวจควบคุมผู้ตายจากจุดที่เกิดเหตุมา สภ.เมืองนครสวรรค์ แล้วขยายผล มีตำรวจที่อยู่ในคดีการล่อซื้อยาเสพติดนี้ประมาณ 13-15 คน
แบ่งออกเป็น 2 ส่วน โดยส่วนแรกคือ ตำรวจชุดล่อซื้อ เป็นการกระทำโดยชอบ เพราะมีหลักฐานการลงบันทึกประจำวันธนบัตรล่อซื้อ มีพยานที่เกี่ยวข้อง และแฟนของผู้เสียชีวิตยืนยันชัดเจนมียาเสพติด เป็นยาบ้าจำนวนหนึ่ง และยาไอซ์ 3 จี ซึ่งน่าเชื่อได้ว่าตำรวจชุดที่หนึ่งเป็นการกระทำโดยชอบ
ส่วนที่สอง เป็นตำรวจชุดที่จับกุมล่อซื้อยาเสพติดและนำตัวไปขยายผล แบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกคือส่วนที่เข้ามาที่ห้องสืบสวนข้างหลัง มีทั้งผู้เสียชีวิตและแฟน ส่วนนี้อยู่ระหว่างการหาพยานหลักฐาน เพื่อตรวจสอบให้ได้ข้อเท็จจริงว่ามีการกระทำความผิดเพิ่มเติมหรือไม่ และส่วนที่สองคือการขยายผลที่นำถุงดำมาคลุมศีรษะผู้ตายเป็นเหตุทำให้เสียชีวิต ถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ นำไปสู่การแจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาทั้ง 7 ราย ก็ถูกดำเนินคดีไปแล้ว
"มีตัวละครที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมขึ้นมามากกว่า 7 คน โดยอยู่ในจำนวน 13-15 คนที่ได้บอกไปแล้ว อยู่ในระหว่างการขยายผลต่อ"
ส่วนที่พบบันทึกประจำวันเกี่ยวกับคดี ที่ปรากฏให้เห็นว่าตำรวจชุดจับกุมยาเสพติดได้ลงบันทึกประจำวันธนบัตรสำหรับล่อซื้อช้า ก็เพราะหลังจากเกิดเหตุต่างคนต่างตกใจและหลบหนีไป จึงไม่ได้นำบันทึกเข้ากระบวนการเหมือนกรณีทั่วไป ทำให้เราเพิ่งพบ แต่ยืนยันได้ว่าสำเนาประจำวันที่ให้ดูนั้นเป็นสำเนาจริงที่ไม่สามารถลงย้อนหลังได้
ผู้สื่้อข่าวถามถึงกรณีบุคคลที่พาพ.ต.อ.ธิติสรรค์มามอบตัวนั้น รอง ผบ.ตร.ตอบว่า เป็นอดีตข้าราชการ จากการสืบสวนสอบสวนทราบว่าบุคคลดังกล่าวไม่ได้ให้ที่พักพิงหรือช่วยเหลือ แต่แนะนำให้มามอบตัวในคดีนี้ จนได้รับการมอบตัว ส่วนวิธีการในบ้านของผู้ที่ช่วยเหลือ มีข้อมูลเป็นกล้องวงจรปิดปรากฏให้เห็นข้อเท็จจริงตามที่ตนได้ชี้แจงไป ไม่ได้เป็นการให้ที่พักพิงโดยหวังให้ความช่วยเหลือ
พล.ต.อ.สุชาติกล่าวว่า ประเด็นที่นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ บอกว่าไม่เชื่อมั่นใจการทำงานของเจ้าหน้าที่นั้น ยืนยันว่าไม่ได้หนักใจอะไร พร้อมจะชี้แจงข้อเท็จจริง พร้อมบอกต่อว่า สื่อน่าจะรู้ข้อเท็จจริงมากกว่า ไม่ได้มีการช่วยเหลือผู้กระทำผิด อยากจะชี้แจงเรื่องคลิปกล้องวงจรปิดที่หลุดออกไป โดยอ้างว่าเป็นพลเมืองดีเป็นคนปล่อย เพราะเกิดจากความขัดแย้งของคนในหน่วยงาน
"ขอยืนยันว่าคลิปดังกล่าวมีปรากฏอยู่ในพนักงานสืบสวนสอบสวนตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว แต่สาเหตุเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้บอกตั้งแต่แรก เพราะเป็นการปกปิดไม่ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องหลบหนีหรือทำลายพยานหลักฐาน แต่ยืนยันว่ามีหลักฐานตั้งแต่ต้น ด้วยเหตุผลอะไรขอไม่เปิดเผย"
รอง ผบ.ตร.เผยว่า สำหรับตัวของแฟนมาวินที่ปล่อยตัว และยังไม่แจ้งข้อกล่าวหา เนื่องจากว่าจากการสืบสวนสอบสวน ทั้งการล่อซื้อ ยังไม่พบการกระทำความผิด
วันเดียวกันนี้ นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เดินทางลงพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ เพื่อเข้าพูดคุยกับครอบครัวของผู้ต้องหาคดียาเสพติดที่ถูก พ.ต.อ.ธิติสรรค์กับพวกใช้ถุงคลุมศีรษะจนเสียชีวิต เพื่อพูดคุยและสอบถามรายละเอียดของคดี
ก่อนเข้าพูดคุยกับพ่อของเหยื่อ นายสิระได้ให้สัมภาษณ์บริเวณหน้าบ้าน โดยระบุว่า คดีนี้ตนเองยังมีข้อสงสัยในหลายประเด็น ตั้งแต่เรื่องของการนำตัวผู้กำกับโจ้ไปแถลงข่าว โดยให้โอกาสในการพูดเพื่อทวงบุญคุณจากคนนครสวรรค์ โดยอ้างว่าสิ่งที่ได้กระทำลงไปเพื่อต้องการจะตัดวงจรยาเสพติดไม่ให้แพร่ระบาดในจังหวัดนครสวรรค์ และพยายามจะตัดผู้ต้องหาร่วมรายอื่นออกจากคดีนี้ รวมถึงประเด็นของทนายความที่ได้รับคลิปดังกล่าวไป แต่เหตุใดจึงไม่นำมาเปิดเผยหรือมอบให้กับตำรวจ และสิ่งที่ทนายความอ้างว่าได้รับคลิปจากตำรวจยศนายพลหรือรองผู้บัญชาการ เป็นใคร เมื่อรับทราบถึงเหตุการณ์แล้วเหตุใดจึงไม่ดำเนินคดี เป็นการกระทำที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่
จากนั้นนายสิระได้สาธิตการใช้ถุงดำคลุมศีรษะ
นายโชคชัย อ่างแก้ว ทนายความผู้รับมอบอำนาจของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ ผกก.โจ้ อดีต ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ ผู้ต้องหาคดีร่วมกับพวกใช้ถุงดำคลุมศีรษะผู้ต้องหาคดียาเสพติดจนถึงแก่ความตาย เปิดเผยเกี่ยวกับการยื่นขอประกันตัวว่า ตอนนี้ยังไม่คิดยื่นขอปล่อยชั่วคราว ผกก.โจ้ เพราะต้องดูสถานการณ์และความเหมาะสมหลายๆ ด้าน รวมทั้งหลักทรัพย์ที่จะใช้ขอประกันตัว คงต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมายระยะหนึ่งก่อน แล้วค่อยคิดเรื่องประกันตัว
ส่วนที่ในชั้นสอบสวน ผกก.โจ้ให้การปฏิเสธต่อสู้คดีทุกข้อกล่าวหาทั้งๆ ที่ในชั้นจับกุม ได้แถลงกับสื่อมวลชนว่ายอมรับผิดเพียงคนเดียว ลูกน้องไม่เกี่ยว เพราะเป็นคนสั่งนั้น ก็เป็นสิทธิของผู้ต้องหา เพราะถูกแจ้งดำเนินคดีหลายข้อหา บางข้อหา ผกก.โจ้บอกว่าไม่ได้ทำ แต่คงเปิดเผยไม่ได้ว่ามีข้อหาอะไรบ้าง เพราะจะเสียหายต่อรูปคดี
นายสิปป์บวร แก้วงาม รองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ในฐานะโฆษก พศ. กล่าวว่า นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการมายังนายณรงค์ ทรงอารมณ์ ผู้อำนวยการ พศ. ขอให้มีข้อสั่งการไปยังผู้อำนวยการ พศ.จังหวัดนครสวรรค์ ตรวจสอบรายละเอียดในเรื่องดังกล่าว รวมถึงประสานไปยังวัดต้นสังกัดของพระรูปดังกล่าวให้ตักเตือนเพราะถือเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ส่วนจะตักเตือนวิธีใดนั้น ขึ้นอยู่กับทางเจ้าคณะผู้ปกครองจะพิจารณาตามความเหมาะสม แต่จะต้องตักเตือนจะเพิกเฉยไม่ได้ เพราะถือเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม
“การให้กำลังใจถือเป็นสิ่งที่ดี เป็นเรื่องส่วนบุคคลที่สามารถกระทำได้ แต่ต้องดูที่ความจำเป็นและความเหมาะสม ซึ่งการที่พระอานนท์ไปให้กำลังใจ ไม่ใช่เรื่องที่ผิด แต่เมื่อมีการไปออกสื่อ ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ไปในแง่ต่างๆ นั้น ซึ่งแม้ไม่สามารถพูดได้ว่าผิดพระธรรมวินัยหรือไม่ แต่ก็ต้องยอมรับว่าการกระทำดังกล่าวเป็นเรื่องไม่เหมาะสม และจำเป็นต้องตักเตือน” นายสิปป์บวรกล่าว
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เสนอผลสำรวจภาคสนามเรื่อง ผู้กำกับโจ้ สิ่งที่เห็นกับเบื้องหลังที่ปรากฏ กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ โดยดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) จำนวน 1,091 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 26-28 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา พบว่า เกือบร้อยละร้อยหรือร้อยละ 98.9 ระบุปัญหาทุจริตคอร์รัปชันเป็นต้นตอปัญหาใหญ่ในระบบราชการที่ต้องการให้นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลเร่งผ่าตัด สะสางครั้งใหญ่
ที่น่าพิจารณาคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 98.5 ไม่เชื่อมั่นต่อการแถลงข่าวเหมือนการตัดตอน ควรขยายผลให้กระจ่างเกี่ยวโยงกับเจ้าหน้าที่รัฐหน่วยงานอื่นหลายระดับ เช่น กรณีรถหรู เงินฝากและผลประโยชน์อื่นๆ, ร้อยละ 98.1 เชื่อว่ามีการเชื่อมโยงเป็นขบวนการในหลายระดับ, ร้อยละ 92.1 ไม่เชื่อมั่นต้นน้ำของกระบวนการยุติธรรม ที่ยังมีการรีดไถ ตบทรัพย์ ยักย้ายถ่ายเทของกลาง และส่วนใหญ่หรือร้อยละ 92.0 ระบุต้องปฏิรูปการทำงานแก้ปัญหายาเสพติดของ ป.ป.ส. ฝ่ายปกครอง ตำรวจทหาร ศุลกากร และอื่นๆ โดยเฉพาะยังพบการส่งออกยาเสพติดไปยังต่างประเทศต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและลดความเคลือบแคลงสงสัยของสังคม
ผอ.ซูเปอร์โพลกล่าวว่า โพลนี้สะท้อนความเข้าใจของประชาชนต่อภาพเหตุการณ์เชื่อมโยงขบวนการค้ายาเสพติดที่มีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกรณีตำรวจคลุมถุงดำผู้ต้องหายาเสพติด จว.นครสวรรค์ ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่เชื่อว่า มีขบวนการโยงใยเบื้องหลังไม่สามารถทำเองลำพังได้ มีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง ส่งต่อเชื่อมโยงรับประโยชน์กันหลายระดับ มีการละเว้นหน้าที่ด้วยการปล่อยยาเสพติดผ่านเข้าและส่งออกต่างประเทศตามที่มีปรากฏเป็นข่าวต่อเนื่อง ส่วนใหญ่ไม่เชื่อมั่นต่อกระบวนการยุติธรรมต้นน้ำ ที่ยังมีการรีดไถตบทรัพย์ผู้ต้องหาและยักย้ายถ่ายเทของกลาง ไม่เชื่อมั่นต่อการตัดตอนแถลงข่าวและตัดตอนสอบสวนเชื่อมโยง อยากเห็นความจริงใจของรัฐบาล และสนับสนุนนายกรัฐมนตรีถือธงนำแก้ปัญหาแบบไม่ไว้หน้า.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |