28 ส.ค.2564 นายสุทธิพงษ์ คงพูล ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เปิดเผยว่าภายหลังศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(ศบค.)ชุดใหญ่ เห็นชอบการผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ให้สามารถเดินทางโดยระบบขนส่งสาธารณะ รวมถึงการเดินทางโดยเครื่องบินในการเดินทางข้ามจังหวัดได้

อย่างไรก็ตามขณะนี้สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย อยู่ระหว่างรอข้อกำหนด ศบค. ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา และกำลังหารือกับ ศบค.ชุดเล็ก เพื่อกำหนดรายละเอียดปลีกย่อย เช่น ผู้โดยสารที่จะได้รับอนุญาตให้เดินทางโดยเครื่องบินจะต้องมีผลตรวจ ATK , ผลตรวจ RT-PCR หาเชื้อโควิด-19 และ ใบยืนยันการรับวัคซีนต้านโควิด-19

นอกจากนี้ ยังต้องพิจารณากรณีผู้ป่วยโควิด-19 ที่หายจากการป่วยแล้วระยะ 1-3 เดือน จะได้รับอนุญาตให้เดินทางได้หรือไม่ ซึ่งคาดว่าการหารือจะได้ข้อสรุปภายในวันนี้ และจะเร่งดำเนินการออกประกาศ อย่างช้าภายในวันพรุ่งนี้ และประกาศจะมีผลในวันที่ 1 กันยายน 2564 ส่วนสายการบินและท่าอากาศยานขณะนี้ทราบว่ามีความพร้อมในการเปิดให้บริการและปฏิบัติตามข้อกำหนดของ กพท. ที่จะประกาศออกมาแล้ว

ด้านนายนิตินัย  ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน) หรือทอท ระบุว่า ในส่วนของบริษัทมีความพร้อม หลังศบค.ชุดใหญ่ มีการคลายล็อกให้มีการเดินทางข้ามจังหวัด โดยอากาศยาน  ในพื้นที่จังหวัดสีแดงเข้ม โดยยืนยันว่า ทอท.มีความพร้อมในส่วนของบริการของท่าอากาศยานในกำกับทั้ง 6 แห่ง คือ สุวรรณภูมิ  ดอนเมือง หาดใหญ่ เชียงใหม่ แม่ฟ้าหลวงเชียงราย และภูเก็ต 

ทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นความพร้อมด้านอุปกรณ์   สถานที่ และบุคลากร  โดย ทอท.ยังรักษามาตรฐานการตรวจสอบ ภายใต้การกำกับ ของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย หรือ กพท.  รวมทั้งการบริการของท่าอากาศยานทั้งหมด เคยมีมีขีดความสามารถ รองรับผู้โดยสาร ได้ 140 ล้านคน ต่อปี   โดยระหว่างสถานการณ์โควิดกว่า 1 ปี ทอท.ไม่เคยปรับลดเกณฑ์มาตรฐาน เหล่านี้
      
อย่างไรก็ตาม ทอท.ยอมรับว่า มีความเป็นห่วง ในส่วนผู้ประกอบการที่เกี่ยวเนื่องในธุรกิจการบิน  เช่นผู้ประกอบการสายการบิน  ซึ่งที่ผ่านมาได้รับผลกระทบหนัก  จากช่วงสาถนการณ์โควิด  โดยหลายสายการบิน มีการปรับตัว เช่น การปรับที่นั่งโดยสารบนเครื่อง เพื่อใช้เครื่องบิน ในส่วนของธุรกิจ ขนส่งสินค้า  หรือคาร์โก้   หากมีการเปิดบิน1 กันยายนนี้  อาจต้องใช้ระยะเวลาในการเตรียมตัว   ประเด็นเรื่องปัญหาสภาพคล่อง ของสายการบินที่เข้าแผนฟื้นฟู   โดยในส่วนของ ทอท.ได้เตรียมความพร้อม ในส่วนของงานที่สามารถดำเนินการ เข้าไปเสริมได้  เช่น งานบริการภาคพื้น  ซึ่งได้เตรียมบริษัทลูก เข้าไปดำเนินการ หากการให้บริการของสายการบิน มีปัญหาติดขัด
        
ทั้งนี้ คาดหวังว่า ผลกระทบที่มีต่อธุรกิจสายการบิน จากสถานการณ์โควิด ในไทย จะไม่ทำให้เกิดผลกระทบเสียหายใหญ่ (Disrupt)จนกระทบกับสิทธิการบินระหว่างประเทศ ในเส้นทางการบิน ที่แต่ละสายการบินมีอยู่