"วิรัช" เผยร่าง พ.ร.บ.ตำรวจอยู่ในชั้น กมธ. ยอมรับสุดอืด! เหตุโต้แย้งกันทุกมาตรา จ่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ป้องกันอุ้มหาย เชื่อจะได้ใช้ในปีนี้  “สิระ” สิ้นหวังปฏิรูปตำรวจที่เขียนโดยเจ้านายแต่ลูกน้องรับกรรม แนะเร่งพิจารณาร่างแก้ ป.วิ.อาญา ให้อัยการร่วมสอบสวนตั้งแต่เบื้องต้น "อมรัตน์” มอบถุงดำนายกฯ ทวงถามความคืบหน้าปฏิรูป  "วิทยา" จี้นายกฯ รับผิดชอบเหตุ ตร.ฆ่าผู้ต้องหา เพราะเรื่องปฏิรูป ตร.เขียนไว้ใน รธน.แต่นายกฯ ไม่ทำ
    เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม หลังจากเกิดกรณีที่ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล อดีตผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองนครสวรรค์ หรือ "ผู้กำกับโจ้" ตกเป็นผู้ต้องหาใช้ถุงพลาสติกคลุมหัวผู้ต้องหาคดีค้ายาเสพติดจนเสียชีวิต ทำให้มีเสียงเรียกร้องให้มีการปฏิรูปตำรวจอีกครั้ง โดยนายวิรัช  รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. ... กล่าวถึงความคืบหน้าการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติว่า การพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าวไม่ทันสมัยประชุมนี้ ซึ่งร่างกฎหมายนี้ผ่านการพิจารณามาหลายคณะแล้ว ทั้ง พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์, นายมีชัย ฤชุพันธุ์ จนปัจจุบันเป็นร่างผสมผสานระหว่างรัฐบาลกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) จนกระทั่งส่งมาให้คณะกรรมาธิการพิจารณา ซึ่งหัวข้อแต่ละเรื่องมีข้อโต้แย้งเกือบทุกมาตรากว่าจะผ่านไปได้ จึงมีความล่าช้า คาดว่าถ้าเร่งพิจารณาจะดำเนินการให้แล้วเสร็จไม่ถึงปี โดยจะพยายามให้เร็ว และถ้าจะให้ได้น้ำได้เนื้อคงจะเป็นช่วงปิดสมัยประชุม เนื่องจากองค์ประชุมต้องใช้ ส.ว.ร่วมเป็นองค์ประชุมด้วย แต่ที่ผ่านมาติดสถานการณ์โควิด-19
    นายวิรัชกล่าวว่า สมัยประชุมนี้น่าจะพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้เป็นบุคคลสูญหายได้ในวาระ1 ก่อนปิดสมัยประชุมวันที่ 18 ก.ย. และในช่วงปิดสมัยประชุม กมธ.จะใช้เวลาพิจารณาประมาณ 1 เดือน ซึ่งหลายคนอยากให้ทำและจะเปิดสมัยประชุมอีกครั้งช่วงเดือน พ.ย. ดังนั้นปีนี้น่าจะได้ใช้ร่างกฎหมายดังกล่าว
    นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงการพิจารณาเนื้อหาร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวว่า รู้สึกสิ้นหวังเพราะไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ ตนมองว่าความยุติธรรมควรเริ่มที่งานสอบสวน แต่เนื้อหาร่าง พ.ร.บ.ตำรวจกลับไม่พบเนื้อหาที่ระบุถึงงานสอบสวน รวมถึงการให้หน่วยงานอื่นเข้าร่วมการสอบสวน เช่นพนักงานอัยการ นอกจากนั้นไม่มีเนื้อหาถึงการเจริญก้าวหน้าของเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมถึงเรื่องขวัญกำลังใจ
    "ก่อนจะมีการนำร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้มาให้สภาพิจารณา ควรจะให้ตำรวจชั้นผู้น้อยและประชาชนแสดงความคิดเห็นอย่างเต็มที่มาก่อน เพราะร่างกฎหมายฉบับนี้เป็นการเขียนขึ้นจากผู้บังคับบัญชา ไม่ว่าผู้บังคับบัญชาจะทำอย่างไร ลูกน้องก็ต้องรับกรรมเหมือนเดิม ซึ่งการที่เจริญก้าวหน้าอย่างผิดปกติ มีเส้นมีสาย มีเงิน และมีพรรคพวก สมัยก่อนจะเอาผลงานในการจับกุม ในการสืบสวนสอบสวนมาเป็นที่ตั้ง แต่ตอนนี้ใครสนิทกับใคร ใครลูกน้องใคร และวันนี้ พ.ร.บ.ตำรวจสิ้นหวัง"  นายสิระกล่าว
    นายสิระยังกล่าวถึงกรณี พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล อดีต ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ ผู้ต้องหาใช้ถุงพลาสติกคลุมหัวผู้ต้องหาคดีค้ายาเสพติดจนเสียชีวิตว่า ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจะแต่งชุดดำเพื่อไว้ทุกข์ให้ผู้สูญเสียและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ในฐานะที่เป็นผู้กำกับดูแลตำรวจ ถือเป็นการซ้อมทรมานกันอย่างโหดเหี้ยม ทั้งๆ ที่มีหลักฐานเป็นคลิปชัดเจน แต่ทำไมไม่มีการอนุมัติออกหมายจับมีแค่คำสั่งย้าย โดยตนจะแต่งชุดดำจนกว่า สตช.จะจับ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ได้ พื้นเพ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ไม่ใช่คนร่ำรวย แต่มีผู้สนับสนุนเป็นตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ทราบว่าเป็นว่าที่ลูกเขยว่าที่พ่อตากัน รวมทั้งเรื่องกระทำความผิดในการรับราชการลักษณะเดียวกัน และมีการโดนไล่ออกจากราชการ แต่ยังได้กลับมารับราชการใหม่ได้ และมีความเจริญก้าวหน้าในอาชีพข้าราชการตำรวจ 
    "ทั้งหมดนี้เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ สตช.ต้องปฏิรูปครั้งใหญ่ วันนี้ขอฝากถึงสภาขอให้ดำเนินการนำร่าง พ.ร.บ.อุ้มหายและทรมานที่คณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน  ได้จัดทำเสร็จสิ้นเป็นปีแล้วมาพิจารณา เพราะหากเร่งดำเนินการจะทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ไม่ต้องถูกโดนอุ้มหรือถูกทรมานเพิ่มขึ้น เพราะกฎหมายนี้มีโทษรุนแรง และขอเรียกร้องไปที่รัฐบาลซึ่ง กมธ.กฎหมายได้ยื่นเรื่องผ่านสภาไปแล้ว เรื่องการแก้ไข ป.วิ.อาญาในการสอบสวน ซึ่งหากปล่อยพนักงานสอบสวนที่เป็นตำรวจทำการสอบสวนแต่ฝ่ายเดียว การให้ความยุติธรรมกับประชาชนอาจจะไม่เพียงพอ จึงต้องมีการขอให้อัยการเข้ามาร่วมสอบสวนตั้งแต่เบื้องต้น" นายสิระกล่าว 
    ด้านนายราเมศ รัตนะเชวง เลขานุการประธานรัฐสภา กล่าวว่า  ขณะนี้การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติอยู่ระหว่างการพิจารณาของ กมธ.วิสามัญ ซึ่งเป็นร่างที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เสนอต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ 19 ม.ค.64 เป็นร่าง พ.ร.บ.ที่ตราขึ้นเพื่อดำเนินการตามหมวด 16 ว่าด้วยเรื่องการปฏิรูปประเทศ ซึ่งจะเข้าที่ประชุมร่วมกันระหว่าง ส.ส.และ ส.ว. คือที่ประชุมร่วมรัฐสภา โดยจะพิจารณา 3 วาระ  ซึ่งตอนนี้อยู่ในชั้น กมธ.คือวาระที่ 2 ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน ตามรัฐธรรมนูญ และข้อบังคับการประชุมรัฐสภาทุกประการ
    วันเดียวกัน ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรที่มีนายศุภชัย โพธิ์สุ  รองประธานสภาผู้แทนฯ คนที่สองทำหน้าที่ประธานการประชุม ก่อนดำเนินการตามระเบียบวาระการประชุม น.ส.อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล  ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ลุกขึ้นขอหารือว่า คลิปผู้กำกับการใช้ถุงพลาสติกคลุมหัวผู้ต้องหาคดียาเสพติดทรมานเพื่อรีดทรัพย์ อยากถามว่าเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร และขอทวงถามกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าการปฏิรูปองค์กรตำรวจดังที่เขียนไว้ในรัฐธรรมนูญปี 60  ทำไปถึงไหนแล้ว และนายกฯ จะมีความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์นี้อย่างไร เพราะยังไม่มีการปฏิรูปตำรวจเกิดขึ้น อีกทั้งยังมีคำสั่ง คสช.ให้รวบอำนาจการบริหารองค์กรตำรวจเข้ามารวมศูนย์ในส่วนกลาง ไม่มีการกระจายอำนาจ จนเป็นต้นเหตุให้มีการซื้อขายตำแหน่งวิ่งเต้นโยกย้าย
    “แด่ความโง่ โอหัง ปล่อยปละละเลย และฟ้องคดีกับคนตัวเล็กตัวน้อย ในฐานะเป็นผู้แทนประชาชน ขอมอบถุงดำ (ชูถุงดำ) ให้นายกรัฐมนตรีไปพิจารณาเอาว่าจะใช้กับตัวเองอย่างไรบ้าง” น.ส.อมรัตน์ กล่าว
    ส่วนนายวิทยา แก้วภราดัย อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นแกนหลักในการผลักดันให้เกิดการปฏิรูปตำรวจ กล่าวว่า เรื่องการปฏิรูปตำรวจเป็นเรื่องที่มีอยู่ในรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน หลังมีการบังคับใช้แล้วรัฐบาลต้องปฏิรูปตำรวจให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี ถ้าไม่แล้วเสร็จให้มีการพิจารณาเรื่องโยกย้ายตามอาวุโสเป็นหลัก แต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรียังใช้ระบบเดิม สุดท้ายแล้วนายกฯ ไม่ยอมเดินหน้าในการปฏิรูป องค์กรอื่นก็ไม่มีการปฏิรูปเช่นกัน แม้จะบังคับไว้ในรัฐธรรมนูญ จนถึงขณะนี้ 7 ปีของการดำรงตำแหน่งนายกฯ ของ พล.อ.ประยุทธ์ บ้านเมืองจมปลักทั้งหมด มีแต่เสียหาย ที่เคยว่าเขาไปทั่วกลับเข้าตัวเองทั้งหมด เพราะฉะนั้นการสร้างรัฐบาลชุดนี้ก่อสร้างด้วยซากปรักหักพังของระบบที่ล้มเหลว
    “สิ่งที่สะเทือนใจประชาชนที่สุดคือ เรื่องตำรวจฆ่าผู้ต้องหารีดทรัพย์ที่ จ.นครสวรรค์ เกิดขึ้นเพราะปล่อยให้ตำรวจดีล้าหลัง แต่ตำรวจที่วิ่งเต้นซื้อตำแหน่งกลายมาคุมอำนาจ โดยเฉพาะ ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ ไต่เต้าขึ้นมาจากความร่ำรวย ขับรถคันละ 30-40 ล้านบาท คิดว่าระบบมันผิดพลาด แล้วจะมาโทษตำรวจอย่างนั้นอย่างนี้ไม่ได้  ท่านนายกฯ ต้องรับผิดชอบ เพราะเรื่องการปฏิรูปตำรวจได้เขียนไว้ในรัฐธรรมนูญ แต่ท่านกลับไม่ทำ ผมพูดเรื่องตำรวจซื้อขายตำแหน่ง นายกฯ ออกมาขอบคุณที่ให้ข้อมูล แต่สุดท้ายผมถูกตั้งข้อหาหมิ่นประมาทสำนักงานตำรวจแห่งชาติและถูกสั่งฟ้อง ประชาชนเรียกร้องมาต่อเนื่องเพื่อให้ท่านทำตามรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับการปฏิรูปตำรวจ ถ้าท่านไม่ทำ ผมคนหนึ่งที่จะไล่ตามและขอให้ท่านทำให้ได้" นายวิทยากล่าว 
    นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่มีการเรียกร้องให้สภาพิจารณาบรรจุร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้เป็นบุคคลสูญหายว่า กฎหมายฉบับดังกล่าวได้มีการบรรจุระเบียบวาระไปแล้วตามเวลาที่กำหนดมา ส่วนจะเสร็จทันในสมัยประชุมนี้หรือไม่ เหลือเวลาประชุมถึงวันที่ 18 ก.ย.ก่อนปิดสมัยประชุม ซึ่งมีวาระที่เป็นข้อบังคับคือการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเข้ามา โดยรัฐบาลแจ้งว่าพร้อมตั้งแต่ 31 ส.ค.เป็นต้นไป ซึ่งต้องรอผลการหารือจากวิป 2 ฝ่ายเพื่อเคาะกรอบเวลาอีกครั้ง.