นักร้องหนุ่ม วิด ไฮเปอร์ ที่ล่าสุดทนไม่ไหว หลั่งน้ำตาลูกผู้ชายตัดพ้อลงโซเชียล หนี้ท่วม อ่วมไม่มีเงินกินข้าวแล้ว จนกลายเป็นประเด็นดราม่า เพราะฟุ่มเฟือยหรือหิวแสงกันแน่ โดยเจ้าตัวมาเปิดใจผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่องone31 ที่มีพีเค ปิยะวัฒน์ และใบเฟิร์น พัสกร เป็นพิธีกรดำเนินรายการ
ที่โพสต์เกิดอะไรขึ้น?
วิด : จริงๆ แล้วโควิดแหละ มันทำให้ทุกคนเป็นอย่างนี้ เพื่อนๆ ศิลปินบางคนยิ่งกว่าพี่ก็มี พี่แค่ตัดพ้อเฉยๆ ว่ามันเป็นอย่างนี้ จริงๆ ก็สุดทนแล้วเหมือนกัน เงินเก็บก็หมด อะไรก็หมด เราไม่เคยยืมเงินใคร ตอนแรกๆ เรื่องเงินไม่ขัดสนเลย แต่ตอนนี้มันขัดสน พอเราจะยืมใคร มันก็ไม่มีให้ยืม อีกอย่างคือคนที่ให้ยืมได้เขาก็ไม่ได้ดีกว่าเราเท่าไหร่ แต่บังเอิญว่าเขาให้ยืมมาแล้วพี่รู้สึกอึดอัดตรงที่ว่าเวลาไปคืนเขาไม่ตรง เราก็รู้สึกอึดอัด เวลาคืนเรายืมคนนี้ มาคืนคนนี้ คือเราหาไม่ทัน เพราะพี่พยายามสุดแล้ว จากที่ตัวเองมีเงินอยู่ก็หมดไป ช่วงนี้ไม่มีเงิน รายได้ไม่เข้า หาหนทางไปทำอย่างอื่น แต่มันก็ไม่ใช่งานที่เราถนัด มันออกไปเท่ากับมันไม่ได้ประโยชน์เท่าไหร่เลย มีแต่ติดลบด้วย
สถานการณ์ของวิด ไฮเปอร์ ขนาดนี้ สาหัสขนาดไหน?
วิด : สาหัสๆ ค่ารถ ค่าบ้านก็ทวงหมด เพราะเรามีผ่อนผันไปแล้ว เราคิดว่าโควิดมันน่าจะมา 3-4 เดือนหมด แต่มันยาว แล้วมีดอกเบี้ยอีก ก็เลยบอกว่าหันไปทางไหนมันก็ลบไปหมด เพราะฉะนั้น คนไม่เป็นแบบนี้หรือเพื่อนๆ คนไหนไม่เป็นแบบนี้ไม่รู้ นอกจากตัวเราเอง เพราะฉะนั้นผมไม่ได้งอแงที่มาบ่นว่าไม่มีเงิน จะให้คนอื่นมาช่วย โอนมาให้ มาช่วยดูแล มันไม่ใช่ ผมแค่ตัดพ้อตัวผมเองว่าตอนนี้มันเป็นอย่างนี้ ถ้าสมมติว่ามันยังไม่หมดโควิดผมคงแย่ก่อนที่จะหมดโควิดแน่ๆ
อะไรที่ทำให้เราตัดสินใจโพสต์ลงไป?
วิด : มันไม่ไหว แล้วรอบข้างก็เป็นหมด ทั้งเพื่อนอะไรด้วย เราเลยโพสต์ว่าไม่ไหวจริงๆ อีกอย่างนึงคือเราลงโพสต์ไปอย่างนั้นแล้วไม่คิดจะออกรายการอะไรอยู่แล้ว ใครมาสัมภาษณ์ พี่ออกรายการไหม คิดอยู่ในใจว่าไม่ออกหรอก พี่แค่ตัดพ้อตัวเอง เดี๋ยวคนอื่นมองว่าพี่อยากโปรโมทตัวเองหรือเปล่า มีคนออกมามันมีทั้งบวก ลบ แต่พอคิดไปคิดมา เพื่อนบอก แล้วพี่น้องบอกก็ลองดูแล้วกัน ให้เขารู้ว่าเราเป็นอย่างนี้จริง กล้าพูดไปเลย แล้วพี่เป็นคนที่พูดอะไรตรงๆ เอาก็เอา แล้วเป็นกระบอกเสียงให้หลายๆ คนที่เป็นอยู่ด้วย อย่าคิดว่าเรา เห้ย...คุณมาฉายแสงหรือเปล่า ผมเคยออกสื่อแล้วมีอะไรอย่างนี้หรือเปล่า ไม่เคย ผมมีกระแสตอบนับเพลงดังหลายเพลงก็จริง แต่ผมไม่ค่อยได้ออกสื่อมากมาย ทำงานตัวเอง ทำนู่น ทำนี่ ทำสังคม เล่นกีฬา ช่วยเหลือคนอื่นเยอะแยะมากมาย แล้วไม่คิดจะหวังผลตอบแทนกลับมา ถ้าอย่างนี้คนมองว่าผมฉายแสง ผมบอกเลยผมไม่เคยแม้แต่คิด ผมทำจริง
พี่บอกว่าชีวิดลำบาก บาทีอาจจะต้องยืมเงิน อายไหม?
วิด : อาย ที่ออกรายการ จากคนมองเราจุดนี้ ถ้าเรามาพูดหรือสัมภาษณ์อะไรออกไป มองต่ำเลยนะ เพราะเราไม่รู้หนอกในความคิดเขาบวกหรือลบ คิดดับเรา
พี่สามารถดูแลตัวเองกับเงินที่อยู่ในตัวไปได้มากน้อยแค่ไหน?
วิด : มันไม่ได้เยอะอะไร ตอนนี้ไม่เท่าไหร่แล้ว คือมันติดลบหมดแล้ว เราไม่มีรายได้เข้ามันก็ลำบากหมด อีกอย่างเพื่อนก็คอยช่วยเหลือ แต่บางทีเราทำๆไปแล้วมันไม่ได้อะไรกันเลย เรารู้สึกว่าต้องหยุด ถ้าไม่หยุดค่าใช้จ่ายมันก็มี
ตอนนี้แต่ละเดือนเรามีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?
วิด : มีทั้งค่ารถ ค่าบ้าน รวมแล้ว ห้าหมื่นกว่าบาท แล้วค่าใช้จ่าย ค่าโทรศัพท์ ดูแลน้องหมา ให้แม่ ทุกอย่างมันรวมๆแล้วเป็นแสน
เดือนที่แล้วเงินที่เข้ามาเท่าไหร่?
วิด : ไม่มีเลย น้อยมาก ไม่กี่หมื่น ให้เช่าพระไป แล้วพอมันเริ่มหยุดมันก็มีลบขึ้นเรื่อยๆ ค่าบ้าน ค่ารถก็โทรมา มันก็กลายเป็นว่าทุกอย่างรอบด้าน เราเลยมองว่าไม่ไหวแล้ว เราไม่เคยเป็นแบบนี้ แล้วเรามองว่าตัวเรามันมีอีโก้ในตัวนะ แต่พอเป็นแบบนี้ต้องบอกคนตรงๆ ว่ามันไม่ได้จริงๆ แล้วคนอื่นที่อยู่รอบข้างเราก็เข้าใจเราเหมือนกันว่าเราให้สู้ๆ เราก็สู้อยู่ สู้แบบที่ไม่เคยเอ่ยปากยืมเงินใคร เพราะรู้สึกเกรงใจคน เพราะเราไม่เคยไปยืมขนาดนั้น ถ้าไม่สุดทนจริงๆ บางทีคนอื่นมายืมพี่ พี่ไม่มีไปยืมคนอื่นมาให้ คือยืมมาให้เพราสงสารเขาตรงที่เขาไม่มี แต่เราลุยไปก่อน
แต่ตอนนี้เราต้องยืมให้ตัวเองแล้ว?
วิด : ตอนนี้มันไม่ไหวแล้ว เข้าใจโลกเลย ทุกอย่างที่เป็นแบบนี้
นอกเหนือจากเงินที่มันไม่เข้าแล้ว ยังโดนโกงค่าตัวอีก?
วิด : อึดอัด คนคิดว่าพี่มีเงินเก็บเยอะแยะ จริงๆแล้วพี่เริ่มมาจากศูนย์นะ พี่ไม่มีอะไร บ้านพี่เช่าตั้งแต่เล็กๆ จนพี่ออกเพลง พี่ยังเช่าบ้านอยู่เลย แล้วพี่เริ่มซื้อบ้าน ดาวน์บ้านด้วยการมาตัวเปล่า ซื้อทีวี ซื้ออะไรเข้าบ้านหมดเลย แม่ก็อยู่กับน้อง เราก็พยายามทำแล้วจะได้มาอยู่ด้วยกันได้ คือเริ่มมาจากตรงนั้น พี่ไม่ได้มาจาก 10 พอมาจาก 0 มันก็เริ่มต้นมา พอรายได้เข้ามามันก็ไม่ได้เยอะแยะมากมาย เป็นวงก็ต้องหารเท่ากันทุกอย่าง เลยบอกว่ามันไม่ไหว ทุกอย่างคือมันรอบด้านไปหมดเลย
ที่เราโดนโกง เราโดนโกงแบบไหน?
วิด : ก่อนที่จะเคาท์ดาวน์ปีที่แล้ว ก็มีงานเลี้ยงตั้งแต่ 20 ขึ้นมาจนถึง 31 แต่พอโดนโควิดแรงมันงดหมดเลย แล้วที่เหลือที่บางงานที่เล่นแล้วมันไม่ได้เงิน
เล่นไปแล้ว แต่ทำไมไม่ได้เงิน?
วิด : พอเล่นเสร็จ เขาจะให้เงิน โอนเงิน คือไม่โอน เขาบอกติดไว้ก่อนพี่ ผมโดนโควิดเหมือนกัน ลองคิดดู โดน 3 งานพี่ก็โดนไปแสนกว่าแล้ว แสนกว่าไม่เท่าไหร่ จ่ายลูกวงก่อน ถ้าเล่นเป็นวง จ่ายลูกวง จ่ายค่ารถตู้ก่อน เราโดนคนเดียว ทวงเขา เขาก็ไม่มี เราก็ไม่รู้จะพูดยังไง บางคนคนกันเองที่รู้จักกันก็มี บางคนไม่รู้จักหน้าใหม่มาซื้องานเราก็ต้องให้เครดิตเขาหน่อย พอเราไปบ่นมากก็จะรู้สึกไม่ดี แต่เขาไม่มองหรอกว่าบางครั้งเราก็ไม่มีเหมือนกัน พอไม่มีแล้วหาไม่ได้ มันกลายเป็นติดลบ
เรายังอยู่ค่ายไหม?
วิด : อยู่ค่ายครับ ค่ายสามารถให้เรียกได้ แต่จริงๆ คือทำไม่ได้อยู่ดี เพราะเราเป็นคนคุย แล้วอีกอย่างงานแบบนี้พี่รับเองอยู่แล้ว พอได้เงินมาเราก็จ่ายหักเปอร์เซ็นต์เขาไป แต่พอไม่ได้เงินตรงนั้นเราก็ต้องตามด้วยตัวเอง ก็เลยบอกว่ามันก็ลำบาก
ปัจจุบันมีการทวงตามอยู่ไหม?
วิด : พี่เลิกทวงแล้ว ตั้งแต่ก่อนสิ้นปีมาถึง 2-3 เดือนพี่มีโพสต์ออกไป แล้วตอนหลังไม่ทวงแล้วถือว่าไม่เป็นไร
เขาเงียบกริบเลย?
วิด : อือ ผู้จัดการพี่ก็โดน บางทีเอาพี่ไปเล่นคนเดียว เขาจ่ายค่าเครื่องบินไปก่อน เขาก็ยังไม่จ่ายค่าตัว ยังไม่จ่ายค่าเครื่องบิน บอกว่าเอาอีกงานนึง งานต่อไป พอเล่นงานต่อไปปุ๊บพี่จ่ายหมดเลย ตัวผู้จัดการก็โดนค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับตั้งกี่รอบ
เท่ากับไปเล่นให้เขาฟรีเลย?
วิด : พอผู้จัดการผมส่งข้อความไปทวง มีการตอบกลับมาว่า ทวงเหมือนเด็กเลย พี่ยังงงเลย นี่ใครติดหนี้ใครกันแน่
อยากให้พูดอีกครั้ง ณ ตอนนี้สถานการณ์มันแย่อยู่แล้ว ถ้าคุณเห็นอก เห็นใจ อยากให้เปิดใจหน่อย?
วิด : จริงๆ ไม่อยากพูดเยอะหรอก ผมรู้ เข้าใจทั้งเขาด้วย เราด้วย แต่ตอนนี้มันเป็นอยู่ทุกๆ อย่าง ถ้าอะไรมี่พอช่วยเหลือกันได้ ช่วยดีกว่านะครับ ไม่มากก็น้อย มันก็ช่วยกันได้ อย่าคิดมุมคุณฝั่งเดียว ลองคิดมึมกลับฝั่งนี้ คุณก็จะรู้ว่าเขาก็เดือดร้อนเหมือนกัน เพราะฉะนั้นมีอะไรที่ช่วยกันได้ก็ช่วยกันดีกว่า เพราะผมก็ไม่อยากทวงมากมายละ เราไปทวงมากก็เหมือนเราบ้าบอคอแตก มันไม่ได้อะไร เหนื่อย แล้วไอนั่นก็จะโวยวายเราอีก จริงๆ แล้วคุณลองมองมุมกลับกัน คุณเป็นผม ผมเป็นคุณ แล้วคุณจะเป็นยังไง แล้วคุณจะรู้เอง แล้วลองไตร่ตรองดูว่าอะไรพอจะช่วยกันได้ก็ช่วยกัน
ถ้าเขาบอกว่ามีให้แค่ครึ่งเดียว เราหายกัน แล้วเขาโอนมาให้โอเคไหม?
วิด : ได้ ไม่เป็นไรหรอก ไม่ซีเรียส ผมไม่ได้มองตรงนั้น มีเท่าไหร่ก็บอกมาตรงๆ ตอนผมมีเงินติดผมเถอะ ผมไม่ว่าหรอก เรื่องเงิน เรื่องทองผมไม่สนใจเลย แต่ตอนผมไม่มีเงิน ผมพูดจริงๆ เวลาผมหลุดปากไปว่าพี่ตรงคืนผมตรงนะ ผมไม่มีนะ คือเรื่องจริงที่ผมพูด แต่ถ้าเกิดไม่ให้ผม หรือคืนไม่ตรงผมรู้สึกโกรธตรงที่ว่าผมบอกแล้ว แต่เวลาผมมีเงิน สบายๆ คนรอบข้างจะรู้ว่าผมไม่ได้ซีเรียสเรื่องเงินเลย แต่เวลาไม่มีเราบอกตรงๆ ต้องเข้าใจ พี่บ้านไม่มีฐานะเท่าไหร่ แต่เราเป็นคนตรง พูดอะไรตรง
วันนี้มาถึงจุดแตกหักแล้ว มีอะไรก็ต้องพูดแล้ว เพราะมันไม่มีแล้ว?
วิด : ใช่
แล้วนอกจากไม่ได้เงินเล่นคอนเสิร์ตแล้ว พี่เอาเงินไปลงร้านอาหารอีก?
วิด : ใช่ แต่ร้านปิดไปนานแล้ว ปิดตั้งแต่โควิดรอบก่อนแล้ว ร้านพี่เปิดได้ไม่ถึงปี แต่มันมีเรื่องข้างในด้วย เอาจริงเรื่องโควิดพี่ไม่ได้กลัว มันมีเรื่องข้างใน
อันนี้พี่เป็นเจ้าของคนเดียวหรือมีหุ้นส่วน?
วิด : เปล่าครับ มีหุ้นใหญ่ก่อน แล้วหุ้นใหญ่เขาปูทางไม่ดี แล้วมีหุ้นลมเพื่อนๆ ที่เป็นศิลปิน แล้วพี่เป็นคนช่วยดูแล แต่แล้วมันก็เหมือนตกกระไดพลอยโจรที่ต้องเสียเงินไปดูแลตรงนั่นด้วย แล้วทุกอย่าง ตลอด 8-9 เดือน เราไม่ได้เงินสักบาท ร้องเพลงด้วย เงินจมลงไปตรงนั้น เพราะเขากระโดดออกไปแล้ว เราต้องดูแลต่อ เพราะการเซ็นสัญญาเช่าที่ 1 ปี แล้วพี่ร้องไห้ครั้งสุดท้ายคือวันที่ปิดร้าน เพราะสาเหตุว่าเราอยากจัดคอนเสิร์ตตัวเอง เดือนสิงหาคม แต่มันไม่ถึง มันเลยกลายเป็นว่าวันนี้ต้องปิดแล้ว ร้องเพลงสุดท้ายเสียน้ำตา ตรงที่ว่าพี่บอกทุกคนตรงที่อยู่ในร้าน บอกว่า คนไหนที่เป็นแฟนคลับร้าน นายมีเซ พี่วิดบอกว่าวันนี้ว่าง เดี๋ยวมาเล่นคอนเสิร์ตให้ดู ไม่ต้องซื้อบัตร ใครมาถึงก่อนได้นั่งก่อน วันนั้นคนล้น แล้วมีคนมารอเต็มเลย พอร้องเพลงสุดท้าย เราก็บอกว่าพี่ต้องปิดร้าน สาเหตุคือเราย้ายไปอยู่ที่อื่น แล้วน้องๆ ที่เข้ามาดูเยอะๆ บ่อยๆ ร้องไห้กอดคอ แล้วบอกว่าพี่อยู่ที่ไหนบอกนะ มันรู้สึกอึดอัด มันแบบไม่ใช่ความผิดเรา จริงๆ ผมกล้าพูดตรงนี้ ถ้าผมดูแลไม่มีเจ๊ง พี่ดูแลทีแรกพี่วางโครงการไว้อย่างนี้ๆ แต่ละวงเล่นประจำยังไง มีศิลปินมาร้องประจำ แต่เขามาเปลี่ยนโครงการ
ที่ปิดร้าน จะเรียกว่าส่วนนึงโดนโกงได้ไหม?
วิด : บอกแบบนี้ตอนแรกเขาให้เราเป็นหุ้นลมดูแลทุกอย่าง เขาลงทุนให้ 1 ล้าน แต่เขาให้เราออกเงินช่วยแต่งร้านอะไรก่อน ตอนนั้นลงไปก็เดี๋ยวแกคืนให้ พอจบอะไรเสร็จพอเริ่มมีปาก มีเสียงอะไรกัน หุ้นใหญ่อยู่ๆ แกก็ออกเลย พอออกเสร็จปุ๊บใครดูต่อ ผู้จัดการพี่เป็นคนเซ็นสัญญา ไม่งั้นเขาโดนฟ้อง แล้วเงินเรายังไม่ได้คืน อยู่ๆ ปิดวันนั้นเลย เขาทะเลาะกัน มันต้องสานต่อกัน ก็ทำต่ออีกกับผู้จัดการ 2 คน
เงินมันจมร้าน นายมีเซ 8-9 เดือน หมดไปเท่าไหร่?
วิด : เป็นล้านนะ ตัวพี่เองลงไป 4-5 แสน คือทุกวันไม่ได้เงินเลยไปดูแล ร้องเพลงด้วย ผู้จัดการพี่ก็โดนเยอะ เดือนแรกพี่จัดคอนเสิร์ต กำไรเดือนแรก 6-8 หมื่น มันก็ดีๆ มาตลอด พอเริ่มมีอะไร ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปหมด
เดือนแรกที่ได้กำไรเราได้ไหม?
วิด : ไม่ได้ครับ เรามองว่าซับพอร์ตตรงนั้นก่อน เงินก็ไม่ได้มา ถามว่ากำไรตรงนั้นไปไหน คือยอดบัญชีตรงนั้นมั่วไปหมด พี่ยอมรับว่าเราดูแลฝ่ายบันเทิงทุกอย่าง พี่ไม่ได้ไปวุ่นวายตรงนั้น
บทเรียนครั้งนี้พี่จ่ายไป 5 แสนกว่า?
วิด : ล้าน
เข็ดไหม?
วิด : ทำต่อ แต่ทำเอง ทำกับน้องชาย ไม่หุ้นกับใครอีกแล้ว คือสาเหตุที่เจ๊งมันมั่วอยู่ภายใน จริงๆ ไม่ใช่อะไร เพราะคนมันจะเยอะอยู่แล้ว มันหม่ได้เป็นอย่างที่เราคิดหรอก แล้วพี่มองว่าถ้าเกิดพี่อยู่ต่ออีกสักพักอาจจะโดนโควิด แล้วตอนนั้นที่ไม่ไหว เพราะมันมีบอลโลก บอลโลกเข้ามาคิดว่าจะสู้ บอลโลกมันอาจจะทำให้คนดูเยอะ แต่บอลโลกมันเล่นติดต่อกัน พักแค่ชั่วโมงเดียว ครึ่งชั่วโมง ต่อเกมสอง คนดูอยู่บ้านอย่างเดียว และที่สำคัญพี่โดนค่าเช่าแพงมาก
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |