จากซ้ายไปขวา ชาติพงษ์ จีระพันธุ , ไพรัช พรสมบูรณ์ศิริ , ธรัมพ์ ชาลีจันทร์ และโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง
เช็กเลย! ก.อ.ตั้งอัยการล็อตใหญ่ 917 ราย "ชาติพงษ์" มือปราบคดีทุจริตขยับขึ้นรอง อสส.เบอร์ 1 ทีมโฆษก เลขาฯ อสส.เก่าใหม่ ขยับพรึ่บ "ไพรัช" คุมคดีเเขวง "อิทธิพร" นั่งอธ.คดีอาญา "ศักดา" ครูใหญ่เนฯได้กลับกรุงนั่งอาญาตลิ่งชัน "ธรัมพ์" ผงาด อธ.ก.อ.คุมบัญชีโยกย้าย "วิรุฬห์" ขึ้นคดีเศรษฐกิจ ส่วนระดับรอง อธ. "โกศลวัฒน์" ได้เก้าอี้รองแขวงดูคดีทั้งกทม. "ประยุทธ" รองโฆษก พุ่งขึ้นรองอธ.คดีพิเศษ "ธีรวัฒน์" เพื่อนรักไปนั่งแรงงาน ภ.2 ด้าน "นารี" คิว อสส.หญิงคนเเรกนั่งที่เดิม "วัชรินทร์" อัยการเอฟบีไอปีนี้ยังไม่ขยับ รอขึ้นรองอธ.งวดหน้า "วงศ์สกุล" ต่ออาวุโส
25 ส.ค.64 - เมื่อเวลา 09.00 น. ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.แจ้งวัฒนะ นายพชร ยุติธรรมดำรง ประธานคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) เป็นประธานการประชุมก.อ. ครั้งที่ 8/2564 โดยมีวาระแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการอัยการตั้งแต่ระดับรองระดับรองอัยการสูงสุด จำนวน 6 ราย, ผู้ตรวจการอัยการ 9 ราย, อธิบดีอัยการ 75 ราย, รองอธิบดีอัยการ 104 ราย, อัยการพิเศษฝ่าย 152 ราย, ข้าราชการอัยการชั้น 6 จำนวน 98 ราย, ข้าราชการอัยการชั้น 5 จำนวน 109 ราย, ข้าราชการอัยการชั้น 4 จำนวน 117 ราย, ข้าราชการอัยการชั้น 3 จำนวน 120 ราย, อัยการอาวุโส 21 ราย และอัยการอาวุโส (ตั้งใหม่) 106 ราย รวม11 บัญชี 917 ราย ซึ่งมีการพิจารณาเสร็จในช่วงบ่าย
โดยมีอัยการชื่อดังที่ได้ขยับมีรายชื่อน่าสนใจดังนี้ นายชาติพงษ์ จีระพันธุ รองอัยการสูงสุดลำดับอาวุโสที่ 7 ไปเป็นรองอัยการสูงสุดลำดับที่ 1
สำหรับนายชาติพงษ์ ขึ้นชื่อในฝีมือเรื่องปราบการทุจริตฯ มีประสบการณ์มาก เคยนั่งรองอธิบดีคดีพิเศษ เป็นหัวหน้าคณะทำงานที่คุมคดีสำคัญ ของสำนักงานคดีพิเศษหลายคดี เช่น คดีนิติบุคคล ฟิลิป มอร์ริส นำเข้าบุหรี่โดยหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากร ซึ่งขณะนี้มีกรณีพิพาท ระหว่างประเทศไทยกับประเทศฟิลิปปินส์ ในเรื่องนี้ที่องค์การการค้าโลก หรือดับเบิลยูทีโอ ,คดีทุจริต สหกรณ์เครดิต ยูเนี่ยนคลองจั่น ซึ่งเกี่ยวพันถึงคดีทุจริตฟอกเงินเครือข่ายวัดธรรมกาย คดีธนาคารกรุงไทย ปล่อยกู้ กลุ่มบริษัทกฤษดามหานครโดยทุจริตที่มีอดีตนายกรัฐมนตรี เเละนักการเมือง นักธุรกิจ นายธนาคารตกเป็นจำเลย เเละยังมีความผิดเกี่ยวกับการฟอกเงิน พัวพันถึงนายพานทองแท้ ชินวัตร ,รวมถึงคดีทุจริต การฟอกเงินในโครงการบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่านโดยก่อนขึ้นรอง อสส.ได้เข้ามาคุมคดีเศรษฐกิจที่มีความซับซ้อนถือเป็นอัยการมีฝีมือ ประสบการณ์มาก ขึ้นชื่อเรื่องเป็นคนเที่ยงตรงการเป็นรอง อสส.เบอร์ 1 ทำให้ได้เป็น ก.อ.โดยตำเเหน่งอัตโนมัติ
นายบัณฑูร ทองตัน อธิบดีอัยการสำนักงานคดีแรงงานภาค 8 อดีตอัยการมือว่าความคดีทวงคืนหาดเลพัง มูลค่านับหมื่นล้านคืนจากกลุ่มนายทุนไปเป็นอธิบดีอัยการภาค 8
นายสุวิช ชูตระกูล อธิบดีอัยการปกครองเพชรบุรี ซึ่งเป็นผู้ได้รับเลือกจากตั้งให้เป็น ก.อ. ประเภท ข้าราชการอัยการชั้น 5 ขึ้นไป เมื่อวันที่ 12 มี.ค.ที่ผ่านมาด้วยคะเเนนสูงสุด ไปเป็นอธิบดีอัยการถาค 7
นายไพรัช พรสมบูรณ์ศิริ อธิบดีอัยการ สำนักงานการยุติการดำเนินคดีแพ่งและอนุญาโตตุลาการ มีผลงานในการพัฒนาปรับระบบการทำงานเพิ่มคุณภาพการดำเนินคดีอนุญาโตตุลาการอำนวยความสะดวกในงานคดีต่าง ๆ ซึ่งในระดับอธิบดีถือว่านายไพรัชมีคิวอาวุโสลำดับต้นๆ ที่เตรียมจะถึงรองอัยการสูงสุดในลำดับปีต่อไป ทั้งในอดีตเคยดำรงตำแหน่งเลขานุการอัยการสูงสุดสมัยนายชัยเกษม นิติสิริ ไปเป็นอธิบดีอัยการสำนักงานคดีศาลเเขวง ซึ่งมีขอบเขตอำนาจพิจารณาสั่งคดีเเขวงทั้งหมดในพื้นที่กรุงเทพฯ
นายศักดา ช่วงรังษี อธิบดีอัยการสำนักงานคดีปกครองภูเก็ต ซึ่งเป็นสำนักงานสำคัญในจังหวัดใหญ่ภาคใต้เนื่องจากภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวมีข้อพิพาทกับนายทุนเป็นเป็นคดีใหญ่เกี่ยวกับโรงเเรมบุกรุกป่าสงวน ซึ่งสำนักงานดังกล่าวจะมีบทบาทในการพิทักษ์ที่ของรัฐเป็นพวกที่ดินผืนป่าเเละชายทะเล จากนายทุน
โดยนายศักดาปัจจุบันเป็นเลขาธิการสำนักอบรมศึกษาเเห่งเนติบัณฑิตยสภาหรือครูใหญ่เนฯ รวมถึงยังได้รับการเลือกตั้งเป็น ก.อ. เป็นศิษย์เก่าสวนกุหลาบ ดีกรีนักเรียนนอกจบป.โทด้านกฎหมายจาก ฮาร์วาร์ดเเละ ป.โท จาก มหาวิทยาลัยดีคิ่น รุ่น 28 ไปเป็นอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญาตลิ่งชัน
นายอิทธิพร เเก้วทิพย์ อธิบดีอัยการสถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายอัยการ ไปเป็นอธิบดีอัยการคดีอาญา ซึ่งนายอิทธิพรถือเป็นลูกหม้อของสำนักงานคดีอาญามาอย่างยาวนานและเป็นมือแก้ต่างคดีอาญาให้กับข้าราชการทั่วประเทศที่ถูกฟ้อง เพราะปฏิบัติราชการตามหน้าที่ จึงได้ในส่วนความเหมาะสม เเละประสบการณ์การทำงานที่จะคุมสำนักงานคดีอาญาซึ่งเป็นสำนักงานสำคัญเเบ่งเป็น 12 กองงาน ที่จะมีคดีใหญ่สำคัญเข้าในพื้นที่สำคัญจาก สน.ต่างๆ ในพื้นที่หลัก รวมถึงรับคดีจากกองปราบปรามเข้ามาพิจารณาสั่งคดีนอกจากนี้นายอิทธิพรมีคิวที่จะขึ้นถึงอัยการสูงสุดในอนาคตด้วย
นายธรัมพ์ ชาลีจันทร์ รองอธิบดีอัยการสำนักงานคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.)ได้ขยับขึ้นเป็นอธิบดีอัยการสำนักงาน ก.อ.ซึ่งเป็นสำนักงานสำคัญมีบทบาทดูแลทำบัญชี เรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการอัยการทั่วประเทศ สำหรับนายธรัมพ์ ที่ได้ขยับขึ้นในสำนักงานเดิมเเปลว่าได้รับความเชื่อใจจากผู้บริหารที่จะจัดบัญชีเเต่งตั้งโยกย้ายอัยการด้วยความเป็นธรรม เเละเหมาะสม นอกจากนี้ยังเคยเป็นโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดมาก่อนนี้ด้วย
นายชาญชัย ชลานนท์นิวัฒน์ รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา เเละรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด อัยการเป็นอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญาพระโขนง
นายวิรุฬห์ ฉันท์ธนนันท์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ ซึ่งเคยเป็นเจ้าของสำนวนคดี กปปส.ที่ศาลอาญามีคำพิพากษาลงโทษเเกนนำหลายคนขึ้นเป็น อธิบดีอัยการสำนักงานคดีเศรษฐกิจ
ในส่วนระดับอธิบดีอัยการสำนักงานสำคัญก็ยังมี น.ส.นารี ตันฑเสถียร อธิบดีอัยการสำนักงานที่ปรึกษากฎหมาย และนายพรชัย ชลวาณิชกุล อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ ซึ่งทั้ง 2 คนเป็น ก.อ.ทั้งคู่ยังอยู่ในตำเเหน่งเดิม จึงไม่มีชื่ออยู่ในบัญชีเเต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้ โดย น.ส.นารีมีคิวที่จะขึ้นเป็น อสส.หญิงคนเเรกของประเทศ โดยคิวต่อจากนายสิงห์ชัย ทนินซ้อน อสส.คนต่อไป หาก ก.อ.ผ่าน
ระดับรองอธิบดีอัยการที่น่าสนใจ มีนายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง อธิบดีอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต ภาค 9 ไปเป็นรองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีศาลเเขวง
สำหรับนายโกศลวัฒน์ เคยดำรงตำเเหน่งผู้อำนวยการสำนักกิจการและโครงการในพระดำริพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา สำนักงานอัยการสูงสุด บทบาทที่ผ่านมาของนายโกศลวัฒน์ ถือเป็นรองโฆษกอัยการฯ ที่มีบทบาทสำคัญในด้านการสนับสนุนการทำงานช่วยเหลือสังคม และผู้ด้อยโอกาสมาโดยตลอด สนับสนุนผู้บำเพ็ญประโยชน์ด้วยการมอบรางวัล “คนดีที่เรายกย่อง” เคยออกหน้าประสานงานด้านกฎหมายช่วยเหลือน้องปาล์ม เด็กที่โดนรถของกระทรวงสาธารณสุขชนจนพิการตลอดชีวิต ซึ่งภายหลังชนะคดีได้รับค่าเสียหายตามคำพิพากษาของศาล เมื่อตอนโดนย้ายไปเป็นรองอธิบดีภาค 9 ก็ได้รับเเต่งตั้งให้เป็นโฆษกอัยการปราบปรามทุจริตภาค 9 เเถลงผลงานการดำเนินคดีทุจริตฯในภาค พร้อมให้ความรู้กฎหมายประชาชนเเละข้าราชการเกี่ยวกับคดีทุจริตฯเพื่อเป็นเเนวทางในการปฏิบัติไม่ให้ต้องคดี ซึ่งได้รับการตอบรับชื่นชม
นายประยุทธ เพชรคุณ อัยการพิเศษฝ่ายสำนักงานอัยการคดีพิเศษ 1 ขึ้นเป็นรองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ สำหรับนายประยุทธ มีบทบาทเป็นที่รู้จักในฐานะรองโฆษกอัยการฯ โดยนั่งตำเเหน่งในทีมโฆษกมายาวนานถึง 3 สมัย 6 ปีซ้อน รับหน้าที่เเถลงคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชน เเละคดีใหญ่สะเทือนขวัญสำคัญหลายคดี จากที่เข้ามาดูคดีพิเศษ เเละเติบโตเป็นระดับรองอธิบดีที่สำนักงานนี้เเสดงว่าได้รับไว้เนื้อเชื่อใจจากผู้บริหาร เพราะสำนักงานคดีพิเศษเป็นสำนักงานที่รับพิจารณาสำนวนคดีของกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ และคดีป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. ซึ่งรวมถึงคดีการเมืองเเละการชุมนุมของม๊อบการเมืองต่างๆ
สำนักงานดังกล่าวจึงมีบทบาทสำคัญ นายประยุทธ จบหลักสูตร วปอ. รุ่นที่ 59 จากวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร เคยดำรงตำแหน่งอัยการจังหวัดหลายจังหวัด เช่น อัยการจังหวัดสมุทรปราการ อัยการจังหวัดสระบุรี อัยการจังหวัดคดีศาลแขวงอุบลราชธานี จากนั้นขยับดำรงตำแหน่งอัยการผู้เชี่ยวชาญพิเศษ สถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายอัยการอยู่ 4 ปี ก่อนจะเลื่อนขึ้นไปดำรงตำแหน่งอัยการพิเศษฝ่ายสำนักยุทธศาสตร์และงบประมาณ รับผิดชอบการบริหารจัดการด้านอาคารและที่ดินของสำนักงานอัยการสูงสุด ยังได้รับแต่งตั้งจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมให้เป็นผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการรื้อฟื้นคดีอาญาขึ้นพิจารณาใหม่ของกระทรวงยุติธรรม และเป็นประธานพัฒนากฎหมายและอนุกรรมการพัฒนากฎหมายของหน่วยราชการอีกหลายคณะ
นายธีรวัฒน์ พุฒิบูรณวัฒน์ เลขานุการอัยการสูงสุด ไปนั่งรองอธิบดีเเรงงานภาค 2 สำหรับนายธีรวัฒน์ เป็นพนักงานอัยการรุ่น 100 ปี และเป็นนักศึกษา วปอ. รุ่นที่ 59 รุ่นเดียวกันกับนายประยุทธ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ผลงานที่โดดเด่นขณะดำรงตำแหน่งเลขานุการอัยการสูงสุด นายธีรวัฒน์ นับเป็นผู้มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนจนเกิดสำนักงานเลขาธิการสำนักงานอัยการสูงสุดและเป็นผู้มีส่วนสำคัญในคณะทำงานด้านยุทธศาสตร์และงบประมาณจนสำนักงานอัยการสูงสุด ได้รับจัดสรรงบประมาณบรรลุวัตถุประสงค์ตามนโยบายของสำนักงานอัยการสูงสุดอย่างยอดเยี่ยมถึงสองปีซ้อน โดยมีประสบการณ์จากที่เคยอยู่สำนักงานนโยบายยุทธศาสตร์
ในส่วนระดับฝ่ายที่น่าสนใจ นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ อัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 2 ไม่ขยับยังนั่งตำเเหน่งเดิม
สำหรับวัชรินทร์ ถือเป็นอัยการมือสอบสวน ฝีมือดี เคยได้รางวัลอัยการดีเด่นจบหลักสูตรเอฟบีไอ จากสหรัฐ รุ่นเดียวกับ ‘บิ๊กดำ’ พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีดีเอสไอ โดยมีผลงานสมัยอยู่สอบสวนลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายเเดนลุยคดีปล้นปืน ล่าสุดได้รับคำสั่งให้ร่วมสอบสวนคดี ฟอกเงิน สหกรณ์รถไฟ หลังดีเอสไอร้องขอ ซึ่งนายวัชรินทร์มีคิวขึ้นระดับ รอง อธ.ปี 65
ระดับอัยการอาวุโสที่น่าสนใจ เรือโทสมนึก เสียงก้อง อัยการอาวุโสสำนักงานคดีอาญา 1 ซึ่งเคยเป็นอดีตโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดไปเป็นอัยการอาวุโสสำนักงานคดีพิเศษ 1
นางอินทรานี สุมาวงศ์ อัยการอาวุโสสำนักงานคดีภาษีอากร ไปเป็นอัยการอาวุโสสำนักงานต่างประเทศ ซึ่งเดิมนั้นนางอินทรานีเคยตกเป็นข่าวดังในคดีที่ถูก พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม อดีตจเรตำรวจ จำเลยในคดีลักพาตัวนายโมฮัมหมัด อัลรูไวลี นักธุรกิจชาวซาอุดิอาระเบียที่ศาลอุทธรณ์ยืนยกฟ้อง ร้อง อสส.ว่า เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการนำพ.ต.ท.สุวิชชัย แก้วผลึกพยานปากเอกในคดีดังกล่าว หนีหมายจับในคดีฆ่าผู้อื่นที่ศาลตัดสินให้จำคุกตลอดชีวิต เดินทางไปยังประเทศสหรัฐอาหรับอาหรับเอมิเรตส์
ส่วนบัญชีอาวุโสตั้งใหม่ที่น่าสนใจได้เเก่ นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อัยการสูงสุด(อสส.) ที่นั่งในตำเเหน่ง 2 ปีไปเป็นอัยการอาวุโสสำนักงานอัยการสูงสุด
นายชัชชม อรรฆภิญญ์ รองอสส. ไปเป็นอัยการอาวุโสสำนักงานวิชาการ
โดยขั้นตอนหลังจากนี้เมื่อ ก.อ.มีมติเเต่งตั้งจะมีการนำเสนอเพื่อโปรดเกล้าฯเเต่งตั้งให้มีผลวันที่ 1 ต.ค.นี้
โดยสามารถตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.cmiss.ago.go.th/images/PR/2564/koror8-2564.pdf?ldtag_cl=EjfclxsgSwKMR2DK3LGVzQAA_oa
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |