รองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส ของสหรัฐ เข้าพบบรรดาผู้นำเวียดนามในวันพุธ หลังจากไฟลต์จากสิงคโปร์ต้องเลื่อนหลายชั่วโมงเพราะความวิตกอาการฮาวานาที่สถานทูตอเมริกัน โดยเธอเสนอให้ความสนับสนุนด้านความมั่นคงทางทะเลเพื่อคัดง้างการอ้างสิทธิของจีน และจะมอบวัคซีนไฟเซอร์เพิ่มอีก 1 ล้านโดส
แฟ้มภาพ รองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส ของสหรัฐ (Photo by Chen Mengtong/China News Service via Getty Images)
รายงานรอยเตอร์เมื่อวันพุธที่ 25 สิงหาคม อ้างเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวว่า รองประธานาธิบดีแฮร์ริสได้พบหารือกับประธานาธิบดีเหงียน ซวน ฟุก, รองประธานาธิบดีหวอ ถิ อันห์ ซวน และนายกรัฐมนตรีฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ ที่กรุงฮานอยในวันพุธ ระหว่างการพบกับประธานาธิบดีเวียดนาม แฮร์ริสกล่าวถึงความจำเป็นที่ต้องเพิ่มแรงกดดันจีน กรณีการอ้างสิทธิของจีนเหนือทะเลจีนใต้เกือบทั้งหมด
"เราจำเป็นต้องหาวิธีกดดัน, เพิ่มแรงกดดัน ให้ปักกิ่งปฏิบัติตามอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล และเพื่อท้าทายการระรานและการอ้างสิทธิทางทะเลเกินขอบเขตของจีน" รองประธานาธิบดีสหรัฐกล่าว
ก่อนหน้านี้ ระหว่างเยือนสิงคโปร์นาน 2 วัน แฮร์ริสก็โจมตีจีนในลักษณะเดียวกัน โดยระบุว่าจีนใช้การบีบบังคับและขู่ขวัญเพื่อสนับสนุนการอ้างสิทธิโดยมิชอบด้วยกฎหมายของจีนเหนือพื้นที่พิพาทในทะเลจีนใต้ แต่รัฐบาลจีนปฏิเสธคำกล่าวของเธอ และตอบโต้กลับว่า สหรัฐพยายามตอกลิ่มสร้างความแตกแยกระหว่างจีนกับเพื่อนบ้านในภูมิภาคอาเซียน
ช่วงหลายปีมานี้ จีนมีความขัดแย้งกับหลายประเทศกรณีการอ้างสิทธิเหนือทะเลจีนใต้ ซึ่งทับซ้อนกับบรูไน, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์, ไต้หวัน และเวียดนาม โดยจีนได้วางกำลังยุทโธปกรณ์รวมถึงมิสไซล์ต่อต้านเรือและมิสไซล์ชนิดยิงจากพื้นสู่อากาศไว้ตามด่านนอกที่จีนถมสร้างเป็นเกาะเทียมขึ้นตามแนวพืดปะการังและหินโสโครก ทั้งยังเมินคำตัดสินของคณะอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศเมื่อปี 2559 ที่ปฏิเสธการอ้างสิทธิของจีนเหนือทะเลจีนใต้เกือบทั้งหมด
เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวรายเดิมกล่าวว่า แฮร์ริสได้เสนอให้การสนับสนุนด้านความมั่นคงทางทะเลแก่เวียดนาม รวมถึงการส่งเรือของกองทัพเรือและเรือบรรทุกเครื่องบินมาเยือน
นอกจากนี้ รองประธานาธิบดีสหรัฐยังเสนอส่งวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของไฟเซอร์ให้แก่เวียดนามเพิ่มอีก 1 ล้านโดส ทำให้ยอดวัคซีนที่สหรัฐบริจาคให้เวียดนามเพิ่มเป็น 6 ล้านโดส ทั้งยังจะให้เงินอีก 23 ล้านดอลลาร์เพื่อสนับสนุนความพยายามของเวียดนามในการต่อสู้กับโควิด-19
แฮร์ริสเดินทางมาถึงเวียดนามเมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา ล่าช้ากว่ากำหนดเดิมราว 3 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่กล่าวกันว่าเป็นเพราะสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำเวียดนามกล่าวว่าตรวจพบ "เหตุการณ์ผิดปกติด้านสุขภาพ" ซึ่งอาจจะเกี่ยวข้องกับกลุ่มอาการฮาวานาที่ยังเป็นปริศนาจนถึงขณะนี้
อาการเจ็บป่วยดังกล่าวเกิดกับเจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐในหลายประเทศรวมถึงจีนและรัสเซีย โดยยังสรุปสาเหตุไม่ได้ แต่สหรัฐกล่าวหาว่าเป็นฝีมือของรัสเซียหรือประเทศอื่นๆ ใช้อุปกรณ์โซนิกหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ความเข้มสูงเป็นเครื่องมือ
ระหว่างที่เที่ยวบินของแฮร์ริสดีเลย์ นายกฯ ฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ ของเวียดนามและเอกอัครราชทูตจีนประจำเวียดนามได้พบปะกันโดยไม่ประกาศกำหนดการล่วงหน้า โดยนายกรัฐมนตรีเวียดนามย้ำว่าเวียดนาม "จะไม่เข้าข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด" ส่วนทูตจีนเผยว่า จีนจะบริจาควัคซีนแก่เวียดนาม 2 ล้านโดส.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |