ผบ.ตร.ซุ่มเงียบ ดอดกลับถึงไทย ผวาตอบจับพระ


เพิ่มเพื่อน    

  “จักรทิพย์” ดอดเงียบถึงไทยก่อนกำหนด   เพื่อเลี่ยงตอบคำถามได้ตัว "อดีตพระพรหมเมธี" หรือไม่  วิชามารพรึ่บ! เต้าข่าวสรรพากรรีดภาษีวัด “ธรรมกาย” ออกประกาศย้ำสาวกช่วงนี้อ่อนไหว!

มีรายงานแจ้งว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ซึ่งได้เดินทางพร้อมกับ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. ไปยังกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ตามคำเชิญของตำรวจฝรั่งเศส เพื่อเยี่ยมชมงานอาวุธนานาชาติตั้งแต่คืนวันที่ 10 มิ.ย.ได้กลับถึงไทยแล้วตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 15 มิ.ย. ทั้งที่กำหนดเดิม พล.ต.อ.จักรทิพย์จะเดินทางกลับถึงไทย โดยสายการบินไทยเที่ยวบินที่ TG 931 จากสนามบินปารีสชาร์ลส์เดอโกลในวันที่ 15 มิ.ย. เวลา 13.40 น. ถึงสนามสุวรรณภูมิ ในวันที่ 16 มิ.ย. เวลา 05.55 น.
ทั้งนี้ มีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมากว่าการเดินทางไปยังฝรั่งเศสของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ครั้งนี้ น่าจะมีอะไรมากกว่าการไปดูเรื่องอาวุธอย่างเดียว เพราะฝรั่งเศสเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ของตำรวจสากลหรืออินเตอร์โพล รวมทั้งยังสามารถไปที่ประเทศเยอรมนี เพื่อเจรจาขอรับตัวอดีตพระพรหมเมธี (จำนงค์ เอี่ยมอินทรา) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศารามฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับฐานร่วมกันฟอกเงินคดีทุจริตเงินทอนวัดกลับมาดำเนินคดีในไทยได้ 
รายงานแจ้งอีกว่า การเดินทางกลับมาก่อนกำหนดการเดิมที่วางไว้นั้น เพื่อหลีกเลี่ยงการตอบคำถามของสื่อมวลชนในกรณีอดีตพระพรหมเมธี เหมือนเมื่อวันที่ 6 มิ.ย. ที่กลับจากเยอรมนีในครั้งแรก พล.ต.อ.จักรทิพย์ก็ได้หลบเลี่ยงเพื่อตอบคำถามเรื่องดังกล่าวมาแล้วครั้งหนึ่ง
วันเดียวกัน พบว่าในโลกออนไลน์ โดยเฉพาะในเครือข่ายที่ไม่เห็นด้วยกับการจับพระสงฆ์ในคดีเงินทอนวัด ได้มีการแชร์ข้อความว่า หลังจากผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) จะให้พระจัดทำบัญชีแล้ว ต่อไปกรมสรรพากรจะเก็บภาษีจากวัด และต้องการให้พระทุกรูปเสียภาษีผ่านบัญชีกลางของวัด ทำให้กรมสรรพากรต้องออกเอกสารชี้แจงว่า วัดไม่ได้เป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลตามประมวลรัษฎากร จึงไม่มีหน้าที่เสียภาษี รายได้ที่วัดได้รับจึงไม่มีภาระภาษี และกรมไม่จำเป็นต้องตรวจสอบรายได้หรือตรวจสอบการเสียภาษีของวัดแต่อย่างใด
        “กรมได้จัดทำระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์เพื่ออำนวยความสะดวกให้วัดและผู้บริจาคเงินที่ประสงค์จะใช้สิทธิลดหย่อนภาษีเท่านั้น โดยเมื่อวัดกรอกข้อมูลการรับบริจาคบนระบบของกรมสรรพากรแล้ว วัดจะไม่มีภาระในการจัดทำใบอนุโมทนาบัตร รวมถึงผู้เสียภาษีก็ไม่ต้องเก็บหลักฐานการบริจาคเงินเพื่อเป็นหลักฐานในการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้ และในส่วนของวัดที่มีการรับบริจาคผ่าน QR Code เป็นการให้บริการของธนาคารแก่วัดตามความสมัครใจของวัด ซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับกรมสรรพากร” เอกสารระบุ
        กรมสรรพากรยังระบุว่า การกำหนดให้วัดต้องจัดทำบัญชี ลงบัญชีรายรับรายจ่าย หรือรายการต่างๆ นั้น ไม่ได้อยู่ในการกำกับดูแลของกรม และไม่ได้มีนโยบายให้วัดต้องจัดทำบัญชีดังกล่าว โดยหากมีข้อสงสัยสอบถามข้อมูลได้ที่สำนักงานสรรพากรทุกแห่งทั่วประเทศ หรือศูนย์สารนิเทศสรรพากร โทร.1161
    ขณะเดียวกัน มีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจในเพจ สำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย ในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา โดยได้มีการโพสต์ข้อความประกาศว่า เรื่องการรับฟังข้อมูลข่าวสารขององค์กร เนื่องจากสถานการณ์ข่าวพระพุทธศาสนาในช่วงนี้อยู่ในภาวะอ่อนไหว และเสี่ยงต่อการตกเป็นเครื่องมือของผู้ไม่ปรารถนาดีใช้ปล่อยข่าวลือที่ไม่เป็นความจริง หรือชักชวนไปทำกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการฝ่าฝืนกฎหมาย ดังนั้นเพื่อการรับข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง จึงขอความร่วมมือสมาชิกภายในองค์กรให้รับฟังและส่งต่อข้อมูลข่าวสารจากช่องทางของสำนักสื่อสารองค์กร หรือหากมีข้อสงสัย สอบถามที่ Line @dhammakaya_news หรือโทร. 0-2831-1000 ระหว่างเวลา 08.30-17.30 น. ขอประกาศมาให้ทราบโดยทั่วกัน สำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"